ศาลอาญา ไม่รับคดียิ่งลักษณ์ ฟ้อง อสส. ปมจำนำข้าว ชี้ทำตามขั้นตอน

ศาลอาญา ไม่รับคดียิ่งลักษณ์ ฟ้อง อสส. ปมจำนำข้าว ชี้ทำตามขั้นตอน

ศาลอาญา ไม่รับคดียิ่งลักษณ์ ฟ้อง อสส. ปมจำนำข้าว ชี้ทำตามขั้นตอน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ศาลอาญา ไม่รับฟ้อง คดีที่อดีตนายกรัฐมนตรียื่นฟ้องอดีตอัยการสูงสุด กับพวกรวม 4 คน กรณีสั่งฟ้องคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวมิชอบ โดยไม่รับไว้พิจารณา ระบุ การสั่งฟ้องคดีรับจำนำข้าวชอบด้วยกฎหมาย

คดีนี้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ยื่นฟ้อง นายตระกูล วินิจนัยภาค อดีตอัยการสูงสุด นายชุติชัย สาขากร อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ นายสุรศักดิ์ ตรีรัตน์ตระกูล อธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน และนายกิตินันท์ ธัชประมุข รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน รวม 4 คน ต่อศาลอาญา รัชดาภิเษก เมื่อวันที่ 29 กันยายน ที่ผ่านมา ในความผิดฐานละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157

และความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม ตามมาตรา 200 กรณีอัยการสูงสุด กับพวกซึ่งเป็นคณะทำงานพิจารณาคดี มีความเห็นสั่งฟ้อง นางสาวยิ่งลักษณ์ ในคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว แต่ไม่ไต่สวนข้อไม่สมบูรณ์ในคดีให้แล้วเสร็จ และนำเอกสารนอกสำนวนกว่า 60,000 แผ่น เข้ามาในสำนวนโดยมิชอบ

โดยในวันนี้นางสาวยิ่งลักษณ์ ได้มอบหมายให้ นายสมหมาย กู้ทรัพย์ ทนายความ มาฟังคำสั่งคดี ซึ่งศาลพิเคราะห์คำร้อง และข้อกฎหมาย แล้วเห็นว่า ที่นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวอ้างว่าคณะทำงานร่วม ระหว่าง อัยการ และ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ไม่มีการพิจารณาสำนวนร่วมกัน และไม่ไต่สวนข้อสมบูรณ์ให้เสร็จสิ้น ศาลเห็นว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ มีเพียงเอกสารที่เป็นข้อมูลจากสื่อมวลชน ซึ่งยังไม่เป็นทางการ และไม่มีหลักฐานยืนยัน

และเมื่อพิจารณาจากท้ายคำร้องของคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ระบุไว้ว่าคณะทำงานร่วมทั้งสองฝ่ายได้มีการพิจารณาสำนวนร่วมกันแล้วตามพระราชบัญญัติองค์กรอัยการและพนักงานอัยการพ.ศ.2553และระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการดำเนินคดีอาญาของพนักงานอัยการพ.ศ.2557เป็นการทำตามขั้นตอนและกระบวนการทางกฎหมาย

ส่วนกรณีที่นางสาวยิ่งลักษณ์บรรยายฟ้องว่า อัยการสูงสุดกับพวกมีความเห็นสั่งฟ้องเพียง 1 ชั่วโมง ก่อนที่ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. จะพิจารณาถอดถอนนางสาวยิ่งลักษณ์ นั้น เห็นว่านางสาวยิ่งลักษณ์ เข้าใจไปเองว่า อัยการสูงสุดกลั่นแกล้ง แต่ในคำฟ้องก็ไม่ได้บรรยายว่า อัยการสูงสุดกับพวก มีเจตนาอะไรเพื่อกลั่นแกล้ง นางสาวยิ่งลักษณ์

และเห็นว่าตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญ วิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2542 และข้อกำหนดการดำเนินคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2543 ระบุว่าให้ศาลยึดรายงานของ ป.ป.ช. เป็นหลัก แต่ก็ให้อำนาจศาล แสวงหาข้อเท็จจริงโดยเรียกพยานมาไต่สวนได้ และจำเลยก็มีสิทธินำพยานมาหักล้าง จึงเห็นว่า การกระทำของอัยการสูงสุดกับพวกรวม 4 คน ไม่ใช่การปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และไม่มีเจตนากลั่นแกล้งให้โจทก์ต้องรับโทษหนักขึ้น จึงไม่รับคดีนี้ไว้พิจารณา

ด้าน นายสมหมาย กู้ทรัพย์ ทนายความ ระบุว่าจะนำคำสั่งไปหารือกับทีมทนายความก่อน แต่ส่วนตัวเชื่อว่านางสาวยิ่งลักษณ์ จะอุทธรณ์คำสั่ง และยืนยันว่าการยื่นฟ้องครั้งนี้เป็นการฟ้องตามข้อเท็จจริง ไม่ใช่การฟ้องเท็จ และไม่กังวล หากมีการฟ้องกลับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook