หนุ่มเมาจอดรถยางแตกรอตร. ยามไปดูกลายเป็นศพถูกฆ่าชิงทรัพย์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (16 พ.ย.) เมื่อเวลา 05.00 น. สภ.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตจากถูกทำร้ายร่างกาย ที่บริเวณหน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ถนนสายขอบอ่างมาบประชัน ม.9 ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

ที่เกิดเหตุพบรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีดำ ทะเบียน บพ -4424 ชุมพร จอดเปิดไฟสัญญาณขอทางจนแบตอ่อน อยู่ริมถนนสภาพยางหน้าขวาแตก กระจกประตูฝั่งคนขับแตกละเอียดทั้งบานจนเศษกระจกกระจายเกลื่อนพื้น และยังมีเศษขวดเบียร์ปะปนอยู่ ตัวรถด้านขวามีร่องรอยเฉี่ยวชนจนเป็นรอยยาว ตั้งแต่แก้มกันชนขวาไปจนถึงท้ายกระบะ

ตรวจสอบภายในรถพบศพผู้เสียชีวิตเป็นชาย สภาพนอนฟุบลงไปบริเวณเกียร์ หยดเลือดกระจายเต็มพื้นรถ เจ้าหน้าที่จึงได้นำร่างผู้เสียชีวิตลงมาจากรถเพื่อตรวจสอบ ทราบชื่อคือ นายวสุรัตน์ อายุ 32 ปี มีบาดแผลถูกทำร้ายไม่ทราบอาวุธ ที่บริเวณหน้าผาก ลำคอ กกหูซ้าย หัวไหล่ขวา และเบ้าตาซ้ายปูดบวม

ตรวจค้นภายในตัวผู้ตายไม่พบทรัพย์สินใด นอกจากเศษเงินประมาณ 20 บาท ส่วนที่บริเวณเบาะหลัง พบแม่แรงยกรถ ขวดสุรา ตกอยู่ภายในตัวรถ และบริเวณกระบะหลังรถพบยางอะไหล่วางไว้อยู่ เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐานทั้งหมด

จากการสอบถาม นายธานัท อายุ 36 ปี รปภ.หมู่บ้านตรงจุดเกิดเหตุ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่กำลังเฝ้ายามอยู่ประตูทางเข้าหมู่บ้าน ได้พบเห็นผู้ตายขับรถกระบะคันดังกล่าว ผ่านมาจอดบริเวณหน้าหมู่บ้าน ในสภาพยางแตกและมีร่องรอยการเฉี่ยวชน และเปิดเพลงเสียงดัง ตนจึงไปเรียกรปภ.หมู่บ้านข้างเคียง ให้ร่วมกันเข้าไปช่วยเหลือ โดยพบผู้ตายอยู่ในอาการมึนเมาสุราอย่างหนัก

จากนั้นจึงช่วยผู้ตายนำยางอะไหล่มาเปลี่ยนล้อที่ยางแตก แต่ผู้ตายกลับเปลี่ยนใจแล้วพูดจาต่อว่าไม่ต้องมายุ่ง ตนจึงนำยางอะไหล่ไว้บนกระบะหลังรถพร้อมกับแม่แรงยกรถ โดยผู้ตายระบุว่าจะโทรศัพท์แจ้งตำรวจมาช่วยเหลือแทน ก่อนจะเห็นผู้ตายเดินขึ้นไปนอนอยู่บนรถแล้วเปิดสัญญาณไฟขอทางเอาไว้ กระทั่งผิดสังเกตเวลาผ่านไประยะหนึ่งยังไม่มีใครมาช่วยเหลือ จนไฟขอทางหรี่อ่อน จึงเดินมาดูพบว่าผู้ตายกลายเป็นศพไปแล้ว จึงได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจะได้นำตัว นายธานัทไปสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง เนื่องจากคำให้การพบพิรุธหลายจุด ส่วนประเด็นการลงมือฆ่าครั้งนี้ คนร้ายน่าจะไม่ต่ำกว่า 2 คน มุ่งประเด็นเป็นการฆ่าชิงทรัพย์

อย่างไรก็ตาม จะได้ตรวจหาภาพจากกล้องวงจรปิดใกล้เคียงที่เกิดเหตุอีกครั้ง โดยจะนำหลักฐานที่พบจุดเกิดเหตุไปตรวจสอบ พร้อมตรวจหาลายนิ้วมือแฝงตามตัวรถ เพื่อเป็นข้อมูลในการตามตัวคนร้ายดำเนินคดีต่อไป