พระนักอนุรักษ์ครวญ ช่วยปลูกป่า กลับถูกกล่าวหาว่าบุกรุก
เมื่อเวลา 08.00 น. (7 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดภูงาม หมู่ที่ 5 บ้านคำภู ต.ชัยพร อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ เพื่อพบกับ พระอธิการโกวิญ กันตธัมโม หรือหลวงตาน้อย อายุ 60 ปี เจ้าอาวาส ซึ่งมีลูกศิษย์ลูกหาอยู่ทั่วประเทศ ได้ร้องขอความเป็นธรรมกับผู้ใหญ่ในบ้านเมืองผ่านสื่อมวลชนว่า สวนยางพาราที่ปลูกเอาไว้และปลูกต้นไม้อื่นๆ แซมร่องยางเช่นไม้ยางนา ตะเคียน มะค่า ประดู่
ได้ถูกเจ้าหน้าที่เข้ามาปักป้ายตรวจยึดห้ามบุคคลเข้ามาดำเนินการใดๆ และจะตัดโค่นต้นยางพาราที่ตนเองปลูกเอาไว้เกือบ 30 ปีทิ้ง เสียดายที่ปลูกมากว่าจะโต
หลวงตาน้อยครวญกับผู้สื่อข่าวต่อไปว่า เมื่อประมาณปี 2528 เข้ามาอาศัยอยู่ในป่าภูสิงห์แห่งนี้ใหม่ๆ ก็มีสภาพเป็นสวนมันสำปะหลังเก่า มีแต่ตอไม้และต้นไม้ที่ยืนตายซาก มองเห็นภูสิงห์ด้านหลังชัดเจนเพราะไม่มีต้นไม้มาบดบัง จึงได้ทำเรื่องเช่าที่จากกรมป่าไม้ 1,000 ไร่ อนุญาตให้เช่าได้แค่ 350 ไร่เป็นเวลานาน 30 ปี เสียค่าธรรมเนียมตั้งแต่ปีแรกที่เช่า และได้รับอนุญาตตั้งเป็นวัดภูงามถูกต้องตามระเบียบ
จากนั้นได้เริ่มปลูกป่าทั้งยางพารา ยางนา ตะเคียน ประดู่ มะค่า พะยูง รวมปัจจุบันเฉพาะยางนาประมาณ 200,000 ต้นแล้ว ใหญ่สุดยางนาสูงประมาณ 40 เมตร พะยูงประมาณ 1 คนโอบ
จากเมื่อก่อนมองเห็นภูสิงห์ชัดเจน แต่วันนี้มองไม่เห็นแล้วเพราะเป็นป่าดงดิบทึบ ถือว่าเป็นป่าที่คนปลูกสมบูรณ์ที่สุดในภูสิงห์แห่งนี้ ซึ่งทางกรมป่าไม้เองก็ไม่เคยมาปักแนวเขต ชี้จุดหรือรังวัดที่ 350 ไร่ว่าอยู่จุดไหนแน่ ตนก็ปลูกไปตามความเข้าใจโดยทำเป็นแนวรั้วและปักเสาเอาไว้
พระนักอนุรักษ์ป่าได้ร้องขอความเป็นธรรมว่า ตนปลูกป่าให้กรมป่าไม้มากว่า 30 ปีโดยใช้ทุนใช้แรงของวัด ไม่มีงบประมาณจากทางราชการสนับสนุนแต่อย่างใด มีหลักฐานต้นไม้ใหญ่โตเกิดขึ้นมากมายมองเห็นชัดเจน ทั้งปลูกทั้งอนุรักษ์ทั้งหวงแหนไว้ให้ลูกหลานได้ดู ไม่ให้คนมาลักลอบตัดไม้มีค่าเช่น พะยูง ประดู่ ไปขาย
อยู่ๆ ก็ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้บุกรุกป่า นำป้ายประกาศตรวจยึดมาติดตามป่าสวนยางพาราที่ปลูกต้นไม้เนื้อแข็งชนิดอื่นแซมเอาไว้จนโต หากกรมป่าไม้อยากได้ที่ดินแปลงนี้คืนไปก็ไม่จำเป็นต้องมายึดคืนตอนนี้ รออีก 1-2 ปีให้สัญญาที่ตนเช่าอยู่หมดลงก็ได้คืนฟรีๆ โดยไม่ต้องออกแรงอะไรให้มันเอิกเกริกใหญ่โตเลยและก็ไม่วุ่นวายด้วย "นี่หรือคือรางวัลพระนักอนุรักษ์ป่าภูสิงห์" ที่ได้รับจากรมป่าไม้