โหรวารินทร์ ทายทัก ดินร้อนวิทยาลัยนาฏศิลป์เป็นสายน้ำพุร้อน

โหรวารินทร์ โหรการเมืองชื่อดัง ชี้ความร้อนปริศนา ใต้พื้นดินวิทยาลัยนาฏศิลปเชียงใหม่ เป็นสายน้ำพุร้อนเก่าแก่ ด้านวิทยาลัยรอขุดหากตรวจสอบแล้วไม่พบสาเหตุ หากเป็นสายน้ำพุร้อนจริง พร้อมเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยว

(5 ส.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. วิทยาลัยนาฎศิลป์ จังหวัดเชียงใหม่ ดร.กษมา ประสงค์เจริญ ผู้อำนวยการวิทยาลัยนาฏศิลปเชียงใหม่ได้ทำพิธีจุดธูปเพื่อกราบไหว้บอกสิ่งศักดิ์สิทธิ์เจ้าที่เจ้าทางบริเวณหลุมลึก 1.20 เมตรที่ขุดเพื่อตรวจสอบพบความร้อนประหลาดบริเวณด้านข้างอาคารกิจกรรมนักเรียน-นักศึกษา เพื่อพิสูจน์หาสาเหตุหลังเกิดความร้อนจากใต้ดินระอุขึ้นมา จนทำให้พื้นกระเบื้องในอาคารกิจกรรมร้อน ส่วนหลุมที่ขุดขึ้นพบมีน้ำใต้ดินอยู่ได้เกิดไอระอุ และกลิ่นคล้ายแก๊สไข่เน่าอยู่

ดร.กษมา เผยว่า สาเหตุที่มาทำพิธีจุดธูปกราบไหว้ เนื่องจากเมื่อเช้าวันนี้ (5 กันยายน) ได้เดินทางไปพบกับ โหรวารินทร์ หรือ อาจารย์วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ โหร คมช.ชื่อดัง เจ้าของวิหารหลวงปู่เกวลัน ในหมู่บ้านสุขิโต อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เพื่อสอบถามถึงเรื่องดังกล่าวเพราะว่าด้านวิทยาศาสตร์ก็ยังสรุปไม่ได้ชัดเจน ขณะที่อุณหภูมิความร้อนก็ยังขึ้น-ลง แม้จะมีการตัดกระแสไฟฟ้าไปแล้ว

โหรวารินทร์ได้นั่งสมาธิอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะบอกว่าพื้นพิภพใต้ดินของวิทยาลัยนาฎศิลปเชียงใหม่มีสายน้ำพุร้อนเก่าแก่อยู่ และสาเหตุที่เกิดความร้อนระอุขึ้นมาในช่วงนี้ เพราะช่วงนี้เกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้งจึงเกิดการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกซึ่งหากต้องการพบสายน้ำพุร้อนจะต้องขุดลึกลงไปอีก

โดย โหรวารินทร์ ได้แนะนำให้เปิดพื้นที่โดยเมื่อถึงเวลาก็จะเปิดเอง ทั้งนี้ยอมรับว่า ตนเองมีความเชื่อเรื่องของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขณะเดียวกันพื้นที่ของวิทยาลัยนาฎศิลป์เดิมก็เป็นพื้นที่วัดร้างคือวัดสังการาม มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คอยปกปักรักษาสถานที่แห่งนี้ ส่วนในอนาคตหากมีการขุดพบสายน้ำพุร้อนจริงก็จะเปิดเป็นแหล่งการเรียนรู้ และสถานที่ท่องเที่ยวต่อไป

พร้อมกันนี้ทาง ดร.กษมา ได้พาผู้สื่อข่าวไปดูตาน้ำ ที่อยู่ใต้บ่อเลี้ยงปลาภายในวิทยาลัยนาฎศิลป์ โดยระบุว่า ในอดีตสมัยที่ยังเป็นนักเรียน ตาน้ำจุดนี้เป็นเพียงบ่อน้ำเล็กๆ มีน้ำไหลออกมาตลอดทั้งปีไม่เคยแห้ง ต่อมามีการขุดสระให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งสระแห่งนี้ก็ไม่เคยแห้งและมีน้ำตลอดทั้งปี

อย่างไรก็ตามตลอด 4 วันที่ผ่านมา ได้มีหน่วยงานต่างๆ ทั้งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เชียงใหม่ นักวิชาการจากคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รวมถึงเจ้าหน้าที่ธรณีวิทยาสิ่งแวดล้อม สำนักงานทรัพยากรธรณี เขต 1 (ลำปาง) เข้าตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุแล้ว

โดยเจ้าหน้าที่การไฟฟ้ายืนยันว่าไม่มีกระแสไฟฟ้ารั่ว ขณะที่นักวิชาการคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้เก็บตัวอย่างน้ำจากหลุมไปตรวจสอบเพื่อหาแร่ธาตุ และคาดว่าอาจจะทราบผลภายในวันจันทร์ที่ 7 กันยายนนี้