ตื่นน้ำมันแพง! แห่เข้าคิวเติมทั่วประเทศขนถัง200ลิตรกักตุน
ขณะที่ปั๊มหลายแห่งปิดขาย อ้างน้ำมันหมด ชาวบ้านโวยแกล้งปิดรอเก็งกำไรขายราคาใหม่ ด้านพาณิชย์สั่ง จนท.ตรวจทุกปั๊ม ลั่นลงดาบหากใครกักตุน ด้าน ปตท.ยอมรับไม่สามารถสำรองน้ำมันเพื่อรองรับความต้องการที่จะเกิดขึ้นในช่วง 1-2 วันนี้
หลังจากคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีมติให้ปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงทุกประเภท ในอัตราลิตรละ 1.55 บาท ยกเว้นอี 85 มีผลวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ อันเนื่องมาจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้ปรับเพิ่มอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ทำให้ขณะนี้เริ่มมีปัญหาร้องเรียนจากผู้บริโภคเรื่องการไม่จำหน่ายน้ำมันของสถานีบริการ โดยติดป้ายน้ำมันหมด เพื่อกักตุนน้ำมันไว้ขายในราคาที่ปรับขึ้นใหม่
โวยปั๊มกักตุนรอเก็งกำไร
เมื่อวันที่ 30 มกราคม นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้รับการร้องเรียนจากผู้บริโภคว่า มีสถานีบริการบางแห่งติดป้ายน้ำมันหมด ไม่ยอมจำหน่ายน้ำมันในช่วงการรอปรับราคา ซึ่งเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค หากสถานีบริการถือโอกาสกักตุนเพื่อทำกำไรจากส่วนต่างราคาน้ำมันที่จะปรับขึ้น จึงสั่งการให้กรมการค้าภายในและค้าภายในจังหวัด ทั้งส่วนกลางและภูมิภาค ตรวจเช็กสถานีบริการน้ำมันทุกแห่งทั่วประเทศ
"ขอเตือนสถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศ อย่าฉวยโอกาสกักตุนหรือค้ากำไรเกินควรและสร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้บริโภค กระทรวงพาณิชย์ได้ส่งสายตรวจส่วนกลางและภูมิภาคออกตรวจเช็กปริมาณน้ำมันตามสถานีบริการน้ำมันต่างๆ ว่ามีจำนวนมากน้อยแค่ไหนตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม จนถึงคืนวันที่ 31 มกราคม อย่างใกล้ชิด หากพบมีการปฏิเสธการจำหน่าย หรือตรวจพบมีการติดป้ายน้ำมันหมด ก็ถือว่าเข้าข่ายกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ มีโทษจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ"
ปตท.เผยน้ำมันอาจไม่พอ
ด้านนายวิทยา หวังจิตรารักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ การตลาดค้าปลีก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้โรงกลั่นน้ำมันในประเทศมีปัญหาการปิดซ่อมแซมบางส่วน ทำให้มีการกลั่นน้ำมันน้อยกว่าความต้องการ ปตท.จึงต้องนำเข้าน้ำมันเบนซินเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน โดยเดือนมกราคมนี้ มีการนำเข้ามาแล้ว 10 ล้านลิตร และคาดว่าเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม จะต้องนำเข้าน้ำมันเบนซินอีก 40 ล้านลิตร ส่วนดีเซลคาดว่าเดือนกุมภาพันธ์จะต้องเริ่มนำเข้าเช่นกัน
"จากปัญหาดังกล่าวทำให้ ปตท.ไม่สามารถสำรองน้ำมันเพื่อรองรับความต้องการที่จะเกิดขึ้นในช่วง 1-2 วันนี้ได้เกินกว่าปริมาณน้ำมันที่จัดเก็บไว้ หากช่วงนี้ประชาชนแห่ไปเติมน้ำมันมากกว่าปกติ ปตท.ก็คงต้องขออภัยที่ปั๊มบางส่วนอาจจะขาดแคลน โดยยืนยันว่าปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นไม่ใช่มาจากการเก็งกำไร เพื่อหวังส่วนต่างราคาที่เพิ่มขึ้นจากการปรับเพิ่มภาษีสรรพสามิตน้ำมันแต่อย่างใด แต่มาจากน้ำมันในประเทศไม่เพียงพอจริงๆ" นายวิทยากล่าว
ไม่มั่นใจปั๊มจะเหลือให้ตรวจ
นายวิทยา กล่าวต่อว่า นอกจากมีปัญหาโรงกลั่นแล้ว ยอดขายน้ำมันในภาพรวมขณะนี้ก็สูงเกินคาดการณ์ เนื่องจากราคาถูกลงต่อเนื่อง ขณะที่ประชาชนมีการท่องเที่ยวมากขึ้น โดยยอดขาย ปตท.ในส่วนของกลุ่มเบนซินยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 4 ล้านลิตรต่อวัน จากเดิม 7 ล้านลิตร เป็นเพิ่มมาก 10 ล้านลิตรต่อวัน ดีเซล เพิ่มประมาณ 5 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มจาก 14-15 ล้านลิตร เป็นประมาณ 20 ล้านลิตรต่อวัน ซึ่งขณะนี้ ปตท.พยายามจัดหาน้ำมันให้เพียงพอต่อความต้องการมากที่สุด
"ในวันที่กระทรวงพลังงานออกตรวจสต็อกน้ำมันทั่วประเทศ ไม่แน่ใจว่าจะมีน้ำมันคงค้างให้ตรวจหรือไม่ เพราะคาดว่าประชาชนจะแห่มาเติมจำนวนมาก ซึ่งการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้นเป็นสิ่งที่เหนือการคาดการณ์ เพราะที่ผ่านมาทั้งโรงกลั่นและผู้ค้าน้ำมัน รวมทั้งภาครัฐ เข้าใจว่าการใช้น้ำมันจะชะลอตัวลง แต่ความจริงกลับสูงเกินคาด" นายวิทยา กล่าว
นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บางจากฯ จะพยายามจัดรถนำส่งน้ำมันให้สถานีบริการต่างๆ ให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค แต่เชื่อว่าประชาชนคงแห่มาเติมน้ำมันกันมากผิดปกติ เพื่อลดผลกระทบจากการปรับขึ้นราคาน้ำมัน
วอนผู้ค้าให้ความร่วมมือจนท.
นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า กระทรวงได้ประสานงานกับทุกหน่วยงานให้ช่วยกันดูแลไม่ให้เกิดปัญหาน้ำมันขาดแคลน จากการแห่เติมน้ำมันของประชาชนก่อนที่น้ำมันจะปรับราคาในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ และหน่วยงานภาครัฐจะออกตรวจวัดปริมาณน้ำมันคงเหลือที่คลังน้ำมันของผู้ค้าและสถานีบริการทุกรายที่จดทะเบียนเป็นผู้ค้าน้ำมันประเภทสถานีบริการตามมาตรา 11 แห่ง พ.ร.บ.การค้าน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2543 ตั้งแต่เวลา 24.00 น.ของวันที่ 31 มกราคม 2552 เพื่อนำมาคำนวณเงินเรียกเก็บเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง จากส่วนต่างของราคาขายปลีกที่จะปรับเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ภาครัฐขอความร่วมมือให้ผู้ค้าน้ำมัน และเจ้าของสถานีบริการทุกแห่ง อำนวยความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่ของทางราชการ ดังนี้ 1.หยุดจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงตั้งแต่เวลา 24.00 น. จนกว่าเจ้าหน้าที่จะตรวจวัด 2.ตรวจสอบและลงลายมือชื่อรับรองผลการตรวจวัด และ 3.แจ้งปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงที่อยู่ในระหว่างการขนส่ง ที่ซื้อ หรือได้มา ก่อนเวลา 24.00 น. และมาถึงภายหลังเวลาดังกล่าว รวมทั้งน้ำมันเชื้อเพลิงที่รับฝาก (ถ้ามี) ต่อกรมธุรกิจพลังงาน อย่างช้าไม่เกินวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2552
"หากผู้ค้าน้ำมัน หรือผู้ประกอบการสถานีบริการดังกล่าว ไม่ให้ความร่วมมือในการตรวจวัดปริมาณน้ำมันคงเหลือ และไม่หยุดจำหน่ายน้ำมัน ตั้งแต่เวลา 24.00 น.ของวันที่ 31 มกราคม 2552 จนกว่าเจ้าหน้าที่จะตรวจวัดเสร็จ จะมีความผิดตาม พ.ร.ก.แก้ไขและป้องกันภาวะการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2516 คือ จำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท" นพ.วรรณรัตน์กล่าว
สั่มกรมการค้าภายในเข้ม
นายเมตตา บันเทิงสุข อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวว่า ได้ประสานงานกับกรมการค้าภายในในการดูแลไม่ให้เกิดการกักตุนน้ำมัน โดยการกักตุนถือว่ามีความผิดตามกฎหมายของกรมการค้าภายใน อย่างไรก็ตาม หากพื้นที่ใดขาดแคลนน้ำมันขอให้ประชาชนแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่กรมการค้าภายใน หรือพลังงานจังหวัด เพื่อประสานงานกับกรมธุรกิจพลังงาน ในการประสานกับคลังน้ำมันและโรงกลั่นน้ำมันในการจัดส่งอย่างรวดเร็วต่อไป
แหล่งข่าวจากวงการค้าน้ำมันระบุว่า ความปั่นป่วนของการกักตุนน้ำในภาคประชาชนครั้งนี้ ส่วนหนึ่งเกิดจากการที่กระทรวงพลังงานประกาศชัดเจนล่วงหน้าว่าจะปรับขึ้นน้ำมันในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ในอัตรา 1.55 บาทต่อลิตร เพราะที่ผ่านมาแม้ภาครัฐจะเข้าแทรกแซงราคาน้ำมัน แต่จะไม่มีประกาศปรับราคาล่วงหน้า เป็นเหตุผลให้ประชาชนแห่กักตุน นอกจากนี้ จากการที่ยอดใช้น้ำมันของประเทศเพิ่มขึ้นเกินคาดการณ์ และปัญหาโรงกลั่นบางแห่งผลิตไม่ได้ตามแผนงาน ทำให้เกิดปัญหาการขาดแคลนชั่วคราว
โคราชคนแห่เติมน้ำมันอื้อ
ส่วนสถานการณ์ของผู้ใช้รถ และเจ้าของปั๊มน้ำมันตามจังหวัดต่างๆ พบว่า ที่ จ.นครราชสีมา ประชาชนจำนวนมากนำรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ทยอยเดินทางมาต่อคิวเติมน้ำมัน หลังจากทราบข่าวว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวขึ้นอีกลิตรละ 1.55 บาท โดยนางรัตนา รัศมีมงคล ผู้จัดการสถานีบริการน้ำมันบางจาก ถ.ศืบสิริ ต.หนองไผ่ล้อม อ.เมือง กล่าวว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมามีประชาชนจำนวนมากนำรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ มาต่อคิวเพื่อเติมน้ำมัน โดยส่วนใหญ่จะเติมเต็มถัง
นอกจากนี้ยังมีประชาชนบางส่วน นอกจากจะเติมน้ำมันใส่รถของตัวเองแล้ว ยังนำแกลลอนน้ำมันมาเติมน้ำมัน เพื่อกักตุนไว้ใช้ รวมทั้งเอาไว้ใส่เป็นน้ำมันขวดขายให้ประชาชนอีกด้วย ทางปั๊มเกรงว่า การเติมน้ำมันใส่แกลลอนทีละมากๆ จะทำให้เกิดอันตราย รวมถึงน้ำมันอาจจะมีไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน โดยเฉพาะผู้ใช้รถยนต์และรถจักรยานยนต์ จึงกำหนดให้ประชาชนนำแกลลอนมาเติมน้ำมันได้เพียงคนละไม่เกิน 20 ลิตรเท่านั้น
คลังน้ำมันลำปางเผยยอดสั่งปกติ
ส่วนที่ จ.ลำปาง นายชยุต พันธุ์มิตร ผู้จัดการคลังปิโตรเลียมลำปาง (ปตท.) กล่าวว่า น้ำมันขึ้นราคาครั้งนี้เป็นไปตามการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตในส่วนของน้ำมัน ไม่ได้ขึ้นตามราคาในตลาดโลก จึงไม่มีผลกระทบมากนัก ผู้ค้าน้ำมันและปั๊มต่างๆ ยังสั่งซื้อน้ำมันเป็นปกติไม่เพิ่มขึ้น เพราะผู้ค้าเองก็มีปัญหาสภาพคล่อง จึงสั่งน้ำมันไปพอขายเท่านั้น ไม่ได้สั่งน้ำมันไปกักตุน ในส่วนของคลังน้ำมัน ปตท.ที่ จ.ลำปาง ก็มีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบปริมาณน้ำมันเป็นปกติอยู่แล้ว
ส่วนยอดส่งน้ำมันของคลังลำปางในพื้นที่ จ.ลำปาง จ.เชียงราย และ จ.ลำพูนบางส่วน ในช่วงที่ผ่านมาหลังรัฐบาลลดภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ยอดการสั่งซื้อน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นถึงวันละ 3-4 แสนลิตร เมื่อเทียบกับช่วงกลางปี 2551 ซึ่งราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นมาก ประชาชนประหยัดค่าใช้จ่าย ยอดการสั่งน้ำมันลดลงเหลือเพียงวันละ 2 แสนลิตรเท่านั้น
อุตรดิตถ์ขนถัง 200 ลิตรเติม
เช่นเดียวกับที่ จ.อุตรดิตถ์ บรรยากาศตามสถานบริการน้ำมันเชื้อเพลิง หรือปั๊มน้ำมันต่างๆ ใน อ.เมือง คึกคักเป็นพิเศษ เนื่องจากประชาชนต่างนำรถบรรทุก รถยนต์ทุกประเภท มารอเติมน้ำมันไม่ขาดสาย ส่วนใหญ่ขอเติมเต็มถัง อีกทั้งยังมีประชาชนน้ำถังขนาด 200 ลิตร ใส่ท้ายรถกระบะมาซื้อน้ำมันด้วย แต่ต้องผิดหวัง เนื่องจากผู้ประกอบการติดป้ายประกาศงดกรอกน้ำมันใส่ถัง และจำกัดการจำหน่ายเพียงรายละไม่เกิน 2,000 บาทเท่านั้น
นายสุพล เสนีวงษ์ ณ อยุธยา ผู้ประกอบการน้ำมันเชื้อเพลิง ต.บ้านเกาะ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า ผู้ประกอบการจำเป็นต้องงดจำหน่ายน้ำมันให้ผู้ที่นำถัง 200 ลิตรมาขอซื้อ เนื่องจากพบว่าบางรายนำถังมา 4-5 ใบ ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ประกอบการน้ำมันเชื้อเพลิงรายย่อย บริษัทรับเหมาก่อสร้างและเกษตรกร ทั้งนี้ ต้องอธิบายถึงเหตุผลถึงความจำเป็นที่ไม่สามารถจำหน่ายให้ได้ในปริมาณมากๆ อย่างไรก็ตาม หากประชาชนยังนำรถมาเติมน้ำมันเต็มถัง ปริมาณน้ำมันที่อยู่ในสต็อกอาจมีจำหน่ายไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน
สงขลาแห่เติมน้ำมันทะลักปั๊ม
วันเดียวกันที่ จ.สงขลา นางระเบียบ จิตเกื้อ ประธานชมรมผู้ค้าน้ำมันจังหวัดสงขลา และเจ้าของห้างหุ้นส่วนเอสแอนด์โอเซอร์วิส จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากรัฐบาลประกาศจะปรับราคาน้ำมันขึ้น 1.55 บาท ในวันนที่ 1 กุมภาพันธ์ ทำให้บรรยากาศตามสถานบริการน้ำมันเชื้อเพลิงหรือปั๊มน้ำมันในพื้นที่ จ.สงขลา คึกคักเป็นพิเศษ โดยมีประชาชนทยอยนำรถมารอเติมน้ำมันจนต้องเข้าคิวยาว นอกจากนี้ยังมีลูกค้าบางรายนำถังขนาด 200 ลิตร มาสำรองน้ำมันไว้ล่วงหน้า ทำให้ปั๊มบางแห่งต้องงดบริการสำหรับการขายน้ำมันให้แก่ผู้ซื้อที่นำถังขนาดใหญ่มาใส่
นางระเบียบกล่าวอีกว่า สถานการณ์ในขณะนี้ทำให้เป็นห่วงว่าน้ำมันที่มีอยู่จะไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้ารายอื่นๆ ซึ่งจะทำให้เกิดภาวะขาดแคลนน้ำมัน และจะทำให้เกิดปัญหาการร้องเรียนว่าปั๊มกักตุนน้ำมันเพื่อเก็งกำไรเหมือนที่ผ่านมา เพราะทันทีที่ลูกค้าทราบว่าจะขึ้นราคาน้ำมันลิตรละ 1.55 บาท ทำให้ลูกค้าพากันมาเติมน้ำมันไว้ล่วงหน้า
ยันปั๊มน้ำมันไม่ได้กักตุน
"ขณะนี้ปั๊มเกือบทุกแห่งมีลูกค้ารอคิวเติมแน่นทั้งวัน ส่งผลให้น้ำมันที่มีอยู่เริ่มลดปริมาณลง จนเป็นห่วงว่าจะทำให้น้ำมันหมดก่อนถึงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ และจะเกิดปัญหาการร้องเรียนปั๊มกักตุนน้ำมันเหมือนที่ผ่านมา เบื้องต้นแจ้งให้เจ้าของปั๊มที่น้ำมันหมดเขียนป้ายติดประกาศให้ลูกค้าทราบ พร้อมชี้แจงและพิสูจน์ว่าน้ำมันหมดจริง โดยการตรวจสอบถังน้ำมันใต้ดินเพื่อความบริสุทธิ์ใจ" นางระเบียบ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า สถานการณ์น้ำมันในปั๊มบางแห่งหมดเร็วนั้น ไม่ได้เกิดจากการกักตุน เนื่องจากก่อนประกาศขายน้ำมันราคาใหม่จะต้องได้รับการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่กรมพลังงานมาตรวจสต็อกน้ำมันในปั๊มในเวลาเที่ยงคืนก่อน จึงขอให้ประชาชนมั่นใจว่าจะไม่มีการกักตุนแต่อย่างใด และหากไม่เชื่อมั่นก็มาตรวจสอบจากถังน้ำมันภายในปั๊มได้ทันที
ปั๊มราชบุรีอ้างน้ำมันหมด
ส่วนที่ จ.ราชบุรี พบว่าปั๊มน้ำมันใน จ.ราชบุรี หลายแห่ง เริ่มปิดให้บริการขายน้ำมัน โดยอ้างว่าน้ำมันหมด พร้อมปิดป้ายประกาศไว้หน้าลานน้ำมัน เพื่อไม่ให้รถเข้าไปเติม บางปั๊มก็ปิดป้ายที่หัวจ่ายบอกว่าน้ำมันหมด โดยเฉพาะน้ำมันเบนซิน 95 ทำให้น้ำมันไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน ผู้ใช้บริการหลายคนต่างโวยวายว่า ปั๊มน้ำมันกักตุนเพื่อขายเก็งกำไรในราคาใหม่ที่เพิ่มขึ้นลิตรละ 1.55 บาท
อย่างไรก็ตาม เพื่อแก้ปัญหาการกักตุนน้ำมัน หรือเก็งกำไรในราคาน้ำมัน พาณิชย์จังหวัดราชบุรีจะร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจออกตรวจตามปั๊มน้ำมันต่างๆ ที่เปิดให้บริการ และปิดให้บริการ เพื่อดูว่าปั๊มมีการกักตุนน้ำมันไว้บ้างหรือไม่ หากพบว่าปั๊มน้ำมันกักตุนน้ำมันเพื่อรอขายในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ จะดำเนินการตามกฎหมายทันที
ถังบรรจุน้ำมัน 200 ลิตรระเบิด
ขณะที่ จ.กาญจนบุรี เกิดอุบัติเหตุถังน้ำมันระเบิดเมื่อเวลา 00.30 น. ร.ต.ท.สุคนธ์ สงค์สกุล พงส. (สบ 1) สภ.หนองขาว อ.ท่าม่วง เข้าตรวจสอบสถานบริการน้ำมันเชลล์ หลังเกิดเหตุระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว และมีไฟลุกไหม้ ก่อนประสานไปยังเทศบาลตำบลหนองขาวให้รีบนำรถดับเพลิงมาดับไฟที่กำลังลุกไหม้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องใช้เวลาประมาณ 45 นาที จึงควบคุมเพลิงไว้ได้
ด้านนายเชิดชาย เชียงทอง เจ้าของปั๊ม อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 161 หมู่ 4 ต.หนองขาว อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุได้สั่งลูกน้องสูบน้ำมันจากถังขนาด 200 ลิตร ที่บรรจุน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 ซึ่งมีอยู่ประมาณ 16 ถัง ประมาณ 3,200 ลิตร ลงในบ่อน้ำมันใต้ดิน เพื่อจำหน่ายให้แก่ประชาชนที่มาใช้บริการ เนื่องจากน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 ที่อยู่ในบ่อใต้ดินจะหมด ซึ่งการสูบน้ำมันลงบ่อใต้ดินต้องใช้เครื่องปั๊มน้ำมัน ขณะคนงานเสียบปลั๊กไฟปรากฏว่าเกิดประกายไฟออกมา ทำให้ประกายไฟไปโดนถังน้ำมัน 200 ลิตร ที่บรรจุน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 ทำให้เกิดไฟไหม้และระเบิดดังกล่าว
พ.ต.ท.สุวิทย์ ห่วงทอง สวญ.สภ.หนองขาว กล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะหาสาเหตุการเกิดระเบิดของถังน้ำมันขนาด 200 ลิตรอีกครั้ง และจะเชิญเจ้าของปั๊มและคนงานที่อยู่ในที่เกิดเหตุมาสอบสวนหาสาเหตุเพิ่มเติม พร้อมทั้งจะประสานไปยังเจ้าหน้าที่ที่มีความรู้เชี่ยวชาญด้านการหาสาเหตุเพลิงไหม้มาพิสูจน์หาความจริงอีกครั้ง