สมยศ แถลงคดีบึ้ม ปมค้ามนุษย์ อาจโยงการเมือง

สมยศ แถลงคดีบึ้ม ปมค้ามนุษย์ อาจโยงการเมือง

สมยศ แถลงคดีบึ้ม ปมค้ามนุษย์ อาจโยงการเมือง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวปิดคดีระเบิด พร้อมมอบรางวัลนำจับ 3 ล้าน แก่ หน.คลี่คลายคดี ด้าน ผบก.น.6 สรุปผลการติดตามผู้ต้องหา

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. แถลงข่าวปิดคดีระเบิดแยกราชประสงค์และท่าเรือสาทร ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาที่เข้ามาก่อเหตุ พร้อมมอบเงินรางวัลนำจับให้กับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา หัวหน้าชุดคลี่คลายคดี จำนวน 3 ล้านบาท เพื่อมอบให้ทหาร ตำรวจชุดคลี่คลายคดี

ด้าน พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.น.6 ได้สรุปเหตุระเบิดที่ศาลพระพรหม 17 สิงหาคม 2558 เวลา 18.55 น. มีจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด 20 คน เจ็บกว่า 100 คน โดยจากการเก็บรวบรวมวัตถุพยาน พบชิ้นส่วนเป้สะพายกระเป๋า ลูกเหล็กกลม ท่อเหล็ก ในที่เกิดเหตุจำนวนมาก ส่วนวันที่ 18 สิงหาคม 2558 เวลา 13.20 น. เหตุระเบิดที่ท่าเรือสาทร สามารถเก็บวัตถุพยาน ก้อนเหล็กกลม ท่อแปบ เก็บฝักแคระเบิดได้

ทั้งนี้คดีดังกล่าว เป็นคดีสะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นใจกลางกรุงเทพมหานคร ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เร่งรัดให้จับกุมตัวมาดำเนินคดี ซึ่งมี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา เป็นหัวหน้าทีมสืบสวน ทำงานร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง ผบช.น. รับผิดชอบงานสืบสวนสอบสวนร่วมกับ ทหาร ข่าวกรอง ความมั่นคง โดยการสืบสวนเบื้องต้น สามารถรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมสอบพยานกว่า 200 ปาก ในพยานยืนยันคดีที่ 1 แยกราชประสงค์ พบผู้ก่อเหตุเป็นชายเสื้อสีเหลือง และคดีที่ 2 ท่าเรือสาทร ได้สอบพยาน 30 ปาก ประกอบกับภาพวงจรปิดบนสะพาน พบคนร้ายเป็นชายเสื้อสีฟ้า

สำหรับทั้ง 2 คดีนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร ได้ทำการสืบสวน ด้วยอุปกรณ์พิเศษ ประกอบกับความโชคดีของเจ้าหน้าที่ที่สามารถตรวจสอบพบว่า คนร้ายหลบหนีไปยังพูลอนันต์อพาร์ตเมนต์ที่เข้าไปตรวจค้นเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม ห้องพัก 412 และ 414 พบ นายบิลลาน มูฮัมหมัด เป็นบุคคลแรก โดยได้อ้างชื่อ อาเดม พร้อมของกลาง ที่ใช้ในการประกอบระเบิด อาทิ เสื้อผ้า เครื่องใช้ อุปกรณ์ต่าง ๆ

หลังจากนั้น จึงขยายผลรวบรวมหลักฐาน ทราบว่า คนร้ายอีกคนยังหลบหนีในประเทศ ติดตามจับกุมตัวที่จังหวัดสระแก้ว คือ นายเมียไรลี ยูซุฟู ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในช่วงเวลาการเดินทาง ผลลายนิ้วมือแฝง ที่ปรากฏอยู่ในของกลาง กล่องกาว สารเคมี ขวดยา อยู่ในที่เกิดเหตุ รวมถึงดีเอ็นเอ ซึ่งกองพิสูจน์หลักฐาน ตรวจสอบยืนยันว่า กลางที่พบในห้องพัก ตรงกับนายเมียไรลี

นอกจากนี้ ตรวจสอบสิ่งของทุกชิ้น พบถุงกระเทียมตัดจุกในห้อง และมีเบาะแสพบคนร้าย อีก 1 คน ไปซื้ออุปกรณ์ที่ห้างสรรพสินค้า และมาพักที่ห้องพักดังกล่าว โดยรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม พบว่า นายอับดุลเลาะห์ อับดุลเลาะห์มาน เป็นผู้จัดทำวีซ่า และจัดหาที่พัก ว่าจ้างแท็กซี่ให้รับชายเสื้อฟ้าไปส่งห้างแมคโคร ก่อนจะหลบหนีไปภาคใต้ด้วย และในห้องพัก ยังพบใบเสร็จ วัสดุ อุปกรณ์ ประกอบระเบิด โดยการตรวจกล้องวงจรปิดร้านค้า พบชายสวมแว่นตาเป็นผู้ซื้อ จึงขอศาลออกหมายจับ เพิ่มอีก 1 ราย

จากนั้น พบว่าผู้ต้องหาชุดแรกได้เข้ามาติดต่อ เช่าห้องพักที่ ไมมูนา การ์เด้นโฮม ที่มี นางสาววรรณา สวนสัน หรือ ไมซาเลาะห์ อายุ 27 ปี เป็นคนเช่า พักอยู่กับสามีชาวตุรกี และให้กลุ่มคนร้ายพักกับ นายยูซุฟู และบิลาล เข้าไปพักอาศัย ห้อง 9106 โดยผู้ต้องหาได้ให้การว่า ผู้จัดหาวัตถุระเบิด คือ นายอิซาน หรือ อาบูดูซาตาเออร์ ดาบูดูเรห์มาน พร้อมกับพบว่า นายยงยุทธ์ พบแก้ว เป็นผู้พบเจอกับ นางสาววรรณา และ นายเมียไรลี ที่ไมโมนา การ์เด้นโฮม เจ้าหน้าที่จึงขอศาลออกหมายจับ

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติ นายอ็อด หรือ นายงยุทธ์ ผู้ต้องหาชาวไทย ที่ถูกศาลออกหมายจับ เคยถูกจับกุมในคดีฝ่าฝืน พ.ร.บ.ความมั่นคงปี 2553 ถูกศาลตัดสินจำคุก 1 ปี แต่รอลงอาญา นอกจากนี้ ยังพบว่า นายอ็อด มีความเชื่อมโยงกับเหตุระเบิด ที่สมานเมตตาแมนชั่น จ.นนทบุรี เมื่อปี 2553 และเหตุระเบิด ย่านมีนบุรี เมื่อปี 2557

โดย ผบ.ตร. ยังกล่าวอีกว่า จากพยานหลักฐานที่ปรากฏ มีความเป็นไปได้ว่า เกิดจากบุคคล 2 กลุ่ม ที่เสียผลประโยชน์ ทางด้านการค้ามนุษย์ และ การเมืองร่วมมือกัน เพื่อก่อเหตุดังกล่าว เพราะพยานหลักฐานเชื่อมโยงไปในแนวทางนั้น ไม่ได้ใส่ร้าย บุคคลใด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook