จับหนุ่มเมียนมาแก๊งลักรถจยย. แทงตำรวจชุมพรดับ

จับหนุ่มเมียนมาแก๊งลักรถจยย. แทงตำรวจชุมพรดับ

จับหนุ่มเมียนมาแก๊งลักรถจยย. แทงตำรวจชุมพรดับ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (13 ก.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. สภ.ปากน้ำชุมพร คุมตัว นายซู อายุ 22 ปี สัญชาติเมียนมา แก๊งโจรกรรมรถจยย. ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังใช้อาวุธมีดพกปลายแหลมแทง ด.ต.ไพบูลย์ สมหวัง อายุ 47 ปี ผบ.หมู่(ป) สภ.ปากน้ำชุมพร ขณะปฏิบัติหน้าที่เสียชีวิตที่ริมถนน หน้าสะพานปลาปากน้ำชุมพร

สืบเนื่องจาก ขณะที่ ด.ต.ไพบูลย์ ขณะปฏิบัติหน้าที่ได้รับแจ้งจากวิทยุสื่อสาร ว่ามีชายต้องสงสัยเป็นแก๊งโจรกรรมรถจยย.มาป้วนเปี้ยนคอยก่อเหตุ ที่หน้าสะพานปลาปากน้ำชุมพร ขณะเข้าไปตรวจสอบพบนายซู เมื่อนายซูรู้ว่าเป็นตำรวจจึงชักอาวุธมีดปลายแหลม แทงสวนเข้าที่ชายโครงขวาจนล้มลง

ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ได้เข้ามาช่วยนำส่ง รพ.ปากน้ำชุมพร แต่ ด.ต.ไพบูลย์ เสียชีวิตในเวลาต่อมา จากนั้นนายซูได้วิ่งหลบหนีไปในป่าละเมาะ ฝั่งถนนตรงข้าม ห่างจากจุดเกิดเหตุ 200 เมตร และถูกกำลังเจ้าหน้าที่ล้อมจับในที่สุด

จากการสอบสวน นายซูซึ่งสามารถพูดไทยได้ชัดเจน ทราบว่า ได้หลบหนีเข้าเมืองมาอยู่ในพื้นที่ จ.ชุมพร นานหลายปีแล้ว ได้ตั้งแก๊งร่วมกับเพื่อนๆ ชาวเมียนมา 4-5 คน ออกตระเวนลักรถจยย.ในพื้นที่ จ.ชุมพร ระนอง และสุราษฎร์ธานี ส่งไปขายยังประเทศบ้านเกิด จำนวนหลายคันแล้ว

ล่าสุด เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่งลักรถจยย.ทะเบียน 1 กค 6364 ชุมพร ของชาวบ้านในพื้นที่ปากน้ำชุมพร นำออกไปขาย และได้ย้อนกลับมาที่เดิมเพื่อจะก่อเหตุอีก แต่มีชาวบ้านจำหน้าได้และแจ้งตำรวจ

จากนั้น ด.ต.ไพบูลย์ ขณะปฏิบัติหน้าที่ได้ยินรายงานจากวิทยุสื่อสารจึงเดินทางไปตรวจสอบ แต่ถูกนายซูแทงเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้สอบสวนนายซูเพื่อขยายผลติดตามจับกุมเพื่อนร่วมแก๊งโจรกรรมรถที่เหลือ มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สำหรับ ด.ต.ไพบูลย์ สมหวัง อายุ 47 ปี ผบ.หมู่(ป)สภ.ปากน้ำชุมพร เป็นนักเรียนโรงเรียนตำรวจภูธรภาค 7 นครปฐม รุ่น 41 บรรจุรับราชการตำรวจที่ สภ.ปากน้ำชุมพร เมื่อปี พ.ศ.2534 จนถึงปัจจุบัน มีความขยันซื่อสัตย์สุจริตต่อหน้าที่ เป็นที่รักใครชื่นชมของเพื่อนตำรวจและผู้บังคับบัญชา

ด.ต.ไพบูลย์ สมรสกับ นางสะอาด สมหวัง อายุ 45 ปี มีบุตรชาย 1 คน อายุ 17 ปี ได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศลอยู่ที่วัดปากน้ำชุมพร ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของครอบครัว ญาติๆ และเพื่อนร่วมงาน โดยทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้พิจารณาปูนบำเหน็จความดีความชอบตามระเบียบ เนื่องจากเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook