เชือด! อดีตบิ๊กสรรพากร คดีโกงภาษี ทำรัฐสูญหลายพันล้าน

วันที่ 27 ต.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) นายวิชา มหาคุณ กรรมการป.ป.ช. แถลงว่า ที่ประชุมได้พิจารณาสำนวนและรายงานการไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีกล่าวหา นายศุภกิจ ริยะการ เมื่อครั้งเป็น สรรพากรพื้นที่กรุงเทพมหานคร 22 และ นายสาธิต รังคสิริ เมื่อครั้งเป็น อธิบดีกรมสรรพากร กรณีทุจริตคืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่มมูลค่า 4.3 พันล้านบาทเป็นเท็จ ที่ประชุมป.ป.ช. พิจารณาสำนวนและมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า การกระทำของ นายศุภกิจ และนายสาธิต มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา

มาตรา 141 ถอนทำลายพยานหลักฐาน มีโทษจำคุก 2 ปี, มาตรา 151 เจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต มีโทษจำคุกตลอดชีวิต

และมาตรา 157 ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต มีโทษจำคุก 1-10 ปี และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการให้เป็นไปตามกฎหมาย และกระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ตามพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 82 (2) ประกอบมาตรา 85 (7) และตามมาตรา 85 (1) และ (4)

นายวิชา กล่าวว่า นายสาธิต ยังมีมูลความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามมาตรา 123/1 แห่งพ.ร.บ.ว่าด้วยป.ป.ช. พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 อีกด้วย และได้ส่งรายงานไปยังหน่วยงานต้นสังกัดเพื่อทราบด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีนี้ นายสาธิต เป็นหนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาตามสำนวนการไต่สวนของคณะอนุกรรมการ และเข้ามารับทราบและชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาไปแล้วเมื่อก.ค. 2558

ขณะเดียวกัน นายสาธิต ถูกคณะอนุกรรมการมีคำสั่งอายัดทรัพย์สินเป็นทองคำมูลค่า 179 ล้านบาท รวมถึงทรัพย์สินอื่นๆ ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบของคณะอนุกรรมการไต่สวนกรณีร่ำรวยผิดปกติ ที่มี น.ส.สุภา ปิยะจิตติ เป็นประธาน