เหยื่อหมูแฮมพอใจคำพิพากษา แจงภรรยาต้องพิการตลอดชีพ
เหยื่อคดีหมูแฮม พอใจคำตัดสินศาล ลงโทษจำเลย เผย ชีวิตภรรยาตกงานและพิการตลอดชีวิต เพราะการกระทำของคนอื่น
(30ม.ค.) นายแสง (นามสมมุติ) สามีของน.ส.สังวาลย์ สีหะวงศ์ อายุ 30 ปีภูมิลำเนา จ.ศรีษะเกษ หนึ่งในเหยื่อผู้บาดเจ็บจากการกระ ทำของนายกัณฑ์พิทักษ์ ปัจฉิมสวัสดิ์ หรือหมูแฮม ขับรถเบ็นซ์พุ่งชนรถโดยสารประจำทางสาย 513 จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก กล่าวว่า ภายหลังรอคอยการพิจารณาลงโทษของศาลมานานกว่า 2 ปีตั้งแต่หลังเกิดเหตุจนวันนี้ ทางครอบครัวรู้สึกพอใจคำตัดสินของศาลในการลงโทษคนทำผิด แต่ไม่ได้รับในส่วนของค่าเสียหายที่จำเลยชดใช้ให้กับผู้ได้รับบาดเจ็บรายละ 8 แสนบาท หากแลกกับความพิการที่ขาข้างขวาของภรรยา เพราะหลังประสบอุบัติเหตุในคืนนั้นภรรยาต้องออกจากงานต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาลนาน 6 เดือน
จากนั้นก็พักรักษาตัวที่บ้านนานร่วม 2 ปีเพราะมีบาดแผลไหม้ที่หลัง ลำตัวและแขนขาทั้งสองข้าง มีรอบแผลเป็นพังผืดที่แขน ขาขวาที่หักก็ยังต่อไม่เข้าที่ต้องไปทำกายภาพบำบัดต่อเนื่องตอนนี้ขาสองข้างไม่เสมอกันเวลาเดินก็กระโผกกระเผก
นายแสง กล่าวต่อว่า ภรรยาเพิ่งไปทำงานได้เมื่อต้นเดือนมกราคม 2552 ที่ผ่านมา ตอนนี้ยังไม่ได้เงินเดือน ช่วงเวลา 2 ปีหลังประสบอุบัติเหตุต้องทำงานหาเลี้ยงดูแลเมียและลูกสาวคู่แฝด 2 คนลำบากมาก จากเดิมตอนที่ภรรยาทำงานเป็นพนักงานนวดแผนโบราณได้เงินเดือนๆละ 15,000 บาทมีเงินพิเศษและค่าทิปรวมแล้วอีก 4-5 พันบาทต่อเดือนรวมๆก็เกือบ 2 หมื่น แต่พอเกิดอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากการกระทำของคนอื่นทำให้ครอบครัวเดือดร้อนมาก จากนี้ไปครอบครัวของเราคงต้องก้มหน้ารับกรรมต่อไปเพราะมีค่าใช้จ่ายทุกวันจะหวังเพิ่งใครคงไม่ได้ ที่ผ่านมาได้ปรึกษากับทนายความโดยตลอดและเหยื่อที่ได้รับบาดเจ็บด้วยกันว่า ควรเรียกค่าเสียหายจากการบาดเจ็บประมาณ 2 แสนบาทแต่เมื่อได้แค่นี้ก้ต้องปรึกษาทนายความอีกทีว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเหตุการณ์สะเทือนขวัญดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 21.40 น. วันที่ 4 กรกฎาคม 2550 บริเวณริมทางเท้าแยกอารีย์ ถนนสุขุมวิท 26 ฝั่งขาออก แขวงคลองเตย เขตวัฒนา กทม. ทันทีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อเดินทางไปถึงพบรถโดยสารประจำทางปรับอากาศร่วมบริการสาย 513 สีฟ้าขาว เลขข้างรถ 36700 ทะเบียน 12-0939 กทม. จอดอยู่ริมถนน และพบนายกัณฑ์พิทักษ์ นั่งอยู่ในรถเบนซ์ สีดำ ทะเบียน ศศ- 6699 กทม. สภาพรถถูกทุบจนบุบหลายแห่งจากการรุมประชาทัณฑ์ของผู้โดยสารที่นั่งในรถประจำทางคันเกิดเหตุต่างหยิบเอาไม้และก้อนหินมาขว้างทุบตีกระจกและตัวถังรถเบนซ์ จนเจ้าหน้าที่มูลนิธิต้องเข้าห้ามก่อนลำเลียงผู้บาดเจ็บจากใต้ท้องรถเบนซ์นำส่งโรงพยาบาลซึ่งหนึ่งในนั้นมีนางสาวสังวาลย์รวมอยู่ด้วย เจ้าหน้าที่มูลนิธิช่วยกันดึงร่างผู้บาดเจ็บสาหัสออกมาท่ามกลางเสียงร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด และยังมีผู้โดยสารบาดเจ็บอีกประมาณ 10 คน โดยนางสาวสังวาล นั้นได้ลงรถโดยสารประจำทางในฝั่งตรงข้ามและกำลังเดินข้ามถนนมาอีกฝั่งเพื่อกลับบ้านพร้อมหิ้วถุงกับข้าวพะรุงพะรัง แต่จู่ก็มีรถเบนซ์ขับมาจากด้านหลังพอรู้ตัวอีกทีก็เข้านอนอยู่ใต้ท้องรถในที่สุด