อดีตข้าราชการซี 8 อ้างถูกหวย เหมาอาหารเลี้ยง สุดท้ายไม่มีจ่าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (20 ต.ค.) สภ.เมืองนนทบุรี ได้รับแจ้งเหตุขอความช่วยเหลือว่า มีลูกค้าทานอาหารแล้วไม่ยอมจ่ายค่าอาหาร ที่ร้านป้าเล็ก ถนนนนทบุรี 1 ตรงข้ามเรือนจำกลางบางขวาง ต.สวนใหญ่ อ.เมือง นนทบุรี
ที่เกิดเหตุเป็นร้านอาหารชื่อป้าเล็ก พบ นางฐิติกุล อายุ 59 ปี เป็นเจ้าของร้าน และ นางนาตยา อายุ 63 ปี คนขายน้ำดื่มที่อยู่ติดกับร้านอาหารดังกล่าว ชี้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมลูกค้าเป็นชายสูงอายุ 1 คน แต่งกายใส่กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน สวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้า ทับด้วยเสื้อคลุมมีตรากรมราชทัณฑ์ที่อกเสื้อ ซึ่งนั่งทานอาหารอยู่ในร้าน
จากการสอบสวน นางฐิติกุล และนางนาตยา ผู้เสียหายให้การว่า ชายคนดังกล่าวเดินทางมาด้วยแท็กซี่สีชมพู จำทะเบียนไม่ได้ ลงจากรถมาแล้วสั่งอาหารข้าวราดแกงทานของตัวเอง 1 จาน และของคนขับแท็กซี่ 1 จาน ก่อนประกาศให้คนในร้าน และลูกค้าที่ยืนรอซื้ออาหารว่าทานฟรีทุกคน
ตอนแรกตนก็ปฏิเสธบอกว่าไม่ได้ขายเหมา เพราะมีลูกค้าประจำทานอยู่ต้องขายเขาด้วย ชายคนดังกล่าวจึงเปลี่ยนเป็นสั่งอาหารใส่ถุงแทนจำนวน 30 ถุง แล้วแจกให้กับคนที่มายืนรอซื้ออาหารอยู่จนหมด ก่อนประกาศให้ลูกค้าคนอื่นๆ ทานฟรีได้เลย แกเพิ่งถูกลอตเตอรี่มาได้เงินมา 1 แสนบาท
ตนเห็นว่าชายคนดังกล่าวแต่งตัวดี น่าเชื่อถือเพราะเมื่อสัปดาห์ก่อนเคยมาซื้อข้าวแกงแบบนี้แจกมาแล้วครั้งหนึ่ง ตอนนั้นสั่งอาหารใส่ถุง 170 ถุง ก็จ่ายค่าอาหาร แต่มาครั้งนี้สั่งจนอาหารที่เตรียมไว้จำหน่ายหมดเกลี้ยง แต่พอคิดค่าอาหาร ลมแทบจับเพราะชายคนดังกล่าวปฏิเสธจ่ายค่าอาหาร
ที่ประกอบด้วยแกง 6 หม้อ ข้าวเปล่า 2 หม้อ รวมเป็นเงิน 4,300 บาท และค่าเครื่องดื่ม ประกอบด้วย โอเลี้ยง 16 แก้ว ราคา 240 บาท กาแฟเย็นและชานม 25 แก้ว ราคา 500 บาท รวมค่าเครื่องดื่ม 740 บาท โดยอ้างว่าไม่มีเงินจ่ายขอให้เรียกตำรวจมาจับได้เลย อยากติดคุก ส่วนคนขับแท็กซี่ที่พามาเมื่อทานข้าวเสร็จ เห็นท่าไม่ดีรีบขับรถหนีไปทันที
จากการตรวจสอบชายคนดังกล่าว ไม่พบบัตรประชาชนหรือบัตรข้าราชการใดๆ มีเพียงสมุดจดเบอร์โทรศัพท์ 1 เล่ม โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง โดยอ้างว่าเอกสารอยู่ในกระเป๋าที่ติดไปกับรถแท็กซี่ และบอกว่าชื่อ นายขวัญ อายุ 74 ปี เป็นอดีตข้าราชการกรมราชทัณฑ์ ระดับ 8 เคยดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการเรือนจำที่ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช
พักอาศัยอยู่ที่คอนโดฯ ซอยงามวงศ์วาน 18 แยก 3 ต.บางเขน อ.เมือง นนทบุรี ที่มาสั่งอาหารเหมาเลี้ยงลูกค้าคนอื่นๆ เพราะรู้สึกสงสารคนไม่มีกิน ตนเคยขายอาหารในตลาดที่ จ.ตรัง มาก่อนเข้าใจคนอดอยากดี
เมื่อตรวจสอบไปทางคอนโดฯ ทราบว่าลุงขวัญพักอาศัยอยู่จริง โดยลูกสาวซึ่งทำงานอยู่ธนาคารแห่งหนึ่ง เป็นผู้มาเช่าให้คุณลุงขวัญพักอาศัยในราคาเดือนละ 6 พันบาท ค่าน้ำค่าไฟต่างหาก และจะแวะมาดูแลลุงขวัญเป็นประจำ สำหรับแม่ค้าทั้งสองคนครั้งแรกยืนยันจะเอาผิด แต่สงสารเห็นใจ ไม่อยากเอาคนแก่มาติดคุก คิดเสียว่าวันนี้ดวงซวย จึงตัดสินใจลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
เบื้องต้น พนักงานสอบสวนได้ลงบันทึกประจำวันไว้ ขณะลุงขวัญยังนั่งรออยู่สักครู่ นางนาตยา แม่ค้าเครื่องดื่มก็วิ่งเอากระเป๋าใส่เอกสารของลุงขวัญ ที่คนขับแท็กซี่นำกลับมาส่งคืนให้ เปิดออกดูมีบัญชีธนาคาร 2 เล่ม เล่มแรกมีเงินติดบัญชีเหลืออยู่ 32 สตางค์ อีกเล่มมีเหลือติดอยู่ 57 สตางค์ บัตรประจำตัวข้าราชการกรมราชทัณฑ์ ระดับ 5 พร้อมด้วยหนังสืออุทิศร่างกายให้ รพ.ศิริราช เมื่อเสียชีวิตแล้ว
โดยลุงขวัญพูดว่าเราเป็นหนี้แม่ค้าอยู่ จะไปหาเงินมาใช้หนี้เขาดีกว่า ก่อนลงโรงพักเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มอบเงินค่ารถให้ก่อนกลับออกไป