ญาติหญิงไทยเหยื่อเครนล้มทับดับที่ ซาอุฯ ยังช็อก แม่กอดรูปลูกไม่ห่าง

ญาติหญิงไทยเหยื่อเครนล้มทับดับที่ ซาอุฯ ยังช็อก แม่กอดรูปลูกไม่ห่าง

ญาติหญิงไทยเหยื่อเครนล้มทับดับที่ ซาอุฯ ยังช็อก แม่กอดรูปลูกไม่ห่าง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(13 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 185 ม.1 ต.ยามู อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นบ้านของ นส.วานิดา สะดี อายุ 48 ปี ถือหนังสือเดินทาง AA2462451 หนึ่งในผู้แสวงบุญไปประกอบพิธีฮัจย์และได้เสียชีวิตจากเหตุการณ์เครนล้มในบริเวณมัสยิดหะรอม เมืองมักกะห์ ประเทศซาอุดิอารเบีย เมื่อวันที่ 11 กย.ที่ผ่านมา

โดยบรรยากาศที่บ้านหลังดังกล่าว ทางครอบครัวและญาติได้กางเต็นท์ไว้หน้าบ้านเพื่อรองรับญาติและเพื่อนบ้าน รวมไปถึงหน่วยงานต่างๆ ที่จะเดินทางมาเยี่ยม ซึ่งหลังจากที่ทางครอบครัวทราบข่าวการเสียชีวิตของ น.ส.วานิดา ทำให้ญาติและเพื่อนบ้านต่างเดินทางมาเยี่ยมและให้กำลังใจต่อครอบครัวกันไม่ขาดสาย

รวมไปถึง นายวีรพงค์ แก้วสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งเป็นตัวแทนรัฐบาลและสำนักนายกรัฐมนตรี นายสาโรช กาญจนพงศ์ นายอำเภอยะหริ่ง จ.ปัตตานี ก็ได้เดินทางมาให้กำลังใจและกล่าวแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง พร้อมทั้งได้นำสาส์นแสดงความเสียใจจาก พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และมอบสิ่งของมามอบให้ นางตูแวซง สะดี อายุ 76 ปี มารดาเพื่อเป็นกำลังใจด้วย โดยนางตูแวซงยังเสียใจกับการจากไป ในมือยังกอดรูปภาพโดยมีลูกๆ คอยให้กำลังใจอย่างใกล้ชิด

ร.ต.ต.นิโซ๊ะ สะดี พี่ชายเล่าว่า น้องสาวเดินทางไปวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมาและกำหนดกลับวันที่ 7 ตุลาคม นี้ หลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อปี 2532 ก็ได้เข้าทำงานธนาคารหลายแห่ง ล่าสุดอยู่ที่ธนาคารธนชาต กรุงเทพฯ โดยวันเกิดเหตุ น้องสาวกำลังเดินเพื่อจะไปซื้อของฝากให้ญาติ โดยมีพี่สาวและหลานชายมาด้วย ระหว่างนั้นพี่สาวกับหลานชายได้ขอตัวกลับที่พักก่อน น้องสาวจึงเดินซื้อของต่อคนเดียว

จนกระทั่งเกิดลมพายุฝนตกหนัก ตนรู้ข่าวจากโทรทัศน์ก็ตกใจจึงได้โทรไปถามซึ่งพี่สาวก็บอกว่าปลอดภัยทั้งสามคน ตนก็สบายใจ ที่จริงพี่สาวพยายามปิดข่าวเพราะกลัวตกใจ ปรากฏว่ามีหน่วยงานมาแจ้งเมื่อเช้าว่า น.ส.วานิดา น้องสาวเสียชีวิตจากเหตุดังกล่าว ทำให้ทุกคนในบ้านตกใจและเสียใจทันที เพราะไม่คิดว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะกระทบกับครอบครัวตน แต่ก็ต้องทำใจว่าทุกอย่างเป็นเรื่องที่พระเจ้ากำหนดมา

สำหรับศพนั้นทางการไปทำพิธีฝังศพแล้วเมื่อเช้าที่ผ่านมา ต้องขอบคุณรัฐบาลที่ช่วยประสานและช่วยเหลือในทุกเรื่อง ส่วนทางบ้านก็จะมีการทำบุญตามหลักศาสนาอิสลาม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook