หญิงวัย 31 ก่อเหตุใช้มีดแทงหลังลูกสาวอายุ 13 ปี เสียชีวิต อ้างฆ่าปอบ

เมื่อเวลา 17.30 น. (12 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวน นางสาวหน่อย อายุ 31 ปี หลังจากที่นางสาวฐิตินันท์ ได้ก่อเหตุ ใช้มีดปลายแหลมแทง ด.ญ.เอ ( นามสมมุติ) อายุ 13 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวของตนเองได้รับบาดเจ็บสาหัส และ ด.ญ.เอ ได้ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ 

บริเวณหน้าบ้านซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุ บรรดาญาติพี่น้องได้ช่วยกันจัดเตรียมสถานที่เพื่อสำหรับจัดงานศพของ ด.ญ.เอ โดยขณะรายงานข่าว ศพยังอยู่ที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ ส่วนภายในบ้าน นางลาวัลย์ อายุ 70 ปี ได้นำญาติพี่น้องไปดูจุดที่เกิดพร้อมทั้งเล่าเหตุการณ์ที่พบเห็นให้ทุกคนทราบด้วย

นางลาวัลย์ อายุ 70 ปี ซึ่งมีศักดิ์เป็นป้าของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า นางสาวหน่อย ผู้ก่อเหตุ อาศัยอยู่กับสามีและลูกสาวอีก 3 คน โดย ดญ.เอ นั้น เป็นพี่สาวคนโต ซึ่งตนนั้นอาศัยอยู่บ้านใกล้เคียงกัน โดยเมื่อช่วงหัวค่ำก่อนเกิดเหตุ (วันที่ 11 ส.ค.) ตนทราบว่า นางสาวหน่อย ได้ทะเลาะกับสามี และสุดท้ายได้แยกกันนอนคนละที่ โดยลูกสาวทั้ง 3 คน (รวมถึง ด.ญ.เอ ผู้เสียชีวิต) นอนอยู่กับนางสาวหน่อยภายในห้องนอน ส่วนสามี นอนบริเวณหน้าจอทีวี นอกห้องนอน

จนกระทั่งเวลาประมาณ 04.00 น. (12 ส.ค.) สามีของนางสาวหน่อย ได้วิ่งมาหาตนที่บ้าน เพื่อให้ตนเข้าไปห้ามปรามช่วยเหลือ โดยสามีของนางสาวหน่อยบอกกับตนว่า ได้ยินเสียงลูกสาวร้องในห้องนอน และเมื่อวิ่งเข้าไปดูภายในห้องนอน ก็พบนางสาวหน่อยกำลังใช้มีดปลายแหลมแทงที่หลังของ ด.ญ.เอ

นางลาวัลย์ เล่าต่อไปว่า หลังจากที่ตนได้ยินเช่นนั้น ก็ได้เข้าไปที่บ้านนางสาวหน่อย เมื่อไปถึง พบนางสาวหน่อย ยืนบนที่นอนคร่อมร่าง ด.ญ.เอ ซึ่งนอนคว่ำหน้าอยู่ โดยมีมีดปักอยู่ที่กลางหลังทะลุอก ตนเห็นเช่นนั้น จึงได้วิ่งเข้าไปผลักนางสาวหน่อย ออกจากที่นอนและเอามีดออกจากหลัง ด.ญ.เอ โดยถามว่าทำไมนางสาวหน่อยทำเช่นนี้ นางสาวหน่อย ได้ให้คำตอบกับตนว่า ตัวเองกำลังแทงปอบอยู่

นางลาวัลย์ กล่าวต่อไปว่า หลังจากเหตุการณ์เกิดขึ้น ตนได้ให้ชาวบ้านแจ้งเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิศรีสะเกษสงเคราะห์ เพื่อนำตัว ด.ญ.เอ ส่งไปยังโรงพยาบาลศรีสะเกษ เพื่อให้แพทย์ทำการช่วยเหลือ แต่สุดท้าย ผู้บาดเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนนางสาวหน่อย หลังก่อเหตุ ชาวบ้านได้ช่วยกันจับตัวไว้ และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวไปยังสถานีตำรวจภูธรเมืองศรีสะเกษ

ด้าน นายสุรวุฒิ อายุ 52 ปี พ่อของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ปกติ นางสาวหน่อย จะเป็นคนค่อนข้างเงียบ ไม่สุงสิงกับใคร รวมถึงไม่ยอมให้ลูกๆ สุงสิงกับใครด้วย โดยก่อนวันที่เกิดเหตุ นางสาวหน่อยได้ก่อเหตุ ใช้มีดแทงแมวที่เลี้ยงไว้จนตาย โดยบอกกับตนว่า ไม่ได้ฆ่าแมว แต่ฆ่าปอบ แต่ตนก็ยังไม่คิดว่าจะเกิดเหตุอันน่าสลดใจแบบนี้ขึ้น ตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และคิดถึงหลานสาวของตนที่เสียชีวิตไปเป็นอย่างมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะที่ทางด้าน พนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้ทำการสอบสวน น.ส.หน่อย เพื่อหาสาเหตุของการใช้มีดแทงลูกสาวของตนเองจนเสียชีวิตในครั้งนี้ โดยเบื้องต้นได้ตั้งข้อหากับ นางสาวหน่อยว่า ฆ่าคนตายโดยเจตนา จากนั้นจึงควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป