ผบ.ตร.รับ อาเดม เปลี่ยนคำให้การเพราะจำนนด้วยหลักฐาน

ผบ.ตร.รับ อาเดม เปลี่ยนคำให้การเพราะจำนนด้วยหลักฐาน

ผบ.ตร.รับ อาเดม เปลี่ยนคำให้การเพราะจำนนด้วยหลักฐาน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

25 ก.ย. - ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เผย ได้รับรายงานเบื้องต้นว่า เอเดม คาราดัก เปลี่ยนคำให้การ หลังพนักงานสอบสวนนครบาลนำพยานหลักฐานใหม่เข้าไปแสดง ทำให้จำนนต่อหลักฐาน แย้ม อาจจะมีข่าวดีเกี่ยวกับคดีนี้ ก่อนตนเกษียณอายุราชการ

พลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า หลังพนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เข้าสอบปากคำนายเอเดม คาราดัก และ นายเมียไรลี ยูซุฟู เมื่อวานนี้ (24 ก.ย.) ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากขึ้น พร้อมระบุว่านายเอเดม มีการเปลี่ยนแปลงคำให้การ หลังพนักงานสอบสวนนำพยานหลักฐานใหม่เข้าไปแสดง ทำให้จำนนต่อหลักฐาน แต่จะอาศัยเพียงคำรับสารภาพของผู้ต้องหาไม่ได้

เพราะเมื่อเข้าสู่กระบวนการในชั้นศาลแล้ว อาจกลับคำให้การ พนักงานสอบสวนจึงต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้มากที่สุด โดยขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการสอบปากคำนายอาเดม จากพนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาลอย่างละเอียด หากพบพยานหลักฐานชัดเจนว่า นายอาเดม เป็นมือวางระเบิดบริเวณศาลท้าวมหาพรหม ใกล้แยกราชประสงค์จริง จะแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาเล็งเห็นผลและไตร่ตรองไว้ก่อนเพิ่มเติมอีก 1 ข้อหา

พลตำรวจเอกสมยศ กล่าวว่า ส่วนตัวเชื่อว่านายอาเดม คาราดัก ผู้ต้องหาที่ถูกจับได้ที่หอพักย่านหนองจอก เป็นคนเดียวกันกับชายเสื้อเหลืองที่ก่อเหตุวางระเบิดบริเวณศาลท้าวมหาพรหม โดยดูจากรูปพรรณสัณฐานและหลักฐานสำคัญ คือ เสื้อสีเทาที่ตรวจพบสารประกอบระเบิด ซึ่งพบในห้องพักของนายเอเดม รวมถึงมีความเป็นไปว่าชายเสื้อสีเทาที่กล้องวงจรปิดสวนลุมพินีจับได้ เป็นนายเอเดม ที่เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าหลังเกิดเหตุ เนื่องจากมีรูปร่างหน้าตาคล้ายคลึงกัน

พลตำรวจเอกสมยศ ยังยืนยันว่าไม่มีการจับแพะในคดีนี้อย่างแน่นอน และนายเอเดม คือ 1 ในผู้ร่วมขบวนการก่อเหตุระเบิดในกรุงเทพฯ ส่วนจะทำหน้าที่อะไร อยู่ระหว่างรอความชัดเจนจากพนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล มั่นใจตำรวจสืบสวนมาถูกทางและน่าจะมีข่าวดีก่อนที่ตนจะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายนนี้ - สำนักข่าวไทย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook