เปิดใจนักเรียนนายสิบตำรวจ สวมเครื่องแบบก้มกราบพ่อแม่

จากกรณีที่โลกโซเชียลเน็ตเวิร์คได้มีการแชร์ภาพนักเรียนนายสิบตำรวจ สวมชุดนักเรียนตำรวจ กางเกงสีกากี สวมใส่เสื้อแขนยาวสีขาว ผูกเนคไท สวมรองเท้าหนังหุ้มส้น กำลังก้มกราบเท้าของ บิดา มารดา ที่กำลังทำงานในสวน จนเป็นที่จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงความกตัญญูของนักเรียนนายสิบตำรวจรายนี้

จากการตรวจสอบพบว่า เป็นนักเรียนของโรงเรียนนายสิบตำรวจจอหอ ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา สังกัดตำรวจภูธรภาค 3 ทราบชื่อ นักเรียนนายสิบตำรวจสิทธิชัย จับใจ อายุ 20 ปี บ้านอยู่ที่ หมู่ 1 ต.กุยบุรี อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (4 ส.ค.) พ.ต.อ.ยศนันท์ ชมบุญ ผู้กำกับการฝ่ายปกครองและการฝึก ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 3 กล่าวว่า ภาพดังกล่าวเป็นนักเรียนนายสิบของศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 3 จริง เป็นผู้เข้ารับการอบรมหลักสูตรนายสิบตำรวจ ประจำปี 2558 รุ่น 61 ของศูนย์ฝึกอบรมตำรวจจอหอ จากทั้งหมด 1,161 คน เป็นนักเรียนที่สอบได้ในสังกัดตำรวจนครบาล แต่ถูกส่งมาเข้ารับการฝึกหลักสูตรที่ จ.นครราชสีมา เริ่มฝึกตั้งแต่เดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา

ตนขอชื่นชมในการแสดงออกของนักเรียนนายสิบตำรวจสิทธิชัย ถือเป็นตัวอย่างที่ดีแก่นักเรียนนายสิบตำรวจทุกรุ่น ที่มีความกตัญญูรู้คุณต่อบิดามารดา โดยนักเรียนนายสิบตำรวจจอหอ รุ่นที่ 61 นี้ จะทำการฝึกหลักสูตรการสร้างบุคลิกภาพตำรวจที่ดี การให้ความรู้คู่คุณธรรม ใช้เวลาฝึกอบรม 1 ปี จากนั้นจะได้รับการติดยศ สิบตำรวจตรี ก่อนออกไปรับราชการตำรวจในสังกัดที่แต่ละคนสอบได้ โดยนักเรียนนายสิบตำรวจสิทธิชัย จะอยู่สังกัดตำรวจนครบาล ทางผู้บังคับบัญชาทุกระดับก็ฝากแสดงความชื่นชม และอยากให้เป็นตัวอย่างแก่เพื่อนนักเรียนนายสิบตำรวจ รวมถึงเยาวชน

ด้าน นักเรียนนายสิบตำรวจสิทธิชัย จับใจ อายุ 20 ปี กล่าวว่า ตนเองนั้นมีพี่น้องทั้งหมด 3 คน เป็นผู้ชายทั้ง 3 คน โดยตนนั้นเป็นลูกคนกลาง มีบิดาชื่อนายปรีชา จับใจ อายุ 64 ปี และมารดาชื่อนางสมัย จับใจ อายุ 55 ปี อาชีพทำสวน และเมื่อตนเองสอบได้ในสังกัดตำรวจนครบาล ก็ได้มาฝึกอยู่ที่ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 3 เป็นระยะเวลากว่า 2 เดือน ตนเองไม่เคยได้กลับบ้านที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เนื่องจากการเดินทางนั้นต้องใช้ระยะเวลา อีกทั้งก็จะต้องใช้เงินในการเดินทางเป็นจำนวนมาก จึงทำให้ตนเองเลือกที่จะเดินทางกลับวันหยุดเทศกาลเข้าพรรษาที่ผ่านมา ได้หยุด 4 วัน ได้กลับบ้านเป็นครั้งแรกไปหาครอบครัว

ซึ่งชุดที่ทางศูนย์อบรมตำรวจภูธรภาค 3 ได้ให้สวมใส่กลับนั้นเป็นชุดวอร์มสีเขียว แต่เนื่องจากตนเองต้องการที่สวมใส่ชุดตำรวจ เพื่อให้พ่อกับแม่ได้เห็นเป็นครั้งแรก และภาคภูมิใจกับความสำเร็จของตนเอง ตนจึงตัดสินใจที่จะแอบเอาชุดนักเรียนนายสิบตำรวจ ที่ทางศูนย์ฯได้มอบมาให้ แต่ยังไม่ให้ใส่ เอาออกไปสวมใส่ให้พ่อกับแม่ได้เห็น และเมื่อตนเดินทางถึงบ้านในช่วงเช้าวันที่ 30 ก.ค. ที่ผ่านมา ตนก็พบว่าพ่อกับแม่กำลังทำสวน จึงรีบนำพวงมาลัยที่เตรียมไปเข้าไปสวมกอดพร้อมกราบเท้าพ่อแม่ โดยผู้ที่บันทึกภาพในวันนั้น เป็นพี่ชายของตนก่อนที่จะนำไปโพสต์

ส่วนในกรณีที่ทางศูนย์ฯยังไม่ได้อนุญาตให้สวมใส่ชุดนักเรียนนายสิบตำรวจ ออกไปนอกสถานที่นั้น และตนเองยังคงฝ่าฝืน ตนก็ทำใจไว้ส่วนหนึ่งแล้วที่จะต้องถูกลงโทษ ซึ่งตนเองยอมรับว่าก่อนหน้านี้ตนเองเคยสอบนายสิบตำรวจมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ในครั้งนั้นติดเป็นตัวสำรอง พ่อแม่ก็ดีใจที่ตนเองสอบติด จนกระทั่งมีการเปิดสอบอีกครั้ง ตนจึงตัดสินใจสอบใหม่ และในครั้งนี้ก็ยิ่งทำให้พ่อแม่ของตนเองดีใจมากขึ้น เพราะตนเองสอบติดได้เข้ารับการอบรม ตนทราบว่าพ่อและแม่ต้องการที่จะให้ตนเองเป็นตำรวจ จึงตัดสินใจที่จะใส่ชุดนักเรียนนายสิบตำรวจกลับมาให้พ่อแม่เห็น ก่อนที่จะใส่ชุดตำรวจเต็มยศ

อีกทั้งในวันที่ 12 ส.ค. ที่เป็นวันแม่ ตนเองก็ไม่มีโอกาสที่จะกลับไปไหว้แม่ จึงได้นำพวงมาลัยไปกราบขอพรแม่ เพราะวันที่ 12 ส.ค.ตรงกับวันพุธ ซึ่งเป็นวันที่ตนเองต้องเรียน และหลังจากจบหลักสูตรแล้ว ตั้งใจจะทำหน้าที่เป็น "ตำรวจที่ดี" เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีแก่วงการตำรวจไทย เพื่อตอบแทนสังคม ตอบแทนพ่อแม่

ทั้งนี้ หลังจากที่มีข่าวแพร่สะพัดออกไป บรรดาผู้บังคับบัญชา ครูฝึก และเพื่อนนักเรียน ต่างก็แสดงความชื่นชม กับภาพที่สื่อให้เห็นถึงความกตัญญูของนักเรียนนายสิบตำรวจสิทธิชัย ที่มีต่อพ่อและแม่ พร้อมทั้งมีการแชร์รูปภาพดังกล่าวกันไปเป็นจำนวนมาก 

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊กแฟนเพจ แฟนตำรวจของไทย "แฟนนายสิบทุกรุ่น"