เกร็ดน่ารู้เลือกตั้งใหญ่เมียนมา 8 พ.ย. ที่ปวงชนรอคอยนานถึง 25 ปี

เกร็ดน่ารู้เลือกตั้งใหญ่เมียนมา 8 พ.ย. ที่ปวงชนรอคอยนานถึง 25 ปี

เกร็ดน่ารู้เลือกตั้งใหญ่เมียนมา 8 พ.ย. ที่ปวงชนรอคอยนานถึง 25 ปี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(8 พ.ย.58) การเลือกตั้งทั่วไปเมียนมาในวันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 นี้ นับเป็นการเลือกตั้งครั้งแรกในรอบ 25 ปี โดยหลายฝ่ายคาดหวังให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นจุดเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญสู่ยุคแห่งประชาธิปไตยในเมียนมาโดยในศึกเลือกตั้งครั้งนี้ มีพรรคการเมือง 93 พรรค และผู้สมัครรับเลือกตั้งมากกว่า 6,000 คนเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์เมียนมาด้วย

อย่างไรก็ตาม การแข่งขันหลักในศึกเลือกตั้งครั้งนี้ ยังตกอยู่ที่สองพรรคใหญ่อย่างพรรคสหสามัคคีและการพัฒนา (USDP) และพรรคสันติบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD)

การเลือกตั้งนี้ ประชาชนเมียนมาต้องเลือกผู้แทนไปสู่โครงสร้างรัฐสภาเมียนมา (ปีดองซูลุตดอ, Pyidaungsu Hluttaw) ประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎร (ปีตูลุตดอ, Pyithu Hluttaw) และสภาชาติพันธุ์ (อำโยตาลุตดอ, Amyotha Hluttaw) โดยมีที่นั่งในสภา 440 ที่นั่ง และ 224 ที่นั่งตามลำดับ รวม 664 ที่นั่ง

อย่างไรก็ตาม ภายใต้อำนาจของรัฐธรรมนูญเมียนมา ฉบับ พ.ศ. 2551 กำหนดว่า ที่นั่งในรัฐสภาต้องจัดสรรให้ตัวแทนกองทัพ 25 เปอร์เซนต์ หรือคิดเป็นที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร 110 ที่นั่ง และที่นั่งในสภาชาติพันธุ์ 56 ที่นั่ง โดยการครองเสียงข้างมากในรัฐสภาเมียนมานั้น ต้องได้สัดส่วน 2 ใน 3 จากที่นั่งทั้งหมดในรัฐสภา

หลังจากนั้น ตัวแทนจากสภาทั้งสองส่วน และตัวแทนกองทัพจะเป็นผู้เสนอชื่อประธานาธิบดีเมียนมา ผู้ที่ทำหน้าที่ทั้งประมุขแห่งรัฐ (Head of state) และหัวหน้ารัฐบาล (Head of government) โดยใครก็ตามที่รับเสียงสนับสนุนมากที่สุดจะขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี และผู้ที่มีคะแนนเสียงน้อยลงมา 2 คน จะดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดี

สำหรับนางออง ซาน ซูจี หัวหน้าพรรคเอ็นแอลดีนั้น ไม่สามารถดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีได้ เนื่องจากภายใต้อำนาจของมาตรา 59F ของรัฐธรรมนูญเมียนมาระบุว่า บุคคลที่จะเป็นประธานาธิบดีได้นั้นคู่สมรสหรือบุตรธิดาต้องไม่ถือสัญชาติอื่น ซึ่งนางซูจี มีสามีเป็นชาวอังกฤษและบุตร 2 คนที่ถือหนังสือเดินทางสัญชาติอังกฤษ

ทั้งนี้ ในการเลือกตั้งเมียนมาเมื่อปี 2533 นั้น พรรคเอ็นแอลดีของนางซูจีชนะอย่างล้นหลาม โดยได้ที่นั่งในสภาคิดเป็น 80 เปอร์เซนต์ แต่ฝ่ายกองทัพกลับคว่ำผลการเลือกตั้งครั้งดังกล่าว ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ พลเอกเต็ง เส่ง ประธานาธิบดีเมียนมาได้กล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า "รัฐบาลและกองทัพจะเคารพและยอมรับผลการเลือกตั้งครั้งนี้"

อย่างไรก็ตาม ภายหลังการปิดหีบเลือกตั้งเมียนมาในครั้งนี้ คาดการณ์ว่าจะรู้ผลที่นั่งในสภาบางส่วนช่วงประมาณเที่ยงคืนของวันอาทิตย์นี้ และจะรู้ผลอย่างชัดเจนคาดว่าจะมีการประกาศอย่างเร็วที่สุดในช่วงเย็นวันจันทร์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook