หนุ่มอุตรดิตถ์หลังค่อมสู้ชีวิต เก็บขยะส่งเสียลูกเรียน พร่ำบอกมีเพียงความรู้ที่ให้ได้
ผู้สื่อข่าวจังหวัดอุตรดิตถ์ รายงานว่า พบ นายบุญเลิศ จันทร์มนต์ทา อาศัยอยู่ อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ ขาข้างซ้ายพิการทำให้การทรงตัวในเวลาเดินไปไหนมาไหนไม่สะดวกแถมหลังยังค่อม แต่ดิ้นรนต่อสู้ชีวิตอย่างไม่ย่อท้อ พร้อมกับด.ญ.ศิลปศุภา จันทร์มนต์ทา ซึ่งเป็นลูกสาว ในชุดนักเรียนของโรงเรียนอุตรดิตถ์ดรุณี ออกเดินหาเก็บเศษกระดาษและขวดจากกองขยะ
โดยจะใช้รถเข็นชนิดสองล้อแบบคอกหมูลากจูงติดธงชาติและธงสีเหลืองไปตามสถานที่ต่างๆในเขตเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ อาทิ ตลาดโต้รุ่ง 1 และ ตลาด 4 ซึ่งเป็นย่านชุมชน เพื่อหาเก็บขยะที่ชาวบ้านทิ้งเอาไว้ในถัง โดยเฉพาะ กระดาษเหลือใช้ ที่เป็นกระดาษแข็งและอ่อน ขวดน้ำอัดลม ขวดเครื่องดื่มชูกำลัง ทั้งที่เป็นขวดแก้วและขวดพลาสติก กระป๋องเครื่องดื่มทุกชนิด แต่ยังสามารถนำมารีไซเคิลแยกขายให้กับร้านรับซื้อของเก่า ด้วยการแปรสภาพแลกเป็นเงินนำมาเป็นค่าใช้จ่ายภายในครอบครัวและจ่ายเป็นเงินติดตัวให้กับลูกสาวก่อนไปเรียนหนังสือทำเป็นกิจวัตรเช่นนี้ทุกวันตั้งแต่ช่วงเวลาเช้ามืดและช่วงเวลาเย็น สร้างความประทับใจให้กับผู้ที่ได้มาพบเห็น
นายบุญเลิศ กล่าวว่า ขาที่เห็นว่าพิการนี้ เกิดจากการเล่นฟุตบอลกับเพื่อนสมัยเรียน ทำให้กระดูกข้อเท้าและหลังเท้าแตก ทำให้การทรงตัวของร่างกายไม่เหมือนคนปกติทั่วไป ส่วนหลังที่ค่อมนั้นเกิดจากช่วงที่ไปทำงานเป็นลูกจ้างแบกหามก่อสร้างอาคารที่กรุงเทพฯ โดยเฉพาะกับการแบกเหล็กที่มีน้ำหนักมากและเคยตกนั่งร้านมาแล้ว ส่งผลทำให้กระดูกส่วนคอเคลื่อนจนเกิดอาการหลังค่อมอย่างที่พบเห็น
นายบุญเลิศ กล่าวด้วยว่า ยึดอาชีพนี้ต่อจากพ่อและทำมานานเกือบ 30 ปีแล้ว อาชีพเก็บวัสดุจากกองขยะไม่ว่าจะเป็นกระดาษ ขวดน้ำอัดลมหลากหลายชนิด สามารถนำมาแปรเป็นเงินเลี้ยงดูครอบครัวได้อย่างไม่น่าอับอายใคร ถือเป็นอาชีพที่สุจริตถึงแม้ว่าใครบางคนจะรังเกียจว่าเป็นอาชีพของคนจน ในแต่ละวันจะหาเก็บเศษขยะเหล่านี้ส่งขายให้กับร้านรับซื้อของเก่าต่อวันไม่ถึง 100 บาท แต่ทำทุกวันและขยันเก็บก็จะมีรายได้มาเลี้ยงดูครอบครัวและจ่ายให้ลูกไปโรงเรียน ยึดอาชีพนี้เลี้ยงลูกชายคนโตจนจบชั้น ปวส.และทำงานที่กรุงเทพฯแล้ว คงเหลือแต่ลูกสาวคนเล็กที่ตั้งใจจะส่งเสียให้เรียนจบปริญญาตรี
"สิ่งที่เฝ้าสอนลูกมาตลอดว่า อาชีพนี้ถึงจะเป็นอาชีพของคนจน แต่เราก็มีเกียรติและศักดิ์ศรีและเป็นอาชีพที่สุจริต พ่อไม่มีมรดกใดจะมอบให้กับลูก นอกจากการศึกษาที่ลูกจะต้องตั้งใจเรียนและไขว่คว้าเอาไว้จนเรียนจบ ดั่งที่ว่า "มีวิชาเหมือนมีทรัพย์อยู่นับแสน แม้นจะตกถิ่นฐานใดคงไม่แคลน ถึงคับแค้นก็พอยังประทังตน" การมอบวิชาความรู้ให้กับลูก ตนถือว่าเป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุดและไม่มีใครมาขโมยแย่งเอาไปได้" นายบุญเลิศกล่าว
น.ส.ศิลปศุภา กล่าวว่า หนูรักพ่อมากที่สุดในโลก สงสารพ่อที่ต้องตรากตรำเก็บขยะทุกวัน จึงเก็บขยะร่วมกับพ่อโดยที่ไม่อายใครตั้งแต่เรียนชั้นประถมแล้ว ไปโรงเรียนเพื่อนทุกคนเข้าใจ เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียงกันก็เข้าใจอาชีพนี้ จะตั้งใจเรียนหนังสือตามที่พ่อสั่งสอนเอาไว้ จะไม่ทำให้พ่อต้องได้รับความเสียใจหรือทุกข์ใจที่เกิดจากเรา วันพ่อนี้สิ่งที่ลูกให้กับพ่อได้คือการหอมแก้มสวมกอดพ่อและบอกรักพ่อ เพื่อเป็นกำลังใจให้พ่อต่อสู้เพื่อหนูต่อไป
นางอุษณีย์ ศักดิ์พิบูลย์ชัย แม่ค้าขายกาแฟโบราณ ตลาดโต้รุ่ง 1 กล่าวว่า นายบุญเลิศเป็นคนขยันขันแข็งมาก ถือได้ว่าเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับครอบครัว มีความมานะอดทนดิ้นรนต่อสู้กับชีวิต แม้ร่างกายจะไม่สมประกอบหรือสมบูรณ์เหมือนกับคนปกติทั่วไป แต่มีความตั้งใจทำมาหากินด้วยการเก็บเศษกระดาษ กระป๋องน้ำอัดลม ขวดน้ำดื่มและน้ำอัดลมที่ทุกคนดื่มเสร็จแล้วขว้างทิ้งลงถังขยะทำให้เกิดปริมาณขยะมากมายในเขตเทศบาล แต่ด้วยสายตาที่มองว่า ขยะเหล่านี้มีมูลค่าสามารถนำมารีไซเคิลคัดเลือกขายกับร้านของเก่าเป็นเงินกลับมาดูแลครอบครัวเป็นที่น่ายกย่องอย่างสูงหากคนเราขยันต่อสู้ก็ไม่มีวันอดตาย