ตั้ง กก.สอบผู้ใหญ่บ้านเอี่ยวใบมรณบัตรเก๊ กู้ภัยชุมพรยันไม่เกี่ยวข้อง

ตั้ง กก.สอบผู้ใหญ่บ้านเอี่ยวใบมรณบัตรเก๊ กู้ภัยชุมพรยันไม่เกี่ยวข้อง

ตั้ง กก.สอบผู้ใหญ่บ้านเอี่ยวใบมรณบัตรเก๊ กู้ภัยชุมพรยันไม่เกี่ยวข้อง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สั่งตั้งคณะกรรมการ สอบสวนหาที่มา "มรณบัตรปลอม" ออกให้ แม่ผัวจ้างฆ่าว่าที่สะใภ้ เร่งกดดัน ผู้ใหญ่บ้าน รู้เห็น-จ่อออกหมายจับ

(18 พ.ย.58) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ทำการหน่วยกู้ภัยสายชล มูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ เขตเทศบาลเมืองชุมพร นายอาคม ตวงอิทธิกุล หรือ "โกคิ้ม" หัวหน้าหน่วยกู้ภัยสายชล เจ้าของนามเรียกขาน "กู้ภัย 1" ได้เปิดเผยชี้แจง ถึงกรณีที่มีชื่อเข้าไปเกี่ยวข้องกับการออกใบมรณบัตรให้ "นางจุรี จันทร์งาม" ผู้ต้องหาคดีจ้างวานลูกสะใภ้ที่เข้ามอบตัวที่กองปราบ

โกคิ้ม ยืนยันว่า ตนไม่เคยเกี่ยวข้องด้วย ไม่ทราบว่าตำรวจหรือสื่อมวลชนเอาข้อมูลมาจากไหน เคยมีผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งมาสัมภาษณ์ ก็ตอบไปแล้วว่าไม่รู้เรื่อง และตนยังไม่รู้ว่าเจ้าอาวาสวัดมณีสพ ในปัจจุบันคือใคร เพราะไม่ได้เข้าไปเกือบ 8 ปีแล้ว

ส่วนผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.นากระตาม และ นางจุรี ที่เข้ามอบตัวนั้น ตนก็ไม่เคยรู้จักด้วย ขณะนี้ได้สอบถามไปยังกอง บก.หนังสือพิมพ์ทุกฉบับว่า เอาชื่อตนเข้าไปเกี่ยวข้องได้อย่างไร และขอให้แก้ข่าวให้ด้วย หากไม่ยอมแก้ข่าวให้ ก็อาจต้องแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาท ทำให้ตนเสียหายต่อไป ส่วนกรณีที่ตำรวจจะเรียกไปสอบปากคำ ตนก็พร้อมให้ความร่วมมือเพราะมั่นใจในความบริสุทธิ์ของตนเอง

ต่อมาในเวลา 10.30 น. วันเดียวกัน นายนักรบ ณ ถลาง นายอำเภอท่าแซะ พ.ต.อ.ธานี นาคหกวิค ผกก.สภ.ท่าแซะ และ นายปัญยม รอดคง ปลัดอาวุโส อ.ท่าแซะ ร่วมกันชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว นายนักรบ กล่าวว่า เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2557 น.ส.รัศมี จันทร์งาม ได้เข้ามาแจ้ง นายสมโภชน์ นวลพรหม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 นากระตาม อ.ท่าแซะ ว่า มารดาคือ นางจุรี เป็นลมเสียชีวิต เพื่อขอหนังสือรับรองการตายไปใช้ในการฌาปนกิจศพที่วัดมณีสพ นายสมโภชน์จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ แล้วไปแจ้งที่ รพ.สต.นากระตาม และมาขอใบรับรองจากฝ่ายปกครอง อ.ท่าแซะ

อย่างไรก็ตาม เมื่อปรากฏว่านางจุรียังไม่เสียชีวิต ทางจังหวัดชุมพรจึงสั่งให้อำเภอท่าแซะตรวจสอบข้อเท็จจริงและได้รับหนังสือชี้แจงจาก นายสมโภชน์ ว่า นางจุรีได้รู้จักกับ นายชัยวัฒน์ น้าของนายสมโภชน์ และไปมาหาสู่กันเป็นประจำ

ต่อมานางจุรีได้เดินทางไปร่วมชุมนุมทางการเมืองในกรุงเทพฯ และแวะกลับมาหานายชัยวัฒน์ แต่พบว่านายชัยวัฒน์เสียชีวิตไปแล้ว จึงติดต่อขอซื้อที่ดินปลูกบ้านที่ ต.นากระตาม และ นายสมโภชน์ จึงอนุญาตให้ นางจุรี พักที่บ้าน ซึ่งเป็นบ้านของนายชัยวัฒน์ ผู้เป็นน้าชาย นางจุรีและบุตรสาวจึงย้ายมาอยู่ที่บ้านดังกล่าว

ต่อมาเมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2557 น.ส.รัศมี บุตรสาวของนางจุรี ได้มาแจ้งให้ นายสมโภชน์ ทราบว่า มารดาเสียชีวิต นายสมโภชน์ จึงไปตรวจที่เกิดเหตุ ก็พบว่า นางจุรี นอนอยู่ เมื่อตรวจสอบร่างกายก็พบว่าไม่มีลมหายใจ จึงโทรศัพท์ไปหาหมอที่ รพ.สต.นากระตาม แต่ไม่พบ นายสมโภชน์ จึงเดินทางไปพบเจ้าหน้าที่ รพ.สต.นากระตามเพื่อขอหนังสือรับรองการตายของ นางจุรี แล้วนำมาให้ น.ส.รัศมี ก่อนจะขอใบมรณบัตรที่ฝ่ายปกครอง อ.ท่าแซะ

นายปัญยม กล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายให้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ และทราบว่าเจ้าหน้าที่ รพ.สต.นากระตาม ที่นามรับรองการตายของนางจุรีคือ นางกัสมา ทองสุข เจ้าพนักงานสาธารณสุขชำนาญงาน ซึ่งลงนามไปตามที่ นายสมโภชน์ให้การ

ส่วน นายสมโภชน์ ขณะนี้ยังไม่มีใครพบตัว จึงได้ทำหนังสือเชิญตัวมาพบนายอำเภอท่าแซะพร้อมกับเจ้าหน้าที่ รพ.สต.นากระตามในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2558 หาก นายสมโภชน์ ยังไม่มาคงต้องแจ้งความดำเนินคดี พร้อมกับ น.ส.รัศมี บุตรสาวของนางจุรี ในข้อหาแจ้งความเท็จ

ส่วนกระบวนการสอบสวน หากพบว่า นายสมโภชน์ มีความผิดจริงก็ต้องดำเนินการทางวินัยถึงขั้นให้ออกจากราชการ เพราะถือว่าเป็นความผิดขั้นร้ายแรงมาก จะไม่มีการปกป้องอย่างแน่นอน

ขณะที่ พ.ต.อ.ธานี กล่าวว่า กำลังสั่งให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบบันทึกประจำวันว่า ระหว่างวันที่ 23-24 กุมภาพันธ์ 2557 มีการแจ้งความว่ามีคนเสียชีวิตใน ต.นากระตามหรือไม่ แต่ในเบื้องต้นยังไม่พบว่ามีการแจ้งในเรื่องนี้ โดยได้ไปถ่ายภาพบ้านที่เกิดเหตุและที่ รพ.สต.นากระตาม เพื่อรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้ว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook