สามเณรมรณภาพปริศนา ผวาทั้งคืน หลังดูหนังผีไทยเรื่องดัง
สามเณรน้อยผวา หลังดูหนังไทยสยองขวัญเรื่องดัง ไม่กล้าอยู่กุฏิคนเดียว บอกกลัวผีมาหักคอ นอนบ่นพึมพำทั้งคืน เช้ามานอนเสียชีวิตตาตั้ง ไม่ทราบสาเหตุ
(19 ก.ย.) ร.ต.ท.ยงยุทธ สะเดา พนักงานสอบสวน สภ.ย่อยเมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น ได้รับแจ้งจาก นายพรสิน บัวคำทุม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 17 บ้านกุดกว้าง ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น ว่า สามเณรมรณภาพอย่างไม่ทราบสาเหตุ ที่กุฏิวัดธาตุกุดกว้าง จึงได้รุดไปตรวจสอบ
จุดเกิดเหตุเป็นกุฏิวัดทิศตะวันตกของวัด ที่ชั้นสองของกุฏิพบกับ สามเณรเบน (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ซึ่งบวชเป็นสามเณรน้อยเพื่อเรียนปริยัติธรรม สภาพนอนหงายตาย ดวงตาสองข้างยังไม่ปิด ยังคงห่มจีวรตามปกติ เมื่อตรวจดูอย่างละเอียดพบว่าสภาพร่างกายไม่มีบาดแผลและร่องรอยการต่อสู้ คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาประมาณ 4-5 ชั่วโมง ในห้องสามเณรพบเพียงสมุด 1 เล่ม ที่เป็นหนังสือเรียนและมียาดม 1 หลอดเท่านั้น
จากการสอบสวน สามเณรโอม (นามสมมติ) สามเณรที่นอนกุฏิเดียวกับ สามเณรเบน บอกว่า ได้มาบวชเรียนปริยัติธรรมพร้อมกับสามเณรเบน เมื่อต้นปี 2557 เมื่อคืนวานนี้ (18 ก.ย.) สามเณรโอม จำวัตรอยู่คนเดียว ส่วน สามเณรเบน อยู่คนเดียวในกุฏิ เมื่อคืนที่ผ่านมา สามเณรเบน เพิ่งได้ดูภาพยนตร์ไทยสยองขวัญชื่อดังเรื่องหนึ่ง จากแผ่นวีซีดีที่ห้องของพระที่อยู่ในวัดเดียวกัน
เมื่อ สามเณรเบน ดูภาพยนตร์จบ ก็กลับมาที่กุฏิตนเอง และมีท่าทางและเกิดความหวาดกลัว หลังจากได้ดูภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว ทำให้ สามเณรเบน ไม่กล้าจำวัตรเพียงลำพัง จึงมามานอนที่ห้องกุฏิเดียวกับสามเณรโอม โดยบอกว่า กลัวผีจะหักคอไม่กล้านอนคนเดียว ขอนอนด้วยคน
สามเณรเบน มีท่าทีนอนไม่เป็นสุข พลิกตัวไปมาอยู่ปล่อยครั้ง ก่อนจะนอนดิ้นและยกแขนมาฟาดใส่ที่หน้าของ สามเณรโอม จนต้องจับคืนไปอยู่สภาพเดิม อีกทั้ง สามเณรเบน ยังมีอาการบ่นพึมพำไม่ได้ศัพท์ตลอดทั้งคืน ก่อนที่สามเณรทั้งสองจะนอนหลับไป
กระทั่งเวลาประมาณ 05.00 น. สามเณรโอม ตื่นขึ้นมาเพื่อจะออกบิณฑบาต และได้ปลุกให้ สามเณรเบน ตื่นขึ้นมาด้วย แต่ก็ไม่ยอมตื่น จึงได้ออกไปบิณฑบาต ประมาณ 1 ชั่วโมง จึงกลับเข้ามาที่กุฏิ พบว่าสามเณรมิตรชัยยังไม่ตื่น จึงเข้าไปเรียกพระพี่เลี้ยงมาตรวจสอบ ก็พบว่า สามเณรเบน เสียชีวิตแล้ว จึงได้แจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านทราบและให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ศพ สามเณรเบน ได้ส่งให้มูลนิธิขอนแก่นสามัคคีอุทิศนำไปผ่าพิสูจน์เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงที่ รพ.ศรีนครินทร์ ม.ขอนแก่น ก่อนที่จะมอบศพให้กับญาตินำไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนา และลงประจำวันไว้เป็นหลักฐานเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป