นักปั่นแน่นสนามศุภฯรับของพระราชทานBikeForDad
ประชาชนทยอยรับเสื้อพระราชทาน กิจกรรม 'ปั่นเพื่อพ่อ BIKE FOR DAD' แน่นสนามศุภชลาศัย โดยมี ผบ.สส. เป็นประธานในพิธี ด้าน กทม. เผย พร้อมดูแลความสะดวกแก่ปชช.
กองบัญชาการกองทัพไทย ร่วมกับกองทัพอากาศและกรมพลศึกษา ร่วมสนับสนุนการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 88 พรรษา 5 ธันวาคม 2558 ภายใต้ชื่อกิจกรรม"ปั่นเพื่อพ่อ BIKE FOR DAD" โดยได้จัดพิธีรับมอบสิ่งของพระราชทาน ที่สนามศุภชลาศัย จำนวน 99,999 ชุด แต่ละชุดประกอบด้วย เข็มกลัดที่ระลึก เสื้อจักรยานและสายรัดข้อมือให้กับประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่ได้ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม โดยมี พลเอก สมหมาย เกาฏีระ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานในพิธีและร่วมเป็นสักขีพยานในการรับมอบสิ่งของพระราชทาน
โดยในวันนี้ตั้งแต่เวลา 08:00 -17:00 น. ได้มีการรับมอบจำนวน 50,000 ชุด ซึ่งเรียงตามลำดับเลขและวันเวลาที่กำหนดในบัตรรับลงทะเบียน สำหรับลำดับที่ 50,001- 99,999 จะรับมอบในวันพรุ่งนี้ (29 พ.ย.58) ซึ่งบรรยากาศล่าสุดเช้านี้ต่างมีประชาชนทยอยเดินทางเข้ารับมอบสิ่งของพระราชการอย่างกันอย่างเนืองแน่น
กทม.พร้อมพิธีรับของพระราชทานปั่นเพื่อพ่อวันนี้
นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงการเตรียมความพร้อมรับสิ่งของพระราชทาน ที่บริเวณสนามกีฬาศุภชลาศัยในวันนี้ (28 พ.ย.) ว่า ได้จัดเจ้าหน้าที่คอยดูแลและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนไว้หลายจุด ทั้งนี้ ในการรับสิ่งของพระราชทาน จะแบ่งประชาชนที่ลงทะเบียนรับมอบสิ่งของพระราชทานออกเป็นวันละ 4 กลุ่ม กลุ่มละ 25,000 คน รวม 2 วัน โดยสามารถรับเสื้อพระราชทานได้ 100,000 ชุด เรียงตามหมายเลข และวันเวลา ที่กำหนดไว้ในบัตรรับลงทะเบียน
ส่วนความคืบหน้าเส้นทางจักรยานเฉลิมพระเกียรติฯ ปั่นเพื่อพ่อ ที่เสร็จไปแล้วกว่าแล้ว 90% ทั้งการปรับผิวจราจร ปรับฝาบ่อพัก ขีดสีตีเส้นจราจร และตัดแต่งกิ่งไม้ที่ยื่น รวมถึงการดูแลรักษาความสะอาดบนถนน 15 สาย รวมระยะทาง 29 กม. โดยให้ทุกหน่วยงานเร่งดำเนินการ รวมทั้งได้ร่วมกับการไฟฟ้าในการซ่อมแซมไฟฟ้าส่องสว่างที่ดับ และติดตั้งเพิ่มอีกกว่า 500 ดวง พร้อมตรวจปรับมุมกล้อง CCTV กว่า 1,541 ตัว ให้สามารถใช้งานได้จริงตลอดเส้นทาง ซึ่งทั้งหมดนี้ จะดำเนินการให้เรียบร้อยภายในวันนี้ ก่อนจะมีการซ้อมใหญ่ในวันที่ 29 พ.ย. นี้
นอกจากนี้ ยังมีจุดแจกจ่ายอาหารกล่องพร้อมน้ำดื่มพระราชทานแก่พี่น้องประชาชน เป็นอาหารกล่อง 13,000 กล่อง และน้ำพระราชทาน 200,000 ขวด โดยมีจุดรับกว่า 153 จุด
ทั้งนี้ กรุงเทพมหานคร ได้ร่วมกันกับหน่วยงานต่างๆ อาทิ ตำรวจ ทหาร เทศกิจ จัดวางจุดที่ทำการส่วนหน้า หรือ ทกสน. กว่า 32 จุด เพื่อคอยดูแลและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน รวมทั้งเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่คอยดูแลรักษาความปลอดภัยตลอดเส้นทางอีกกว่า 2,610 นาย
ปชช.ยังรับมอบเสื้อพระราชทานปั่นเพื่อพ่อต่อเนื่อง
บรรยากาศพิธีรับมอบสิ่งของพระราชทาน ที่ สนามศุภชลาศัย เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 88 พรรษา 5 ธันวาคม 2558 ภายใต้การจัดกิจกรรม "ปั่นเพื่อพ่อ : BIKE FOR DAD" ล่าสุด ประชาชนต่างทยอยเดินทางเข้ารับมอบสิ่งของพระราชทานอย่างเนืองแน่น ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ขณะเดียวกันก็มีประชาชนบางส่วนที่มารอแต่เช้าได้รับเสื้อไปบ้างแล้ว ทั้งนี้ ประชาชนที่มารอรับสิ่งของพระราชทานต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ภูมิใจที่ได้ร่วมกิจกรรมปั่นเพื่อพ่อ และอยากให้มีการจัดกิจกรรมเช่นนี้ไปตลอด
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีจุดให้บริการต่างๆ กับประชาชน อาทิ อาหารและเครื่องดื่มพระราชทาน หน่วยบริการทางการแพทย์และการจัดจำหน่ายสินค้าราคาถูกโครงการธงสีน้ำเงิน รวมทั้ง การแสดงดนตรีของข้าราชการกองทัพไทย พร้อมกับ ศิลปิน ดารา นักร้อง เพื่อเป็นการผ่อนคลายให้กับประชาชน
สำหรับการเดินทางมารับสิ่งของพระราชทาน ขอแนะนำให้ประชาชนใช้บริการขนส่งสาธารณะ รถไฟฟ้าสถานีสนามกีฬาแห่งชาติ แท็กซี่ และรถประจำทาง เพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรที่คับคั่ง ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนที่เข้าร่วมพิธี แต่งกายอย่างสุภาพและควรหลีกเลี่ยงการพกสัมภาระ กระเป๋าสะพายขนาดใหญ่ เพื่อความสะดวกคล่องตัวในการรับสิ่งของพระราชทาน
ปชช.ทยอยรับสิ่งของพระราชทานต่อเนื่อง
บรรยากาศพิธีรับมอบสิ่งของพระราชทาน ที่สนามศุภชลาศัย เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 88 พรรษา 5 ธันวาคม 2558 ภายใต้การจัดกิจกรรม "ปั่นเพื่อพ่อ BIKE FOR DAD" ที่มี พล.อ.สมหมาย เกาฏีระ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานและสักขีพยานพิธีรับมอบเสื้อและสิ่งของพระราชทานจาก สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ล่าสุด ประชาชนกลุ่มที่สอง จากลำดับที่ 25,001-50,000 ต่างทยอยเดินทางเข้ารับเสื้อและสิ่งของพระราชทานอย่างเนืองแน่น ท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนในช่วงบ่าย แต่ประชาชนก็ไม่ย่อท้อต่อการรอรับสิ่งของพระราชทานครั้งนี้ ขณะที่การรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ยังเป็นไปอย่างเข้มงวด