เพื่อนเผยพฤติกรรมมือปืนก่อเหตุสะเทือนขวัญยิงนักข่าว

เพื่อนเผยพฤติกรรมมือปืนก่อเหตุสะเทือนขวัญยิงนักข่าว

เพื่อนเผยพฤติกรรมมือปืนก่อเหตุสะเทือนขวัญยิงนักข่าว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สำนักข่าว REUTERS รายงานว่า วานนี้ (27 ส.ค. 58) เพื่อนร่วมงานประจำสถานีโทรทัศน์ WDBJ7 ในเมืองโรอาโนค เวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐฯ ร่วมกันสงบนิ่งเป็นเวลา 1 นาที เพื่อไว้อาลัยให้กับการจากไปของ อลิสัน ปาร์คเกอร์ ผู้สื่อข่าวสาววัย 24 ปี และนายอดัม วาร์ด ช่างภาพวัย 27 ปี ที่ถูกนายเวสเตอร์ ฟลานากัน หรือ ไบรซ์ วิลเลี่ยมส์ ยิงเสียชีวิต ขณะรายงานข่าวสดทางโทรทัศน์

ด้าน เพื่อนร่วมงานของนายฟลานากัน ระบุว่า หัวหน้างานของนายฟลานากันเคยแนะนำให้นายฟลานากันไปพบแพทย์ หลังจากพบว่าเขามีพฤติกรรมค่อนข้างก้าวร้าว และนายฟลานากันเคยบ่นเรื่องการเหยียดสีผิว

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีการเปิดเผยว่า นายฟลานากัน วัย 41 ปี ได้ส่งโทรสาร 23 หน้า ไปยังสถานีโทรทัศน์เอบีซีนิวส์ หลังจากก่อเหตุสะเทือนขวัญไม่นาน โดยเขาระบุในเอกสารว่า เขาได้สะสมความโกรธมาสักพัก จนอยู่ในภาวะอันตราย รอแค่เวลาระเบิดออกมา ที่ผ่านมาเขาต้องทนทุกข์กับการถูกข่มเหง เพราะเขาเป็นชายรักชายและเป็นคนผิวสี รวมถึงโกรธแค้นการเหยียดผิวในสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่เกิดเหตุสะเทือนขวัญครั้งล่าสุด จุดประเด็นให้มีการควบคุมอาวุธปืนในสหรัฐฯ ขึ้นมาอีกครั้ง โดยนายแอนดี้ ปาร์กเกอร์ บิดาของอลิสัน ปาร์กเกอร์ นักข่าวสาววัย 24 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิตได้เรียกร้องให้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐฯ ปฏิรูปกฎหมายความคุมอาวุธปืน เพื่อให้การสูญเสีย อลิสัน และช่างภาพที่ร่วมงานด้วยกันไม่สูญเปล่า

ขณะที่ ประธานาธิบดี โอบามา เร่งผลักดันให้เดินหน้ากฎหมายควบคุมอาวุธปืน ให้ครอบคลุมถึงการตรวจสอบประวัติของผู้ที่จะซื้อและครอบครองอาวุธปืน นอกจากนั้นยังต้องมีข้อกำหนดห้ามจำหน่ายอาวุธปืนที่ความเร็วในการยิงสูง จำพวกปืนกล เป็นประเด็นที่ผู้นำสหรัฐฯ พยายามผลักดันมา ตั้งแต่เกิดเหตุกราดยิงในโรงเรียนมัธยม ในเมืองนิวตัน รัฐคอนเน็คติกัต เมื่อปี 2013 ซึ่งในครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิตมากถึง 26 ราย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook