ตามล่า! โจรหน้าหล่อ ใช้คารมปล้นร้านทองห้างเมืองอุดรฯ

ตามล่า! โจรหน้าหล่อ ใช้คารมปล้นร้านทองห้างเมืองอุดรฯ

ตามล่า! โจรหน้าหล่อ ใช้คารมปล้นร้านทองห้างเมืองอุดรฯ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โจรหนุ่มหน้าหล่อ วิ่งราวทรัพย์ร้านทองในห้างดังอุดรฯ ได้สร้อยคอทองคำไป 2 บาท หลบหนีเตลิด กล้องวงจรปิดบันทึกขณะก่อเหตุได้ชัด

เมื่อวานนี้ (30 ก.ย.) เวลา 19.00 น. พ.ต.ท.สุมิตร นันสถิตย์ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเกิดเหตุ มีคนร้ายวิ่งราวทรัพย์ ร้านทองในห้างเทสโก้ โลตัส สาขายูดีทาวน์ เขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงได้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ งานป้องกันและปราบปราม 191 รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นร้านเพชรทองแม่ไพจิตร พบพนักงานขายหญิง 2 คน อยู่ในอาการตกใจ คนร้ายได้สร้อยคอทองน้ำหนัก 2 บาท ลายปล้องอ้อย ตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในร้านสามารถบันทึกภาพของคนร้ายไว้ได้ ขณะมาก่อเหตุ เป็นชายอายุประมาณ 25-35 ปี สวมหมวกแก๊ป สีดำ ใส่เสื้อยืดแขนสั้นสีดำลายเสือ นุ่งกางเกงยีนส์ ขายาว

จากการสอบสวน น.ส.มลฤทัย อายุ 41 ปี พนักงานขายทอง ให้การว่า คนร้ายได้ทำทีมาเลือกซื้อสร้อยทองคำน้ำหนัก 2 บาท บอกว่าจะซื้อทองไปให้พ่อ ตนเลยไปหยิบสร้อยคอทองน้ำหนัก 2 บาท ลายปล้องอ้อยที่อยู่ในตู้โชว์ด้านหลังมาให้คนร้ายดู ตนคิดราคาเป็นเงิน 41,000 บาท

แต่คนร้ายอ้างว่า ให้แฟนสาวเป็นชาวต่างด้าวไปถอนเงินที่ธนาคาร อยู่ห่างจากร้านทองไป 20 เมตร คนร้ายก็ทำทีเดินไปหาแฟนสาวที่ธนาคาร วนกลับไปมาเลือกดูทองอยู่ที่ร้านหลายรอบ เมื่อคนร้ายเข้ามาที่ร้านรอบเป็นที่ 3 บอกว่าที่ธนาคารคนเยอะมาก ตนจึงเอะใจคาดว่าต้องมีพิรุธอะไรแน่นอน

ตนเลยได้เดินทางไปดูที่ธนาคาร ก็เห็นคนมาถอนเงินเยอะจริงๆ คนร้ายก็ยืนอยู่ที่แถวหน้าธนาคาร ตนเลยกลับมาที่ร้านบอกให้น้องอีกคนที่พนักงานขายทองด้วยกัน เอาสร้อยคอทองน้ำหนัก 2 บาท ลายปล้องอ้อย ใส่ไว้ในกล่องทองพลาสติก แล้วก็ใส่เอาไว้ในถุงผ้าสีแดง เตรียมเอาไว้ คิดว่าจะต้องกลับมาซื้อทองอย่างแน่นอน

กระทั่งคนร้ายวนกลับมาที่ร้านเป็นรอบที่ 4 เดินเข้ามายังร้านบอกว่าได้เงินมาแล้ว จึงได้หยิบถุงผ้าสีแดงที่มีสร้อยคอทองอยู่ข้างใน วางไว้บนตู้โชว์ แล้วคนร้ายก็คว้าหยิบถุงทองและวิ่งหลบหนีไป ตนก็วิ่งไล่ตาม ร้องขอช่วยเหลือบอก ให้ รปภ.ช่วยจับคนร้าย แต่ก็ไม่ทัน คนร้ายได้วิ่งขึ้นรถเก๋งฮอนด้าซิตี้ สีขาว จำหมายเลขทะเบียนไม่ได้

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งวิทยุสกัด แต่ก็ไร้วี่แววรถยนต์ของคนร้าย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน เพื่อเป็นเบาะแสในการสืบสวน ติดตามจับกุมคนร้าย มาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook