"อุดมเดช" เผย ไม่เห็นหนังสือ "สุเทพ" ขอแถลงข่าว
พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก เดินทางมายังกองการบิน กรมการขนส่งทหารบก เพื่อขึ้นเครื่องบินก่อนออกเดินทางไปยังจังหวัดปัตตานีเพื่อปฎิบัติภารกิจตรวจเยี่ยม ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
โดยวันนี้จะมีการมอบโรงเรียนที่เพิ่งสร้างเสร็จ จากเหตุการณ์การถูกลอบวางเพลิง โดย พล.อ.อุดมเดช ระบุว่า สถานการณ์ในขณะนี้หากเปรียบเทียบกับเดือนที่ผ่านมา พบว่าความรุนแรงลดลง ยืนยันทุกหน่วยงานมีความตั้งใจในการปฎิบัติงาน จึงขอกำลังใจจากประชาชน เชื่อว่าแนวโน้มสถานการณ์จะดีขึ้น
ส่วนกรณีการใช้แนวคิดให้พระอยู่วัดและให้คนมาทำบุญเพื่อลดโอกาสการก่อเหตุความรุนแรง นั้น ยืนยันว่าการบิณฑบาต เป็นพุทธบัญญัติ จะต้องดำเนินไปตามปกติ แต่หากมีข่าวว่าจะเกิดความรุนแรง ก็อาจขอให้ชะลอไว้
ส่วนกรณีที่สหรัฐฯ จัดอันดับการค้ามนุษย์ของไทยอยู่ในระดับต่ำ หรือเทียร์ 3 พล.อ.อุดมเดช ระบุว่า ในส่วนความมั่นคงได้ทำงานอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการดำเนินคดีอย่าง ตรงไปตรงมา ยืนยันว่ารัฐบาลดำเนินการกับผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างถูกต้อง ชัดเจนตามกระบวนการยุติธรรม
อย่างไรก็ตาม เห็นว่าไม่จำเป็นวิจารณ์ผลการจัดอันดับดังกล่าว และรัฐบาลไทยจะดำเนินการเช่นเดิมต่อไป ทั้งนี้ในส่วนการกำจัดผู้มีอิทธิพล หากใครมีเบาะเเสก็ขอให้แจ้งฝ่ายความมั่นคงดำเนินการทันที
ส่วนการจัดอันดับดังกล่าวจะเป็นเรื่องทางการเมืองหรือไม่นั้น พล.อ.อุดมเดช ระบุว่า การมองว่าเป็นการเมืองเเทรกเเซงหรือไม่ ก็อยู่ที่สังคมจะพิจารณา ยืนยันว่าทุกชาติเป็นมิตรที่ดีต่อกัน จึงต้องรักษาความสัมพันธ์กันไว้ รัฐบาลก็จะเฝ้ามองต่อไป หากปีต่อไปมีการพิจารณาหวังว่าจะปรับ ไทยให้ดียิ่งขึ้น
ส่วนกรณี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือกปปส. ที่ลาสิกขา และเตรียมเเถลงจุดยืนทางการเมืองนั้น ฝ่ายความมั่นคงยืนยันในจุดยินที่จะรักษาความเรียบร้อย ไม่ว่าฝ่ายใดจะเคลื่อนไหว หากมีการพบปะพูดคุยที่ส่อว่าจะเกิดความไม่เรียบร้อย ก็จะเฝ้าดู
ทั้งนี้ หากเป็นการสัมมนาทางวิชาการที่เป็นประโยชน์ ก็สามารถทำได้ แต่หากกระทบความมั่นคง หรือมีเนื้อหาการเมือง ก็จะไม่อนุญาตให้ทำ และขอให้ทุกคนที่จะเเสดงออกพึงระวัง เพราะ คสช.ต้องรักษาการปฏิบัติตามกรอบเดิมไว้ โดยส่วนตัวยังไม่เห็นหนังสือขออนุญาต หากเป็นเรื่องขอตั้งมูลนิธิ หรืองานวิชาการ ก็ไม่ว่าอะไร แต่ถ้าเป็นเรื่องการเมืองรัฐบาลไม่อนุญาต ยืนยันจะใช้มาตรฐานเดียวกัน และ ไม่จำเป็นต้องจับตาเป็นพิเศษ