หนุ่มหลอนคลั่งปิดบ้าน ขังตัวเองและลูกเมีย เกือบ 20 ชั่วโมง
หนุ่มเพชรบูรณ์เมายา จับอดีตเมีย-ลูกๆ ขังไว้ห้องนอน นานเกือบ 20 ชั่วโมง ลูกชายหนีมาได้ ตำรวจ-กู้ภัยงัดประตูช่วยระทึก พบประวัติก่อนเหตุซ้ำๆ นับไม่ถ้วน
เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (8 พ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าพล อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ได้รับแจ้งเหตุชายคลั่ง ขังตัวเองพร้อมกับอดีตภรรยาและลูกสาววัย 14 ปี ที่บ้านหลังหนึ่ง ภายในหมู่บ้านซิตี้โฮม จึงรุดไปช่วยเหลือบ้านหลังดังกล่าว เป็นอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น พบ นายเฉลิม อายุ 35 ปี กักขังตัวเองอยู่ที่ชั้น 1 ของอาคารหลังดังกล่าว โดยมีพ่อของนายเฉลิมยืนร้องเรียกลูกชายให้เปิดประตูออก
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพยายามพูดเกลี้ยกล่อมอยู่นาน ตั้งแต่เย็นไปถึงหัวค่ำ แต่ นายเฉลิม ก็ยังไม่มีทีท่าจะเปิดประตูออกมา จึงได้ประสานไปยังมูลนิธิร่มโพธิ์เพชรบูรณ์ นำเครื่องตัดถ่างมาตัดประตูเพื่อเข้าไปด้านใน ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากเกรงว่า นายเฉลิม จะทำร้ายผู้ที่ถูกกักขังอยู่ในบ้าน ประกอบด้วย อดีตภรรยากับลูกสาวตัวเอง
ขณะที่ ลูกชายของผู้ก่อเหตุ ซึ่งหลบหนีออกมาได้ก่อนหน้านี้ ได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า พ่อได้เสพยาบ้าและมีอาวุธปืนติดตัวไว้ด้วย
เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่มโพธิ์เพชรบูรณ์ จึงได้ช่วยกันงัดประตูเข้าไป และสามารถจับกุมตัว นายเฉลิมได้ ส่วนภรรยาและลูกสาว ที่ถูกบังคับให้ไปอยู่ภายในรถยนต์ที่จอดอยู่ภายในบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ช่วยเหลือออกมาได้อย่างปลอดภัย
จากการสอบสวน นางบี (นามสมมุติ) อดีตภรรยาของนายเฉลิม ให้การว่า ตนอยู่กินกับ นายเฉลิม มีลูกด้วยกัน 2 คน เป็นเด็กชาย อายุ 9 ปี และ เด็กหญิง อายุ 14 ปี แต่ตนก็ได้หย่าร้างกับ นายเฉลิม ไปแล้วหลายปีก่อน แต่ นายเฉลิม ก็ยังอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว ตนก็ไม่ได้ว่าอะไร
อีกทั้ง นายเฉลิม มักจะติดยาบ้าจนงอมแงม บางครั้งก็เกิดอาการคลุ้มคลั่ง เมื่อหลายปีก่อนได้ใช้มีดจี้ ลูกชายเป็นตัวประกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถเกลี้ยกล่อมจนเป็นผลสำเร็จ ต่อมาเมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ก็ได้เสพยาบ้าและก่อเหตุขังตัวเองอยู่ในบ้าน พร้อมทั้งขู่ว่าจะเผาบ้าน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถเกลี้ยกล่อมได้อีกครั้ง
จากนั้นเมื่อช่วงเข้าพรรษาที่ผ่านมา นายเฉลิม ได้ไปบวชจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งหนึ่ง เมื่อออกพรรษาจึงได้สึกออกมา กระทั่งก่อนเกิดเหตุ เวลาประมาณ 23.00 น. ของคืนวันที่ 7 พฤศจิกายน ระหว่างที่ตนและลูกๆ ทั้ง 2 คนอยู่ภายในบ้าน นายเฉลิม ได้เข้ามาที่บ้านด้วยชุดนุ่งขาวห่มขาวและมีอาการเหมือนคนเมาสุรา เมื่อมาถึงได้ไล่ให้ตนและลูกๆ เข้าไปอยู่ในห้องนอนชั้น 2
จากนั้นทำการล็อคประตูและขังตนกับลูกๆ อยู่ภายในห้องนอนเกือบทั้งวัน กระทั่งเวลาประมาณ 16.00 น. ตนได้พูดหว่านล้อมขอลงมาอยู่ข้างล่าง เมื่อสบโอกาสจึงได้แง้มประตูเพื่อที่จะให้ลูกๆ หนีแต่ปรากฎว่าลูกชายหนีออกไปได้เพียงคนเดียว ส่วนลูกสาวเป็นห่วงตนเองจึงไม่หนีออกไปด้วย จึงถูกขังอยู่ภายในบ้านกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยได้สำเร็จ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ระบุว่า นายเฉลิม เสพยาบ้าและเคยก่อเหตุจับลูกชายเป็นตัวประกัน ก่อนเหตุซ้ำๆ หลายครั้งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เคยเข้าโครงการบำบัดยาเสพติดมาแล้วหลายครั้งเช่นกัน ครั้งล่าสุดก็หนีออกมาและไปบวชที่วัดแห่งหนึ่ง เมื่อสึกออกมาก็ยังมาก่อเหตุลักษณะเดิมอีกครั้ง
ทั้งนี้ ระหว่างการจับกุม นายเฉลิม มีอาการคล้ายคนเมายาบ้า ประกอบกับจากการตรวจค้นภายในบ้านพบอุปกรณ์การเสพยาบ้าจำนวนหนึ่ง ส่วนอาวุธปืนที่พบนั้น อ้างว่ายืมของเพื่อนมาและได้นำไปคืนแล้ว จึงได้นำตัวนายเฉลิมไปตรวจปัสสาวะและสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป