รวบหนุ่มอ้างเป็น "สารวัตรโจ้" เรียกเก็บเงินวินมอเตอร์ไซค์ ได้เดือนเป็นแสน ปัดส่งทหาร-ตร.

รวบหนุ่มอ้างเป็น "สารวัตรโจ้" เรียกเก็บเงินวินมอเตอร์ไซค์ ได้เดือนเป็นแสน ปัดส่งทหาร-ตร.

รวบหนุ่มอ้างเป็น "สารวัตรโจ้" เรียกเก็บเงินวินมอเตอร์ไซค์ ได้เดือนเป็นแสน ปัดส่งทหาร-ตร.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รวบหนุ่มอ้างตัวเป็นสารวัตรโจ้ เก็บเงินวิน คนละ 3,900 ได้เดือนละแสนสาม อ้างเจ้าของที่มอบสิทธิให้เก็บ ยันไม่ได้ส่งทหารตำรวจ

พ.ต.อ.พันธนะ นุชนารถ รองผู้บังคับการกองปราบปราม (รอง ผบก. ป. ) และพ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผู้กำกับการ1 กองปราบปราม แถลงข่าวจับกุม นายพุฒิเศรษฐ์ สร้อยสุวรรณ หรือ โจ้ และ นางสาวนาตยา กลิ่นประทุม (ไม่ยินยอมแถลงข่าว) โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณหน้าห้างเอสพลานาด ถนนรัชดาภิเษก

หลังได้รับการร้องเรียนจากวินรถจักรยานยนต์รับจ้างบริเวณดังกล่าว ว่าถูก นายพุฒิเศรษฐ์ เรียกเก็บค่าเช่าวิน ค่าเสื้อ และค่าวิ่งวิน รวมแล้วกว่า 3,900 บาท ต่อเดือนต่อคน ซึ่งวินดังกล่าวมีสมาชิกกว่า 35 คน ซึ่งหากจ่ายล่าช้าจะถูกปรับวันละ 130 บาท และค่าไฟอีก 50 บาท รวมเงินเก็บได้เดือนละ 138,000 บาท

หากไม่จ่ายจะถูกข่มขู่ทำร้ายร่างกาย ทำให้ผู้เสียหายกว่า 10 ราย เดินทางเข้าร้องเรียนกองปราบปรามเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และนายพุฒิเศรษฐ์ ยังแอบอ้างหรือพยายามทำตัวให้เชื่อว่าตัวเองเป็นสารวัตร ประจำกองปราบปรามด้วย

โดย นายพุฒิเศรษฐ์ กล่าวอ้างว่า ตนประกอบอาชีพขายน้ำอยู่ใกล้บริเวณดังกล่าว และได้รับมอบหน้าที่การดูแลที่บริเวณวินจักรยานยนต์ดังกล่าวจากเจ้าของที่ ซึ่งเป็นที่ดินเอกชนในรูปแบบบริษัท เป็นการมอบอำนาจจากเจ้าของที่ให้ตนเองจัดการและเก็บเงินได้เลยไม่ต้องส่งใคร โดยยืนยันไม่ได้เก็บส่วยส่งทหารหรือตำรวจ

พร้อมเผยอีกเผยว่า ตนเองไม่ไดัอ้างเป็นสารวัตรกองปราบปราม แต่คนในย่านนั้นอาจเข้าใจกันว่าตนเองคือสารวัตรโจ้ เนื่องจากคาดว่าตนเองรู้จักกับตำรวจหลายคน

ส่วนผู้ที่มาร้องเรียนเจ้าหน้าที่เรื่องดังกล่าวนั้นเพิ่งมาขับวินได้เพียง 20 วันเท่านั้นอาจไม่ทราบว่าที่ดังกล่าวเป็นเอกชนและเอสพลานาดเองก็ต้องเช่าที่บริเวณดังกล่าวด้วย ย้ำไม่มีการทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด

ด้าน พ.ต.อ.พันธนะ นุชนารถ รองผู้บังคับการกองปราบปราม กล่าวด้วยว่า จากการสืบสวนมีข้อมูลว่า นายพุฒิเศรษฐ ได้โพสต์ข้อความลงโซเชียลมีเดียในลักษณะแอบอ้าง ทำให้เข้าใจว่าเป็นตำรวจกองปราบปรามจริง ซึ่งผู้ต้องหามีสิทธิให้การในส่วนของตนเอง ซึ่งตำรวจได้ร้องขอให้นำเอกสารแสดงสิทธิครอบครองที่ มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ แต่ว่าผู้ต้องหายังไม่นำมาให้

ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังจากนี้ จะสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องรวมถึงเจ้าของพื้นที่เข้าให้การด้วย ก่อนรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินการ ส่งสำนวนต่อศาลให้อัยการพิจารณา และแจ้งข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: จยย.รับจ้างย่านถ.รัชดาฯ ร้องกองปราบปราม ถูกผู้มีอิทธิพลอ้างชื่อ "สารวัตรโจ้" เรียกส่วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook