แม่ร้องสื่อ ลูกชายถูกล่อจับยาบ้า 3 วันต่อมา ต้องตายปริศนา
แม่ชาวโคราชร่ำไห้ร้องสื่อ วอนสืบสวนการเสียชีวิตของลูกชาย หลังถูกจ่อจับคดีจับยาบ้า แต่ 3 วันต่อไปถูกส่งเข้าโรงพยาบาล เสียชีวิตมีเงื่อนงำ
(14 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานได้รับแจ้งร้องเรียนจาก นางวาสนา อายุ 53 ปี ชาว อ.พิมาย จ.นครราชสีมา เกี่ยวกับกรณีการเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำของลูกชาย วัย 34 ปี หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการควบคุมตัว ระหว่างทำการล่อซื้อยาเสพติด เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
นางวาสนา เปิดเผยว่า ลูกชายคือ นายอนัน อายุ 34 ปี ได้เสียชีวิตลง หลังจากที่ถูกเจ้าหน้าที่วางแผนล่อซื้อยาเสพติดที่สถานีดับเพลิงตำบลจอหอ เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปที่ สภ.เมืองนครราชสีมา กระทั่งช่วงเช้าวันที่ 11 พฤศจิกายน มีเจ้าหน้าที่โทรแจ้งว่า ลูกชายอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชฯ ก่อนจะเสียชีวิตลงในอีก 2 วันต่อมา
การเสียชีวิตครั้งนี้ แพทย์ลงความเห็นว่า เสียชีวิตจากอาการได้รับบาดเจ็บที่สมองอย่างรุนแรง เนื่องจากถูกกระทบกระเทือน เนื่องจากถูกกระแทกที่ศีรษะอย่างแรง หลังจากเกิดเหตุ นางวาสนา กับ ลูกสาว ได้เดินทางมารับศพลูกชายไปประกอบพิธีทางศาสนา โดยจะตั้งบำเพ็ญกุศล 4 วัน และทำการฌาปนกิจศพต่อไป แม้จะยังแคลงใจในปมการเสียชีวิตอยู่
แม่ของผู้เสียชีวิต ยังบอกอีกว่า การเสียชีวิตของลูกชายไม่ชอบมาพากล เนื่องจากลูกชายถูกจับในข้อหามียาเสพติด วันต่อมา ตนกับลูกสาวยังไปเยี่ยมตามปกติ แต่พอวันที่ 11 พฤศจิกายน ได้รับแจ้งว่าลูกชายอยู่โรงพยาบาล เมื่อตนมาเห็นสภาพลูกชายก็แทบช็อก เพราะไม่รับรู้และตอบสนองใดๆ แพทย์บอกมีเลือดออกสมองเป็นจำนวนมาก และไม่สามารถผ่าตัดได้
ทำให้วันที่ 13 พฤศจิกายน ลูกชายได้เสียชีวิตลงดังกล่าว ซึ่งตั้งแต่ลูกชายเข้าโรงพยาบาล ไม่มีการติดต่อใดๆ จากเจ้าหน้าที่ตำรวจ และยังไม่ได้คำตอบว่า เหตุใดลูกชายถึงมีอาการเป็นเช่นนี้ จนนำไปสู่การเสียชีวิต ตนยอมรับในข้อกฎหมาย เมื่อลูกชายถูกจับฐานมียาเสพติด ก็ปล่อยให้เป็นกระบวนการทางกฎหมาย แต่ไม่ใช่ต้องจบชีวิตลงเช่นนี้ จึงขอเรียกร้องให้มีการตรวจสอบและเรียกร้องความยุติธรรมให้กับลูกชายด้วย
ทางด้าน พันตำรวจเอกบุญเลิศ ว่องวัจนะ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าวในเบื้องต้นได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวแล้ว และตนเองก็ได้รายงานให้ พลตำรวจตรีฐากูร นัทธีศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ทราบแล้วเช่นกัน พร้อมทั้งให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับเรื่องดังกล่าว ซึ่งการดำเนินการตรวจสอบก็จะต้องให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายอย่างแน่นอน