สตช.แถลงการจับกุมคดีหมิ่นมาตรา 112
ตำรวจกองบังคับการปราบปราม โชว์ทรัพย์สินของกลางในคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูง พบปืนอื้อ รถกว่า 60 คัน - สื่อเกาะติดรอ ผบ.ตร. แถลงช่วงบ่าย
ความเคลื่อนไหวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ได้นำของกลางในคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ที่มี นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือ หมอหยอง นายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ และ พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา อดีตสารวัตรกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. ซึ่งเสียชีวิตไปแล้วเมื่อวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา
ที่ตรวจยึดได้จากบ้านพัก คอนโดมีเนียม ของผู้ต้องหา อาทิ รถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ใช้ในราชการ 11 คัน รถยนต์ที่ตรวจพบการกระทำผิด 10 คัน รถยนต์ที่ได้รับการสนับสนุนจากสถานทูตแคนาดา 3 คัน และรถยนต์รถจักรยานยนต์ ที่ตรวจยึดไว้เพื่อทำการตรวจสอบอีก จำนวน 38 คัน รวมถึงของกลางอื่น ๆ อาทิ กีตาร์ไฟฟ้า จำนวน 2 ตัว นาฬิกาหรู กระเป๋าแบรนด์แนม วิทยุสื่อสาร อาวุธปืน 20 กระบอก ตุ๊กตาปั้น พระเครื่อง และอัญมณีจำนวนมาก โดยทรัพย์สินส่วนหนึ่งที่ตรวจยึดได้เป็นของผู้ต้องหาคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูง อาทิ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พ.ต.อ.อัครวุฒิ์ หลิมรัตน์ ผู้กำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม ซึ่งเสียชีวิตไปก่อนหน้านี้
ขณะที่บรรยากาศเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลได้กระจายกำลังโดยรอบ และมีการตรวจสัมภาระ บัตรประจำตัวสื่อมวลชน รวมถึงเพิ่มความถี่ในการเดินตรวจและคัดกรองบุคคลเข้าออกอย่างเข้มงวดก่อนจะมีการแถลงรายละเอียดจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และคณะพนักงานสอบสวนคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูงอีกครั้ง เวลา 14.00 น. (ข้อมูลจาก innnews)
ล่าสุด รายงานสดจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
14.21 น. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พร้อมคณะได้เดินทางมาถึงโต๊ะแถลงข่าวเป็นที่เรียบร้อย
14.23 น. ผบ.ตร.เริ่มแถลงข่าวการจับกุมกลุ่มบุคคลแอบอ้างสถาบันเบื้องสูง ตามมาตรา 112 โดยใช้อำนาจคำสั่ง คสช.เรียกตัวมาสอบถาม-จับกุม ได้แก่ หมอหยอง, สารวัตรเอี๊ยด และ จิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์
14.25 น. สตช. ได้อ่านคดีของผู้ต้องหาทั้ง 3 รวมทั้งหมด 13 คดี ประกอบด้วย
คดีที่ 1 ข้อหาร่วมกันดูหมิ่นและให้ร้าย ผู้ต้องหาทั้ง 3 แอบอ้างเบื้องสูง นำการ์ดไปมอบให้บริษัทเอกชน
คดีที่ 2-6 ข้อหามีอาวุธปืนและใช้วิทยุสื่อสารโทรคมนาคมโดยไม่รับอนุญาต ซึ่งมีชื่อเกี่ยวข้องกับสารวัตรเอี๊ยด
คดีที่ 7 ข้อหาร่วมกันดูหมิ่นและให้ร้าย ผู้ต้องหาทั้ง 3 แอบอ้างเบื้องสูง ขอรับการสนับสนุนจากบริษัทเอกชน เพื่อทำสิ่งของ
คดีที่ 8-12 ข้อหาร่วมกันดูหมิ่นและให้ร้าย ผู้ต้องหาทั้ง 3 แอบอ้างเบื้องสูง ขอรับการสนับสนุนทำสิ่งของและขอทุนตามหน่วยงานต่างๆ
คดีที่ 13 ข้อหาร่วมกันดูหมิ่นและให้ร้าย ผู้ต้องหาทั้ง 3 แอบอ้างเบื้องต้น ขอหมายเลขโทรศัพท์เลขสวยจาก กสทช.
14.35 น. พล.ต.ท.ศรีวราห์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่มีการออกหมายจับเพิ่ม ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการขยายผลการสอบสวน
14.41 น. ผบ.ตร. ระบุว่า ขอให้คดีหมิ่นที่ผ่านมา ทั้งกรณี พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ และ หมอหยอง เป็นอุทาหรณ์พฤติกรรมแอบอ้างเบื้องสูง
14.42 น. พล.ต.ท.ศรีวราห์ ชี้แจงเรื่องของกลาง ระบุว่า ของกลางส่วนใหญ่เป็นของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ซึ่งถูกนำแยกไปก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ-ทหารจะตรวจยึด จากเมื่อคราวก่อน แน่นอนว่าหลังจากนี้อาจจะต้องมีผู้ต้องหาเพิ่มเติม
14.47 น. ผบ.ตร. ระบุว่า พล.อ.ประวุฒิ ยังไม่พบความเกี่ยวข้องใดๆ เกี่ยวกับคดีนี้ ส่วนเรื่องการลาไปต่างประเทศนั้น ก็เป็นสิทธิใช้วันลาเพื่อพักผ่อนตามปกติ และเรื่องการยื่นใบลาออกก็ยังไม่รับเอกสารใดๆ
14.56 น. สรุปการแถลงข่าวของ สตช. เกี่ยวกับคดีแอบอ้างเบื้องต้น-หมิ่นมาตรา 112 สรุปคดีหมายจับทั้ง 13 คดี และยังไม่ออกหมายจับเพิ่มเติม
15.00 น. ผบ.ตร. และคณะทำงานเกี่ยวกับคดีดังกล่าว ขอสิ้นสุดการแถลงข่าวชี้แจงครั้งนี้