สาวขอนแก่นโผล่อีกราย หลงคารมเป็นเหยื่อบริจาค ต้อม โอรส
หญิงวัย 21 ปี ชาวจังหวัดขอนแก่น เข้าแจ้งความกับตำรวจเพื่อแจ้งจับต้อม โอรส หลังถูกหลอกให้โอนเงินบริจาคช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก
(12 ต.ค.) นางสาวทองสาย อายุ 20 ปี ชาว อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น แม่ค้าขายเครื่องสำอางออนไลน์ เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.ท.สมศักดิ์ บุญมานนท์ พงส.สภ.เมืองขอนแก่น ว่า ตนได้ถูก นายรัชชานนท์ บุญญาพิทักษ์ หรือ ต้อม โอรส โดยใช้ชื่อในเฟซบุ๊ก สื่อสังคมออนไลน์ว่า "รัชชานนท์ โชคณาพิทักษ์ชัยกุล" ได้หลอกลวงหว่านล้อมชวนให้ทำบุญบริจาคเงินแทนสิ่งของ
เป็นเหตุทำให้ นางสาวทองสาย หลงเชื่อโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารไปให้จำนวน 3,000 บาท กระทั่งจับได้ว่าหนุ่มรายนี้ที่แท้ก็เป็น 18 มงกุฎ โดยมีผู้หลงเชื่อสูญเงินไปจำนวนมากหลายหมื่นบาท ตนไม่อยากให้คนอื่นต้องตกเป็นเหยื่อเช่นเดียวกับตน จึงนำเอกสารหลักฐานเข้าแจ้งความที่โรงพักไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนผู้เสียหาย เล่าว่า เหตุเกิดเมื่อเวลาเที่ยงคืนวันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา ตนได้เข้าเล่นเฟซบุ๊กตั้งแต่หัวค่ำ กระทั่งไปเห็นรูปของเจ้าของเฟซที่มีชื่อว่า รัชชานนท์ โชคณาพิทักษ์ชัยกุล ยืนถ่ายรูปกับเด็กๆ ชาวเขาบนดอย พร้อมข้อความที่โพส์ตลงเฟซว่า
"โอกาส วาสนาของแต่ละคนมาไม่เท่ากัน บางคนมีเหลือกินเหลือใช้ มากซะจนต้องทิ้งขว้าง แต่บางคนไม่มี และของที่คุณทิ้ง ของที่ไม่มีค่าของคุณ อาจเป็นของที่มีค่าที่สุด สำหรับพวกเขาก็ได้ครับ......." หลังจากนั้นก็เป็นข้อความเชิญชวนให้ช่วยบริจาคสิ่งของให้แก่ผู้ยากไร้
ตนอ่านจนหลงเชื่อจึงได้ติดต่อไปยังชายเจ้าของเฟซบุ๊ก เพราะสนใจจะบริจาคสิ่งของที่มีอยู่ จนเมื่อได้คุยกับชายคนนี้ผ่านทางเฟซบุ๊ก กลับหว่านล้อมบอกว่าสิ่งของมีเยอะแล้ว ขอเป็นเงินบริจาคดีกว่า จนกระทั่งเวลาเที่ยงคืน ตนจึงได้ทำธุรกรรมทางโทรศัพท์มือถือ โดยทำการโอนเงินออนไลน์จากบัญชีธนาคารกสิกรไทยของตน เข้าบัญชีธนาคารออมสินของชายคนนี้ เป็นเงินจำนวน 3,000 บาท เสียค่าธรรมเนียมการโอน 25 บาท
หลังจากนั้นได้คุยกับชายคนนี้ต่อ ซึ่งได้หว่านล้อมต่อให้ตนบริจาคเพิ่มอีก 300 บาทจะได้ข้าว 2 กระสอบ แถมทิ้งท้ายว่าระวัง 18 มงกุฎ ตนบอกขอคิดดูก่อน 3 วันต่อมาชายคนนี้ได้คุยเฟซกับตนโดยแอบอ้างเบื้องสูง ว่าเป็นกองทุนราชินูปถัมภ์ฯ แต่ตนขอตัวเพราะได้บริจาคไปแล้ว
ต่อมาตนพบข่าวแชร์เตือนภัยในโลกออนไลน์ เกี่ยวกับพฤติกรรมถูกหลอกทำบุญ โอนเงินไปให้พวกแก๊ง 18 มงกุฎหลายรายแล้ว บางรายต้องสูญเงินไปเป็นจำนวนมากหลายหมื่นบาท จึงเอะใจว่าจะเป็นคนเดียวกันหรือไม่ จึงเข้าไปคุยกับชายคนนี้ทางเฟซบุ๊กอีก บอกให้คืนเงินจำนวน 3,000 บาทให้กับตน เพราะไม่เชื่อว่าจะเอาไปทำบุญจริงๆ
แต่ปรากฏว่าถูกชายคนนี้ได้ด่ากลับมา สรุปใจความได้ว่า "ผมไม่ได้บังคับคุณโอนเงินมาให้ผม อยากซ้ำเติมผมก็แล้วแต่" แถมขู่ว่าตนต่างต่างนานาว่าไม่กลัว หากตนจะเอาเรื่องก็ตามแต่ กระทั่งคุยเสร็จได้ชิงปิดเฟซหนีตนไป จนทราบภายหลังว่าเป็นคนๆ เดียวกันจริงๆ ที่หลอกคนทำบุญ
"ถ้าจะทำบุญ ไปทำที่วัดดีกว่าค่ะ ในเฟซบุ๊กไม่น่าเชื่อถือเลย เจ็บใจค่ะ คนตั้งใจทำบุญกลับถูกหลอกโอนเงินไปใช้ส่วนตัว ต่อไปไปทำบุญ-บริจาคตามวัดดีที่สุดค่ะ" ทางตำรวจได้รับแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน เพื่อดำเนินการตามกฏหมายต่อไป