ภูทับเบิกสร้างรีสอร์ตไป 1.2 พันไร่ พบ 62 แห่งผิดกฎหมายชัด
นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้อำนวยการส่วนกิจการพิเศษ กรมป่าไม้ ในฐานะหัวหน้าชุดปฏิบัติการพยัคฆ์ไพร กล่าวว่า เนื่องจากพื้นที่ภูทับเบิกทั้งหมด 47,000 ไร่นั้น อยู่ภายใต้กฏหมายพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ป่าไม้ พ.ศ.2484 กฏหมายฉบับนี้ ยังไม่มีมาตรา 25 คือ ให้อำนาจอธิบดีกรมป่าไม้ สามารถสั่งรื้อถอน
สำหรับสิ่งก่อสร้างที่พิสูจน์แล้วว่าบุกรุกในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ เหมือน พ.ร.บ.ป่าไม้ฉบับที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ดังนั้น รีสอร์ต 27 ราย ที่กรมป่าไม้เคยเข้าจับกุม และ 10 ราย ที่ศาลพิพากษาคดีสิ้นสุดแล้วนั้น พิพากษาให้จำเลยผู้กระทำผิด และบริวารออกนอกพื้นที่ไป นั้น
ขั้นตอนที่กรมป่าไม้จะต้องทำต่อไปก็คือ ต้องบังคับคดีให้จำเลยทั้งหมดออกนอกพื้นที่ไปจริงๆ ส่วนของกลาง อยู่ระหว่างปรึกษากันในกรมว่าจะดำเนินการอย่างไร เบื้องต้นอาจจะต้องร้องศาลเพิ่มเติม เพื่อขอรื้อทิ้งทั้งหมด ก่อนเข้าสู่กระบวนการจัดระเบียบตามโรดแม็ปที่กำหนดเอาไว้ต่อไป
หัวหน้าชุดปฏิบัติการพยัคฆ์ไพร กล่าวว่า จากการลงตรวจสอบอย่างละเอียด โดยการทำกราวด์เช็คในพื้นที่ภูทับเบิกนั้นขอเรียนว่า ในพื้นที่ 47,000 ไร่ ไม่ได้ถูกนำมาสร้างรีสอร์ตทั้งหมดอย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่มีการใช้สร้างรีสอร์ตไปแค่ 1,200 ไร่เท่านั้น ที่เหลือยังคงเป็น ชุมชน พื้นที่เกษตรกรรม และป่าธรรมชาติ อย่างไรก็ตามพื้นที่เหล่านี้ได้รับผลกระทบจากปัญหา ขยะ มลพิษ และจราจรติดขัดที่เกิดจากที่ไม่มีการจัดระเบียบการท่องเที่ยวอย่างมาก
ถามว่าที่ไปตรวจสอบ แล้วพบว่า มี 62 รีสอร์ต ที่ผิดกฏหมายชัดเจน จะทำอย่างไรกับรีสอร์ตเหล่านี้ต่อไป นายชีวะภาพ กล่าวว่า ทั้ง 62 แห่ง มีทั้งที่ก่อสร้างเสร็จเรียบร้อย และอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ส่วนที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างนั้นจะต้องให้หยุดดำเนินการไปก่อนทั้งหมด รวมทั้งห้ามก่อสร้ามเพิ่มอีกเด็ดขาด โดยในวันที่ 26 ตุลาคมเจ้าหน้าที่จะนำป้าย ห้ามก่อสร้างใดๆในพื้นที่ภูทับเบิกไปปัก ประกาศให้ทุกคนทราบ