โซเชียลสับแหลก! ภูทับเบิกเปลี่ยนไป หลังโชว์ภาพรีสอร์ทผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด

โซเชียลสับแหลก! ภูทับเบิกเปลี่ยนไป หลังโชว์ภาพรีสอร์ทผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด

โซเชียลสับแหลก! ภูทับเบิกเปลี่ยนไป หลังโชว์ภาพรีสอร์ทผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(30 ก.ย.) โลกโซเชียลได้เกิดกระแสฮือฮา เมื่อมีผู้ใช้ชื่อ Katanarii Nira ได้โพสต์ข้อความและภาพบ้านพักรีสอร์ทบนยอดภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์ ที่ผุดเป็นดอกเห็ดและตั้งอยู่ในทำเลที่ลาดเชิงเขา ผ่านห้องชมรมคนรักเขาค้อ-ภูทับเบิก พร้อมระบุว่า

"ความเสื่อมถอยของธรรมชาติ ซึ่งโดนทำลายจากน้ำมือของมนุษย์และคำว่าธุรกิจ ธรรมชาติกำลังร้องไห้อยู่สินะ...ภูทับเบิก"

ทำให้มีผู้ร่วมแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก โดยมีทั้งฝ่ายสนับสนุนและไม่เห็นด้วยร่วมแจมโดยการหยิบยกเหตุผลของแต่ละคนมากล่าวอ้างกันเป็นจำนวนมาก จนกลายเป็นประเด็นดราม่าสร้างกระแสร้อนฉ่าบนสังคมโซเชียลดังกล่าว

ทางฝ่ายที่เห็นความเปลี่ยนแปลงชี้ว่าภูทับเบิกเปลี่ยนไปจากอดีตมาก ยุคแรกเริ่มจากไร่กะหล่ำปลีสุดสายตา ผู้มาเที่ยวนอนเต็นท์แต่ขณะนี้เข้าสู่ยุคธุรกิจเต็มตัว หากยังเพิกเฉยต่อไปธรรมชาติคงถูกทำลายด้วยน้ำมือมนุษย์ หรือสงสารภูทับเบิกเห็นภาพแล้วรับไม่ได้

ในขณะที่ฝ่ายที่เห็นตรงกันข้ามอ้างว่า เมื่อต้องการความสะดวกสะบายก็ต้องแลกด้วยธรรมชาติ หรือปลูกกะหล่ำรายได้ไม่ดีสู้สร้างรีสอร์ทรวยไม่รู้เรื่อง นอกจากนี้บางรายยังกล่าวถึงขั้นด้วยว่า กลัวทำลายธรรมชาติก็ไม่ต้องมาเที่ยวหรือแม้กระทั่งถึงจะจ่ายแพงแต่ก็ยอม ฯลฯ

ด้าน นายสมบูรณ์ ศรีธรรม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลวังบาล อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ กล่าวว่า ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาหลังกระแสการท่องเที่ยวภูทับเบิกบูมมาก ทำให้มีนักท่องเที่ยวแห่มาพักค้างแรมเป็นจำนวนมาก ยิ่งช่วงวันหยุดเทศกาลภูทับเบิกแทบแตก ทำให้ชาวม้งในพื้นที่ยอมลงทุนก่อสร้างรีสอร์ท ปัจจุบันมีราวเกือบ 60 แห่ง แต่เนื่องจากทุนต่ำจึงมองแต่ปริมาณโดยไม่คำนึงเรื่องคุณภาพและความมั่นคงแข็งแรง โดยเฉพาะบางแห่งยังสร้างบ้านพักอยู่ในจุดเสี่ยงดินสไลด์หรือโคลนถล่มอีกด้วย

นายสมบูรณ์ กล่าวว่า องค์การบริหารส่วนตำบลไม่มีอำนาจเข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือบริหารจัดการพื้นที่ โดยกรมป่าไม้และศูนย์พัฒนาสงเคราะห์ชาวเขาเป็นเจ้าของพื้นที่ นอกจากนี้มีกลุ่มวิสาหกิจชุมชนและชาวม้งดูแลจัดเก็บผลประโยชน์กันเอง

โดยทาง อบต.ไม่ได้เข้าไปจัดเก็บภาษีป้ายหรือภาษีโรงเรือนแต่อย่างใด จึงทำให้ไร้ทิศทางการดูแลและพัฒนาการท่องเที่ยว ที่ผ่านมา ทางองค์การบริหารส่วนตำบลได้รับการร้องเรียนมากทั้งเรื่องราคาที่พักและอาหารแพงเกินความเป็นจริง เคยนำปัญหาเสนอเข้าสู่เวทีระดับจังหวัด แต่ยังไม่ได้รับการแก้ไข

นายสมบูรณ์ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องขยะเป็นปัญหาใหญ่ที่แต่ละรีสอร์ทจะจัดเก็บกันเอง จากนั้นนำไปทิ้งบ่อขยะในหมู่บ้านทำให้แหล่งทิ้งขยะของหมู่บ้านไม่พอรองรับ จนเกิดความขัดแย้งกันพอสมควร

นอกจากนี้ ยังมีปัญหาเรื่องแย่งแหล่งน้ำซึ่งทางรีสอร์ทจะสูบน้ำไปใช้ในธุรกิจทำให้หมู่บ้านไม่เพียงพอทำประปาบริโภคและอุปโภครวมทั้งทำการเกษตรและมีปัญหาเรื่องจราจรคับคั่งซึ่งเคยเกิดเหตุการณ์รถนักท่องเที่ยวติดหนึบ จนหญิงชาวม้งต้องคลอดลูกระหว่างทางเพราะไปโรงพยาบาลไม่ทัน ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้แก่ชาวม้งในหมู่บ้านเพราะไปกระทบวิถีชีวิตและความเป็นอยู่

ทั้งนี้ รายงานข่าวระบุว่า ต่อมามีผู้ใช้ชื่อ Sathit Bagua Boonpeng โพสต์เฟซบุ๊กโดยแตกประเด็น โดยอ้างว่า ไปเที่ยวภูทับเบิกห้าปีที่แล้ว..และมาเห็นภาพปัจจุบันของเพื่อนๆในนี้ เลยตัดสินใจโพสต์ถามที่โยธาจังหวัด..แต่ก็ไม่รู้ว่า จะได้คำตอบยังงัย คิดว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นที่นี่ เป็นสิ่งที่ชาวบ้านเลือกที่จะพัฒนาให้เป็นแบบนี้หรือเปล่า แต่เห็นแล้วไม่สบายใจเหมือนทับเบิกหายไป

จากนั้นยังโพสต์ข้อความถึง ผอ.สำนักผังเมืองรวมและผังเมืองเฉพาะสอบถามว่าสามารถสร้างสิ่งปลูกสร้างแบบนี้ได้หรือไม่ และทางจังหวัดมีแผนพัฒนาพื้นที่ตรงนี้อย่างไร สิ่งที่เกิดขึ้นบนภูทับเบิกจะเป็นการทำลายตัวตนของภูทับเบิกและต่อไปจะเป็นแค่เพียงอดีต

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook