เจ้าของร้านยืนยัน ตำรวจเบ่งกินฟรี เป็นเรื่องจริง ไม่ใช่เข้าใจผิด

เจ้าของร้านยืนยัน ตำรวจเบ่งกินฟรี เป็นเรื่องจริง ไม่ใช่เข้าใจผิด

เจ้าของร้านยืนยัน ตำรวจเบ่งกินฟรี เป็นเรื่องจริง ไม่ใช่เข้าใจผิด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คืบหน้าตำรวจแบ่งกินฟรี เจ้าของร้านตัวจริง ระบุตำรวจผู้ก่อเหตุรู้จักน้องชายของตนจริง แต่ไม่ใช่เรื่องเข้าใจผิด วงจรปิดจับภาพข่มขู่และทำร้ายประชาชนชัดเจน ยืนยันต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณี พันตำรวจโทปราการ กอปรสิริพัฒน์ หรือ สารวัตรต้น สารวัตรสืบสวนสอบสวน สถานีตำรวจภูธรคง จ.นครราชสีมา พร้อมเพื่อนอีก 2 คนมีพฤติกรรมเสื่อมเสีย ต่อวงการข้าราชการตำรวจ ในลักษณะไปกล่าวอ้างอวดเบ่งกินอาหารฟรี และร่วมกันทำร้ายร่างกายพนักงานในร้านอาหาร จนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยเหตุเกิดภายในร้านอาหาร ส.สุนทร ถนนช้างเผือก เมื่อคืนวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา

ซึ่งต่อมา พล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ได้รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าวและลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วยตนเองจนพบว่า พ.ต.ท.ปราการ มีพฤติกรรมดังกล่าวจริง ถือว่าเป็นการกระทำผิดวินัยร้ายแรง จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.ฐากูร นัทธีศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ออกคำสั่งตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมาที่ 946/2558 ให้ พันตำรวจโท ปราการ ออกจากราชการไว้ก่อน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา

ล่าสุดมีท่าทีว่าจะเป็นข่าวเข้าใจผิดกัน เนื่องจากมีผู้โพสต์ลงในเฟชบุ๊ค ใช้ชื่อว่า "วรชิต แพงไพรี" โดยอ้างว่าเป็นเจ้าของร้าน ส.สุนทร ซึ่งเป็นผู้ที่อนุญาตให้ตำรวจนายนี้เข้ามาทานอาหารฟรี เพราะรู้จักคุ้นเคยกันดี แต่ไม่ได้บอกให้พนักงานในร้านทราบก่อนและพนักงานก็เพิ่งเข้ามาทำงานไม่รู้จักกับ สารวัตรต้น จึงเป็นการเข้าใจผิดกันเท่านั้น

ทั้งนี้ วันนี้ (7 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อสอบถาม นายสุนทร แพงไพรี เจ้าของร้าน ส.สุนทร ตัวจริง ซึ่งได้ยืนยันว่า ผู้ที่แอบอ้างว่าเป็นเจ้าของร้านดังกล่าว คือน้องชายของตนเอง ซึ่งไม่ได้เป็นเจ้าของร้านที่แท้จริง แต่อาจจะรู้จักกับ สารวัตรต้น มาก่อน โดยตนยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่มีการเข้าใจผิดกันแน่นอน เพราะภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกให้เห็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ที่พันตำรวจโทปราการ เข้ามาทำร้ายร่างกายพนักงานในร้าน

นายสุนทร ยังกล่าวอีกว่า ตนได้โทรศัพท์ไปคุยกับน้องชายแล้ว ซึ่งน้องชายก็ยอมรับว่ารู้จักกับ สารวัตรต้น จริง โดยครั้งแรกได้โพสต์ลงในเฟชบุ๊คส่วนตัว เพราะเห็นว่าเป็นคนรู้จักกันจึงอยากจะช่วย แต่เมื่อเห็นภาพคลิปวิดีโอและตนได้เล่าความจริงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ฟังแล้ว ก็รู้ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ แล้วผู้หญิงที่ไปกับสารวัตรต้น ก็ได้นำโพสต์ดังกล่าวมาแชร์ต่อ จนมีสื่อมวลชนนำไปลงข่าว

ซึ่งการทำร้ายร่างกายพนักงาน แคชเชียร์ของร้าน จนดั้งจมูกหัก ต้องไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรง ตนจะไม่ยอมความแน่นอน จะต้องมีการดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด ขณะนี้ได้ให้ทนายความของร้านตนเอง นำผู้เสียหายไปแจ้งความที่ สภ.เมืองนครราชสีมา เรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2558 และพนักงานสอบสวนก็ได้สอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์ไปแล้วหลายคน พร้อมนี้ทนายก็ได้นำหลักฐานคลิปวีดีโอวงจรปิดไปยืนยันกับตำรวจแล้วเช่นกัน

ด้าน พล.ต.ต.ฐากูร นัทธีศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า คดีนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินการสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของร้าน พนักงานร้าน ผู้ที่ก่อเหตุ และพยานแวดล้อม การแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจก็เป็นสิทธิ์ของเจ้าของร้านและผู้เสียหาย ซึ่งตนยืนยันว่าจะดำเนินคดีนี้อย่างตรงไปตรงมาและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายแน่นอน พล.ต.ต.ฐากูรฯ กล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook