จับตา! ศาลฎีกาพิพากษาคดีนพดล ลงนามหนุนกัมพูชา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงบ่ายของวันนี้ (4 ก.ย.) ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้นัดอ่านคำพิพากษาคดีที่ปปช.เป็นโจทย์ยื่นฟ้อง นายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กรณีลงนามในแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา โดยไม่ผ่านความเห็นชอบของรัฐสภา ซึ่งปปช.เห็นว่าเป็นการกระผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157
โดยคดีดังกล่าว ศาลฎีกาฯ ได้ประทับรับฟ้องเมื่อวันที่ 26 เม.ย.2556 หลังจากปปช.เป็นโจทย์ยื่นฟ้องนายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศ ในสมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช เมื่อวันที่ 19 มี.ค.2556 ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จากกรณีการลงนามในแถลงการณ์ร่วมของไทย-กัมพูชา ฉบับวันที่ 18 มิ.ย.2551 ซึ่งมีเนื้อหาสนับสนุนให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกฝ่ายเดียว โดยไม่ผ่านความเห็นชอบของรัฐสภา
คดีดังกล่าวมีพยานปากสำคัญ คือ นายวีรชัย พลาศรัย อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย เมื่อปี 2551 ซึ่งรับรู้และเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวมาตั้งแต่แรก และพยายามทักท้วงนายนพดล ก่อนจะนายวีรชัยจะถูกโยกย้ายให้ไปทำหน้าที่อื่น
โดยทนายความฝ่ายโจทย์ ได้พยายามนำสืบให้ศาลเห็นว่าการกระทำของนายนพดล มีลักษณะเอื้อประโยชน์ให้กัมพูชา ทั้งๆ ที่ยังมีข้อพิพาทพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร รอบปราสาทพระวิหาร ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ และศาลรัฐธรรมนูญก็เคยวินิจฉัยว่า การออกแถลงการณ์ร่วมเข้าข่ายหนังสือสนธิสัญญา ที่จะต้องนำเข้าขอการอนุมัติของรัฐสภาก่อน
ด้าน นายนพดล ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหามาโดยตลอด และยังเคยแถลงข่าวยืนยันว่า การออกแถลงการณ์ร่วมฉบับนี้เป็นการปกป้องดินแดนของไทย เพราะตัดพื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิออก เพื่อไม่ให้กัมพูชานำขึ้นทะเบียนมรดกโลก
ทั้งนี้ ผู้กระทำความผิดมาตรา 157 จะต้องวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มีรายงานว่าในเวลา 13.00 น. นายนพดลจะเดินทางมาที่ศาลเพื่อรับฟังคำตัดสินด้วยตนเอง โดยหากศาลตัดสินว่ามีความผิดจริง มีความเป็นไปได้ที่จะถูกส่งตัวเข้าเรือนจำในทันที
ขอขอบคุณข้อมูลจาก ทวิตเตอร์ @ThaiPBS ภาพจาก facebook Noppadon Pattama