ทนาย เยี่ยม "อาเดม" อ้างไม่เอี่ยวบึ้มกรุง ยันเป็นคนตุรกี ผ่านไทย ไปประเทศที่สาม

ทนาย เยี่ยม "อาเดม" อ้างไม่เอี่ยวบึ้มกรุง ยันเป็นคนตุรกี ผ่านไทย ไปประเทศที่สาม

ทนาย เยี่ยม "อาเดม" อ้างไม่เอี่ยวบึ้มกรุง ยันเป็นคนตุรกี ผ่านไทย ไปประเทศที่สาม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายชูชาติ กันภัย ทนายความของ นายอาเดม คาราดัค หรือ นายบิลา เติร์ก มูฮัมหมัด ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี ในข้อหา "ร่วมกันมีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย" ที่เกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดราชประสงค์ และท่าเรือสาทร ซึ่งถูกจับกุมได้ภายในพูลอนันต์ อพาร์ทเม้นท์ ย่านหนองจอก เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม ที่ผ่านมา เดินทางเข้าเยี่ยมนายอาเดม ภายหลังถูกนำตัวมาควบคุมไว้ยังเรือนจำชั่วคราวแขวงถนนนครชัยศรี ในพื้นที่กองพันทหารราบ มณฑลทหารบกที่11 หรือ มทบ.11 พร้อมกับนายเมียไรลี ยูซูฟู ผู้ต้องหาคดีนี้อีก 1 คน

ด้านนายชูชาติ ระบุก่อนเข้าพบนายอาเดม ว่าจากการพูดคุยก่อนหน้านี้ นายอาเดม ยืนยันว่าตัวเองมีสัญชาติตุรกี เดินทางมาจากเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี เมื่อช่วงเดือนเมษายน ก่อนเดินทางไปพักที่เวียดนาม และทำพาสปอร์ตปลอม โดยใช้ชื่อว่า นายอาเดม คาราดัก จากนั้นเดินทางไปลาว และอาศัยอยู่ที่ลาว 35 วัน ก่อนที่นายหน้าทราบชื่อคือ นายอับดุลเลาะห์ เป็นผู้พาเข้าประเทศไทยเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยพาไปพักอาศัยอยู่ที่พูลอนันต์อพาร์ทเม้นท์ ย่านหนองจอก

และวันที่ 24 สิงหาคม นายอับดุลเลาะห์ ก็ได้มาพบนายอาเดม พร้อมระบุว่า อยู่ระหว่างดำเนินการพาไปประเทศที่สาม และนายอาเดม ยังอ้างว่าระหว่างพักอาศัยในประเทศไทย อาศัยอยู่แต่ภายในห้องพัก ซึ่งมีเพียงตู้เย็น และหม้อหุงข้าว เป็นสิ่งอำนวยความสะดวก จนกระทั่งถูกจับกุมในวันที่ 29 สิงหาคม โดยอ้างว่าภายในห้องพัก ไม่มีสารประกอบระเบิด แต่ของกลางที่พบเจ้าหน้าที่ได้นำมาจากที่อื่น ก่อนนำมาในห้องพักของนายอาเดม และบันทึกภาพ และยืนยันไม่มีความรู้เกี่ยวกับการประกอบระเบิดด้วย

นายชูชาติ ระบุอีกว่าระหว่างถูกควบคุมตัว นายอาเดม ระบุว่าทหารได้ดูแลเป็นอย่างดี และไม่กังวลกรณีถูกย้ายสถานที่ควบคุม เพราะมีการชี้แจงและทำความเข้าใจแล้ว แต่มีความกังวลในเรื่องอาหาร เพราะนายอาเดม ค่อนข้างเคร่งครัดในการทานอาหารอิสลาม และจากนี้ทางทนายความจะติดต่อญาติของนายอาเดม ที่ประเทศตุรกี เพื่อเตรียมวางแผนการต่อสู้คดีความ ในประเด็นเบื้องต้นคือ การเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และการใช้พาสปอร์ตปลอม แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ติดต่อสถานทูตตุรกี

ขณะที่บรรยากาศที่ มทบ.11 นั้น ทหารยังคงวางกำลังรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยมีการตรวจสอบรถทุกคันที่ผ่านเข้า-ออก อย่างละเอียด พร้อมบันทึกภาพหมายเลขทะเบียนด้วยกล้องดิจิตอล ส่วนสื่อมวลชนที่เฝ้าติดตามสถานการณ์นั้น ทหารไม่อนุญาตให้ตั้งกล้องบริเวณด้านหน้ามทบ.11 โดยให้สังเกตการณ์อยู่ที่ฝั่งตรงข้ามเท่านั้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook