สาวเป่าหูพ่อเฒ่า 72 ชวนเข้าโรงแรม สุดอับอาย โอดเมียรู้ตายแน่
ตำรวจเชียงใหม่รวบตัวสาวใหญ่ ตระเวนหลอกเหยื่อชายสูงวัยจากโรงพยาบาล ขณะมารอตรวจรักษาอาการป่วย ไปเข้าโรงแรมร่วมหลับนอน ก่อนจะฉวยโอกาสฉกทรัพย์สินมีค่าวิ่งหนี กล้องวงจรปิดจับภาพได้ สารภาพก่อเหตุกับคนแก่มาไม่ต่ำกว่า 10 ราย
(29 ก.ย.) ภาพวงจรปิดจากโรงแรมแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่ที่เข้าร่วมโครงการโปลิสอาย ร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ จับภาพคุณตาวัย 72 ปี ขณะที่ไปรักษาตัวจากอาการป่วย ถูกสาวใหญ่ล่อลวงจากโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่ พาไปเข้าโรงแรมแห่งหนึ่ง ก่อนที่จะปรากฏภาพหญิงคนดังกล่าว วิ่งหลบหนีออกมาจากโรงแรมเพียงคนเดียว ก่อนที่ผู้เสียหายจะเข้าแจ้งความและตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวคสนร้ายมาดำเนินคดี
ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ พ.ต.อ.วีระยุทธ ประสพโชคชัย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ได้นำตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลางและผู้เสียหาย จัดแถลงข่าวการจับกุม นางสาวพัฒนา อายุ 46 ปี ชาว จ.ลำพูน ในข้อหาลักทรัพย์กว่า 10 คดี พร้อมด้วย พระเครื่องกว่า 30 องค์ สร้อยคอสีทอง 1 เส้น สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร 3 เล่ม และตลับใส่ทองขนาดต่างๆ 16 ตลับ
การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา ได้มีผู้เสียหาย คือ นายสมพจน์ อายุ 72 ปี ชาว จ.แม่ฮ่องสอน เข้าแจ้งความว่าถูกลักทรัพย์ โดยให้การว่า นางสาวพัฒนา ได้เข้ามาทำทีตีสนิท ระหว่างเดินทางไปรับยาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง พร้อมกับชวนไปร่วมหลับนอนด้วยที่โรงแรม
ทั้งสองคนได้ตกลงกันและนั่งรถแดงมายังโรงแรมแห่งหนึ่ง ที่ผู้เสียหายอ้างว่าพักอยู่ ก่อนจะตกลงกันว่าจะมอบเงินให้จำนวน 1,000 บาท จากนั้นก็ได้ดื่มเบียร์และพูดคุยกันประมาณ 1 ชั่วโมง หญิงคนดังกล่าวได้ออกอุบายให้ผู้เสียหายไปอาบน้ำ จึงได้ถอดสร้อยคอทองคำไว้ในกระเป๋ากางเกง
ระหว่างที่ผู้เสียหายอาบน้ำอยู่นั้นได้ยินเสียงปิดประตู จึงรีบออกมาจากห้องน้ำปรากฏว่าหญิงคนได้กล่าวได้หายไปแล้ว พร้อมกับสร้อยคอทองคำน้ำหนัก ประมาณ 2 บาท และพระเลี่ยมทอง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ จึงได้ติดตามภาพ คนร้ายจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ซึ่งสามารถบันทึกภาพคนร้ายขณะก่อเหตุได้อย่างชัดเจน จนนำมาสู่การจับกุมตัว
นางสาวพัฒนา รับสารภาพว่า เคยก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง โดยกลุ่มเป้าหมายจะเป็นชายสูงวัย อายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป ที่สวมสร้อยคอทองคำ ส่วนมากจะ เลือกหาเหยื่อบริเวณ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ และตลาดวโรรส
ทั้งนี้ ผู้ต้องหายังระบุอีกด้วยว่า เท่าที่จำได้เคยมีการก่อเหตุลักษณะดังกล่าวมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง ตั้งแต่กลางปี 2557 ได้ทองคำน้ำหนักรวมไม่ต่ำกว่า 30 บาท พระเลี่ยมทองอีกหลายองค์
หลังจากที่แถลงข่าวแล้ว ทางผู้กำกับฯ ยังได้สอบถามผู้ต้องหา โดยให้การอ้างว่าเป็นความสมยอมของทั้ง 2 ฝ่าย โดยอาศัยห้วงอารมณ์เปลี่ยวของผู้สูงวัย ที่ตกเป็นเหยื่อไปร่วมหลับนอนกัน และอ้างว่าให้ทรัพย์สินได้มาจากสมัครใจทั้งนั้น แต่จากพฤติกรรม หลักฐานและการแจ้งความของผู้เสียหายให้การตรงกันว่า พฤติกรรมของผู้ต้องหาจะหลอกลวงไปเพื่อร่วมหลบนอน แต่ส่วนใหญ่จะไม่ได้สนใจหลับนอนตามที่หวัง แต่มีการออกอุบายให้เหยื่อเข้าห้องน้ำและวางทรัพย์สินมีค่าไว้ก่อนที่จะฉกทรัพย์วิ่งหลบหนี บางรายถูกล็อคห้องขังไว้ข้างในและยังมีอีกหลายรายที่เป็นผู้สูงวัย กลัวอับอายเลยไม่เข้าแจ้งความ
ขณะที่ คุณตาวัย 72 ปีก็ออกมายืนยันว่าถูกหลอกจริงและหากคืนสร้อยคอทองคำให้ตนเอง ก็จะไม่เอาเรื่อง จึงเกิดการโต้คารมกันเล็กน้อย