ตม.เชียงใหม่ จับหนุ่มอิสราเอล ยักยอกเพชร 20 ล้านที่กรุงเทพฯ
ตรวจคนเข้ารวบหนุ่มอิสราเอล หนีหมายจับยักยอกทรัพย์ร้านจิวเวอรี่ดัง 20 ล้านบาท กบดานที่เชียงใหม่ นำตัวส่งให้ทาง สน.ลุมพินี ตรวจสอบดำเนินคดีต่อ
(18 ก.ย.) เมื่อเวลา 19.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.เชียงใหม่ นำโดย พ.ต.ท.อุดม สุวรรณเลขา รอง ผกก.ตม.เชียงใหม่ ร.ต.อ.รัชภูมิ ทักขิณะ รอง.สว.ตม.เชียงใหม่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุด ชปส.ภ.5 ได้ร่วมกันทำการจับกุมตัว นายอาลอน เบนดอร์ (Mr. Alon Bendor) อายุ 36 ปี สัญชาติอิสราเอล ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงปทุมวัน ออกวันที่ 16 กันยายน 2558 ข้อหายักยอกทรัพย์
โดย ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่ห้องพักของโรงแรมแห่งหนึ่ง ย่านถนนนิมมานเหมินทร์ ก่อนนำตัวมาสอบสวนที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง การจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้ สืบเนื่องมาจาก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองได้รับการประสานงานจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี ว่ามีผู้ต้องหาเป็นชาวต่างชาติ ได้เดินทางเข้ามายังภายในจังหวัดเชียงใหม่ หลังก่อเหตุสร้างความเสียหายให้กับร้านจิวเวอรี่แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ
ซึ่งในเวลาต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ทำการตรวจสอบจากข้อมูลทางคอมพิวเตอร์ก็ทราบมาว่า นายอาลอน มีลักษณะตรงกันกับภาพตามหมายจับ และสืบทราบมาว่าได้เดินทางเข้ามายังจังหวัดเชียงใหม่ตั้งแต่วันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา พร้อมทั้งได้เข้ามาพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ตั้งแต่วันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา
ทางเจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมหลักฐานทั้งหมด พร้อมทั้งนำชุดเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจสอบ ก่อนจะพบตัว นายอาลอน ผู้ต้องหาตามหมายจับ จึงได้แสดงหลักฐานทำการควบคุมตัวมาทำการสอบ นายอาลอน ได้ยอมรับว่าเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับจริง เดินทางมาพร้อมกับภรรยาและลูก โดยอ้างว่าได้เข้ามาท่องเที่ยว
อย่างไรก็ตามจากการจับกุมในครั้งนี้ เชื่อว่าผู้ต้องหาจะเกี่ยวข้องกับการยักยอกทรัพย์ร้านจิวเวอรี่ โดยมีของกลางเป็นของมีค่ามูลค่า กว่า 20 ล้านบาท ทั้งนี้ภายหลังการจับกุมทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเชียงใหม่ได้ประสานให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สน.ลุมพินี มารับตัวเพื่อนำผู้ต้องหาไปสอบสวนเพิ่มเติมถึงข้อมูลของคดีเชิงลึกต่อ
ขณะเดียวกันทางด้าน พ.ต.ท.อุดม สุวรรณเลขา รอง ผกก.ตม.เชียงใหม่ เปิดเผยถึงการดำเนินการของคดีนี้ว่า สำหรับการดำเนินการของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองนั้น ไม่สามารถดำเนินการตรวจสอบเบื้องลึกของคดีที่ทางผู้ต้องหาก่อเหตุได้ และทราบเพียงว่าผู้ต้องหารายนี้ถูกออกหมายจับ ในข้อหายักยอกทรัพย์เพียงเท่านั้น
ส่วนของกลางนั้นยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นอะไร เนื่องจากการดำเนินการจับกุมครั้งนี้ไม่พบของกลางที่อยู่กับผู้ต้องหา และทางผู้ต้องหาก็ได้ยอมรับเพียงแค่ว่าเป็นคนคนเดียวกันกับที่อยู่ใหมายจับจริง ซึ่งในข้อมูลเชิงลึกนั้นทางเราจะต้องส่งตัวผู้ต้องหาให้กับทางพนักงานสอบสวนที่กล่าวโทษต่อไป