ชูวิทย์รอลุ้น!หลังกลับคำรับสารภาพคดีรื้อบาร์เบียร์
ชูวิทย์ ยังต้องลุ้น! ศาลฎีกา จะยอมรับฟังคำรับสารภาพหรือไม่ เพราะเป็นดุลยพินิจ
ความคืบหน้ากรณี นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ยื่นคำร้องขอรับสารภาพ ก่อนที่ศาลชั้นต้นจะอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีที่ถูกอัยการยื่นฟ้องเป็นจำเลยในคดีรื้อบาร์เบียร์ เพียงไม่กี่ชั่วโมง ทำให้ศาลชั้นต้นต้องนำคำร้องส่งไปศาลฎีกาและฟังคำพิพากษาใหม่อีกครั้งเป็นวันที่ 28 มกราคม 59
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักอบรมศึกษากฎหมายเนติบัณฑิตยสภา ให้ความเห็นว่า การยื่นคำร้องขอรับสารภาพดังกล่าว ไม่ใช่การร้องขอแก้ไขคำให้การ เพราะต้องยื่นก่อนศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา และไม่ใช่คำร้องขอถอนฎีกา เพราะถ้าถอนคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ย่อมเด็ดขาด คือต้องรับโทษจำคุกตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ แต่คำรับสารภาพดังกล่าว เป็นสิทธิ์ของจำเลยที่จะเปลี่ยนคำให้การเป็นรับสารภาพ โดยยื่นเข้ามาในสำนวน และศาลชั้นต้นรับไว้เพื่อส่งศาลฎีกาพิจารณาสั่ง และข้อเท็จจริงเท่าที่ทราบ ศาลฎีกาสั่งให้เลื่อนการอ่านคำพิพากษาออกไป และให้ส่งสำนวนกับคำพิพากษาศาลฎีกากลับไปศาลฎีกา เพื่อพิจารณาประกอบคำร้องของจำเลย
แต่เป็นดุลยพินิจของศาลฎีกาว่า จะพิจารณาคำร้องเปลี่ยนคำให้การเป็นรับสารภาพหรือไม่ก็ได้ ถ้ารับ ศาลก็เขียนคำพิพากษาใหม่ หรือถ้าไม่รับ และให้อ่านคำพิพากษาไปตามฉบับเดิมก็เป็นไปได้ทั้งสิ้น เพราะเป็นคำร้องที่เกี่ยวพันกัน ดังนั้น คำพิพากษาศาลฎีกาในส่วนเฉพาะ นายชูวิทย์ จะแก้หรือจะเป็นไปตามเดิม เป็นเรื่องอนาคตไม่มีใครทราบได้ ดังนั้น ต้องรอฟังคำพิพากษา ในวันที่ 28 มกราคม 59