ม็อบไล่ "แม่ชีเชอรี่" ปะทุอีก ยื่นคำขาดให้ออกจากวัด ถ้าแจงข้อครหาไม่ได้ ขีดเส้นตาย 18 ส.ค.

ม็อบไล่ "แม่ชีเชอรี่" ปะทุอีก ยื่นคำขาดให้ออกจากวัด ถ้าแจงข้อครหาไม่ได้ ขีดเส้นตาย 18 ส.ค.

ม็อบไล่ "แม่ชีเชอรี่" ปะทุอีก ยื่นคำขาดให้ออกจากวัด ถ้าแจงข้อครหาไม่ได้ ขีดเส้นตาย 18 ส.ค.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(31 ก.ค.58) เมื่อเวลา 10.00 น. ชาวบ้านในพื้นที่ อ.สวี และอำเภอใกล้เคียงประมาณ 200 คน นำโดย นางนวพันธ์ แก้วนาโพธิ์ อายุ 75 ปี ข้าราชการครูบำนาญ นายวีระวัฒน์ ชนะ อายุ 63 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.นาโพธิ์ อ.สวี และ นายจตุรวิทย์ สมบัติบริบูรณ์ อายุ 37 ปี ได้ชุมนุมภายในวัดถ้ำขวัญเมือง อ.สวี จ.ชุมพร เพื่อต้องการพบ พระครูสุธรรมวีราจารย์ หรือ พระมหาสมใจ เจ้าอาวาส และต้องการขับไล่ นางสาวสุปริญญา หรือ แม่ชีเชอรี่ ที่เคยปรากฏเป็นข่าวว่ามีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เช่น ขับรถหรูยี่ห้อปอร์เช่ และใช้กระเป๋าแบรนด์เนมราคาแพงออกจากวัด

มีการนำรถติดเครื่องขยายเสียงและชูแผ่นป้ายมีข้อความโจมตีเจ้าอาวาสและแม่ชีเชอรี่ โดยมี พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ ประเสริฐผล ผกก.สภ.สวี นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบประมาณ 30 นาย และนายบุญก้อง ศรีสงคราม ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อำเภอสวี นำกำลังอาสาสมัคร (อส.) จำนวน 30 นาย มาคอยดูแลความสงบเรียบร้อย เนื่องจากเกรงว่าอาจมีการกระทบกระทั่งกันระหว่างผู้ชุมนุมกับผู้ที่มาปฏิบัติธรรม เพราะในวัดกำลังมีการจัดกิจกรรมเนื่องในวันเข้าพรรษา ซึ่งมีบรรดาญาติโยมทั้งในพื้นที่และต่างจังหวัดนุ่งห่มชุดขาวมาร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก

นางนวพันธ์กล่าวว่าชาวบ้านต้องการพบพระมหาสมใจหลังมีการประชุมร่วมกันเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2538 ในเรื่องแม่ชีเชอรี่ แต่จนบัดนี้ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าวัดถ้ำขวัญเมืองจะดำเนินการอย่างไร และชาวบ้านเคยยื่นหนังสือถึงจังหวัดชุมพร สำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดชุมพรมานานกว่า 1 ปี และยื่นเรื่องถึง ผบก.จทบ.ชุมพรเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2558 แต่ก็ยังไม่มีความชัดเจนเช่นกัน

ดังนั้น จึงอยากเสนอว่าหากจะมีการปฏิรูปบ้านเมืองต้องมีการปฏิรูปวงการศาสนาควบคู่กันไปด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้คนที่ไม่มีอาชีพมาอาศัยผ้าเหลืองและชุดขาวเป็นเครื่องมือหากิน ถ้าเจ้าอาวาสยังไม่ออกมาพบชาวบ้าน และแม่ชีเชอรี่ยังไม่ออกจากวัดภายในวันนี้ ทุกคนก็จะปักหลักกินนอนอยู่ในวัดจนกว่าข้อเรียกร้องจะบรรลุผล นอกจากแม่ชีเชอรี่จะมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมแล้ว ชาวบ้านยังมีหลักฐานว่า แม่ชีเชอรี่นำเงินจำนวน 4 ล้านบาท ไปฝากธนาคารออมสิน สาขาพะโต๊ะ แต่แม่ชีเชอรี่ปฏิเสธในการประชุมเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2558 ว่าไม่เป็นความจริง

ต่อมา นายนิเวศน์ ชลังสุทธิ์ กรรมการวัดถ้ำขวัญเมือง ได้รับมอบหมายจากพระมหาสมใจให้ลงมาพบผู้ชุมนุม โดยระบุว่าข้อร้องเรียนของชาวบ้านได้ถึง ผบก.จทบ.ชุมพร แล้ว และได้ข้อสรุปว่าไม่มีมูล หลักฐานต่างๆ ก็ไม่มี ทั้งที่ทางวัดต้องการประเด็นที่ชาวบ้านสงสัยและหลักฐานที่มีการกล่าวหา เพื่อจะได้ชี้แจงทีละประเด็น ดังนั้น เรื่องจึงน่าจะจบได้แล้ว แต่กลับมีการชุมนุมขับไล่แม่ชีเชอรี่ให้วุ่นวายในวันที่กำลังจัดกิจกรรมวันเข้าพรรษา ต่อจากนั้นได้มีการโต้ตอบระหว่างนายนิเวศน์กับนางนวพันธ์อยู่ประมาณ 10 นาที

นายบุญก้อง ได้พยายามพูดจาไกล่เกลี่ย แต่ผู้ชุมนุมยังคงยืนกรานให้เจ้าอาวาสออกมาพบ และผู้ชุมนุมประมาณ 20 คนได้เดินขึ้นไปยังกุฏิเจ้าอาวาส เพื่อต้องการทราบว่าพระมหาสมใจและแม่ชีเชอรี่อยู่ในกุฏิหรือไม่ แต่ชายหนุ่มร่างกายกำยำที่อ้างว่าเป็นลูกศิษย์ของพระมหาสมใจในชุดนุ่งห่มขาวได้ยืนขวางเอาไว้ โดยบอกว่าห้ามเข้าหากใครเข้าถือว่าผิดกฎหมาย จนเจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 นายต้องขึ้นไปห้ามเนื่องจากเกรงว่าจะมีเหตุการณ์รุนแรง

ทั้งนี้ ในเวลา 16.00 น. ผู้ชุมนุมบางส่วนยังคงปักหลักชุมนุมอยู่หน้ากุฏิเจ้าอาวาส แต่บางส่วนได้กลับออกไป โดยยืนยันว่าจะกลับมาร่วมชุมนุมอีกในช่วงกลางคืน จนกว่าเจ้าอาวาสจะออกมาพบผู้ชุมนุมและแม่ชีเชอรี่ออกจากวัดถ้ำขวัญเมืองไป

ล่าสุด ในเวลา 19.00 น.พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ และ นายบุญก้อง ได้พยายามเจรจากับผู้ชุมนุม จนได้ข้อสรุปว่า ชาวบ้านจะให้เวลา 15 วัน นับจากวันที่ 3 สิงหาคม 2558 เพื่อให้ทางวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเรื่องนี้ให้ชัดเจน ทั้งในเรื่องเงินบริจาคของวัด และเรื่องแม่ชีเชอรี่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม หากครบกำหนดในวันที่ 18 สิงหาคม 2558 แล้วยังไม่มีบทสรุปใดๆ ที่น่าพอใจ ชาวบ้านจะมีการชุมนุมใหญ่เพื่อกดดันวัดถ้ำขวัญเมืองที่เป็นวัดของประชาชนชาวชุมพรอีกครั้งหนึ่ง จากนั้น จึงสลายการชุมนุมแยกย้ายกันเดินทางกลับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook