ญาติคาใจ! พบศพครูสาวสวย นั่งผูกคอดับปริศนาคาห้องนอน
(10 ส.ค) เวลา 17.00 น. พันตำรวจโทชาคริต ศรีสำราญ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สถานีตำรวจภูธรขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ ร่วมกับ พันตำรวจตรี สุเทน ดวงพิมพิ์ พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรขุขันธ์ และชุดสืบสวน ไปเปิดบ้านตรวจที่เกิดเหตุหาหลักฐานเพิ่มเติม เหตุคนผูกคอตายที่บ้านเลขที่ 67 หมู่ 3 บ้านแตระ ตำบลห้วยเหนือ อำเภอขุขันธ์
สืบเนื่องจาก เมื่อเวลา 08.00 น.วันนี้ (10 ส.ค.) ได้รับแจ้งเหตุคนผูกคอตาย ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ภายในห้องพบศพผู้เสียชีวิตทราบชื่อภายหลัง นางสาววิไลวรรณ อายุ 30 ปี เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว สภาพศพใช้สายไฟสีดำยาวประมาณ 1 เมตร ผูกคอโยงกับเหล็กดัดหน้าต่าง นั่งพับเพียบคอตกก้มหน้าภายในห้อง ห่างจากเตียงนอนประมาณ 70 เซนติเมตร
บนเตียงนอนมีข้าวของกระจัดกระจาย ผู้ตายมีรอยช้ำที่ฝ่ามือทั้งสองข้าง และรอบลำคอ สวมเสื้อยึดสีขาว กางเกงยีนส์ขายาว แพทย์ยังไม่ลงความเห็นในเรื่องของสาเหตุการเสียชีวิต ตำรวจจึงนำส่งโรงพยาบาลศรีสะเกษ เพื่อผ่าพิสูจน์หาสาเหตุของการเสียชีวิต
นายสมชาย อายุ 53 ปี คนหมู่บ้านเดียวกัน และเป็นช่างที่มารับจ้างสร้างบ้านให้ผู้ตาย เปิดเผยว่า ตนรับสร้างบ้านให้กับผู้ตายในราคา 1.5 แสนบาท ทำไปแล้ว 20 วัน ผู้ตายได้จ่ายค่าจ้างให้ตนมาแล้ว 7 หมื่นบาท และเมื่อวานนี้ (9 ส.ค.) ตนกับผู้ตายเดินทางไปซื้อวัสดุก่อสร้างที่ จังหวัดอุบลราชธานี โดยผู้ตายได้นั่งรถกระบะไปกับตน ส่วนรถเก๋งของผู้ตายได้จอดไว้ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในตัวเมืองศรีสะเกษ ผู้ตายได้ซื้อวัสดุก่อสร้างหมดเงินไป 4 หมื่นบาท
จากนั้นเดินทางกลับมาถึงตัวเมืองศรีสะเกษเวลาประมาณบ่ายสี่โมง ผู้ตายได้แยกไปเอารถที่จอดไว้ และบอกว่าจะไปเยี่ยมลุงที่ป่วยอยู่ รพ.ศรีสะเกษ ส่วนตนได้นำวัสดุมากองไว้ที่บ้านของผู้ตาย พอรุ่งเช้าถึงรู้ว่าผู้ตายเสียชีวิตแล้ว
นายวิจิตร อายุ 53 ปี กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 06.30 น.ตนได้รับโทรศัพท์จากนางทองเรียน อายุ 57 ปี มารดาของผู้ตายโดยบอกว่าขอให้ไปดูน้องก้อย หรือนางสาววิไลวรรณด้วย เพราะโทรศัพท์หาหลายครั้งติดด้วยแต่ไม่รับสาย
จากนั้น ตนจึงเรียกนางสาวพยอม เพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันไปเป็นเพื่อน เมื่อไปถึงประตูปิดทั้งสองบานเข้าไม่ได้ แต่ได้ยินเสียงโทรศัพท์จากในบ้าน จากนั้นนางสาวพยอม ได้ใช้มือดึงผ้าม่านที่หน้าต่างบานเกล็ดซึ่งแตกอยู่ 1 แผ่นออก จึงมองเห็นนางสาว วิไลวรรณนั่งพับเพียบคอตกอยู่ข้างหน้าต่าง จึงเรียกเพื่อนบ้านมาช่วย
ด้าน ร้อยตำรวจตรี เฉลิมศักดิ์ อายุ 69 ปี ลุงของผู้ตาย และมีบ้านอยู่ใกล้กัน กล่าวว่า พ่อแม่ของผู้ตายไปเลี้ยงหลานอยู่ที่กรุงเทพ ปล่อยให้ผู้ตายอยู่บ้านคนเดียว และขณะนี้ผู้ตายกำลังปลูกบ้านอีกหลังซึ่งอยู่ติดกันแต่ยังไม่แล้วเสร็จ จึงต้องเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการก่อสร้าง ทั้งออกค่าใช้จ่ายและควบคุมการก่อสร้าง
โดยส่วนตัว ผู้ตายเป็นคนสวยและเป็นคนดี ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ครู คศ.1 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาศรีสะเกษ เขต 28 เป็นที่รักใคร่ของเพื่อนครูและญาติพี่น้อง ยังไม่แต่งงาน ไม่มีแฟน โดยเมื่อคืนที่ผ่านมาก่อนเกิดเหตุ ฝนตกจึงไม่ทราบว่า หลานสาวกลับเข้าบ้านเวลาไหน พอทราบอีกทีก็ตอนงัดประตูเข้าไปพบว่าหลานสาวเสียชีวิตแล้ว
จึงฝากให้ตำรวจสถานีตำรวจภูธรขุขันธ์ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เพราะตนและญาติๆ ไม่เชื่อว่าหลานสาวจะผูกคอตายเองฆ่าตัวตาย เพราะดูสภาพศพก็นั่งพับเพียบ หน้าต่างก็ไม่สูงมากนัก
ด้านพันตำรวจโทชาคริต ศรีสำราญ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สถานีตำรวจภูธรขุขันธ์ เปิดเผยว่า ผู้ตายใช้สายไฟผูกคอตัวเอง เสียชีวิตในห้องนอนตัวเอง ตามที่ได้สอบถามญาติในเบื้องต้น ทราบว่าผู้ตายเป็นคนที่มีนิสัยดี ยังโสด ไม่มีเรื่องกับใครทั้งที่ในหมู่บ้านและที่ทำงาน และไม่มีเรื่องที่จะทำให้กลุ้มใจหรือเครียดจนถึงกับฆ่าตัวตาย
โดยญาติทุกคนติดใจสงสัยในการเสียชีวิต จึงได้ส่งศพไปที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ เพื่อผ่าชันสูตรแต่แพทย์ไม่พร้อมในด้านเครื่องมือ จึงจะได้ส่งศพไปผ่าชันสูตรที่โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อหารายละเอียดและสาเหตุของการเสียชีวิตต่อไป