ฆ่าล้างหนี้ลูกชายนักธุรกิจชุมพร ยัดศพใส่ถังทิ้งกลางป่า

(8 ธ.ค.) พล.ต.ต.นรินทร์ บุษยวิทย์ ผบก.ภ.จว.ชุมพร พ.ต.อ.ภาณุเดช ณ พัทลุง รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร พ.ต.อ.ภคพล ทวิชศรี ผกก.สภ.เมืองชุมพร พร้อมด้วย พ.ต.ท.สมภพ เชื้อทอง สว.สส.สภ.เมืองชุมพรและเจ้าหน้าที่ตำรวจ กว่า 50 นาย นำตัว นายไพศาล อายุ 34 ปี  นายสุเทพ อายุ 37 ปี และ นายสมพร อายุ 37 ปี  มาชี้จุดที่นำถังที่ยัดศพ นายอภิสิทธิ์ อายุ 21 ปี ลูกชายเจ้าของฟาร์มหมูใหญ่ที่สุดของเมืองชุมพรติดอันดับเสี่ยร้อยล้านของเมืองชุมพร 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โดยผู้ต้องหาทั้งสามได้ชี้จุดที่ทิ้งถังยัดศพ ในบ่อร้าง ซึ่งมีความลึกกว่า 20 เมตร เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสายชล จึงได้ใช้เชือกโรยตัวลงไปก่อนจะใช้เชือกพันถัง พบครั้งแรกมีเศษกิ่งไม้และใบไม้ปิดปกคลุมจนเกือบมิด ขึ้นมาได้อย่างทุลักทุเล

โดยถังดังกล่าวพบว่าเป็นแบบถังพลาสติกสีฟ้า ขนาด 120 ลิตร มีฝาปิดสีขาว โดยฝาปิดเป็นลักษณะแค็มล็อก เจ้าหน้าที่จึงได้ให้ผู้ต้องหาได้ชี้ถังดังกล่าวเพื่อประกอบคำรับสารภาพ แต่ระหว่างเจ้าหน้าที่กำลังจะให้ชี้ถังที่ทั้งสามฆ่านายอภิสิทธิ์ แล้วยัดใส่ถัง บรรดาญาติของผู้ตายได้ฝ่าวงล้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าไปชกต่อยผู้ต้องหาทั้งสามอย่างโกลาหล เจ้าหน้าที่ช่วยกันญาติออกไป ก่อนจะรีบทำแผนและรีบนำผู้ต้องหาขึ้นรถออกไปอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางเสียงสาปแช่งด่าลั่นพื้นที่เกิดเหตุ

ต่อจากนั้นเจ้าหน้าที่ ได้ผ่าถังเอา ศพนายอภิสิทธิ์ ออกมาซึ่งสภาพศพถูกยัดในลักษณะเอาศีรษะปักลงในถัง มือแนบลำตัว ขาทั้งสองข้างพับงอ ก่อนจะเทปูนทับปิดลงไป เจ้าหน้าที่จึงได้ให้แพทย์ร่วมชันสูตรพร้อมกับเจ้าหน้าที่ชุดสอบสวน และตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ก่อนจะทำความสะอาดศพ ส่งให้ญาติไปดำเนินการทางศาสนาต่อไป

ด้าน พล.ต.ต.นรินทร์ บุษยวิทย์ ผบก.ภ.จว.ชุมพร เปิดเผยว่า การจับกุมผู้ต้องหาทั้งสามได้ในครั้งนี้นั้น สืบเนื่องมากจาก ก่อนหน้าทาง นายสุนทร อายุ 55 ปี และ นางมณฑา อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นพ่อและแม่ของผู้ตาย ได้เข้ามาแจ้งความลูกชายได้หายออกจาบ้านไม่สามารถติดต่อได้ ตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย.58 ที่ผ่านมา

เจ้าหน้าที่จึงได้จัดกำลังออกติดตามสืบหาข่าว จนทราบว่าผู้ตาย ก่อนที่จะหายตัวไปได้มีคนเห็นว่ามีรถยนต์กระบะสีดำ แบบสี่ประตู และชายวัยฉกรรจ์ หลายคนนั่งมาในรถมารับที่บ้าน จึงสืบขยายทราบรถคันดังกล่าวเป็นรถยนต์ของนายไพศาล รักษาผล หนึ่งในผู้ต้องหา และนำไปสู่การจับกุมผู้ร่วมก่อเหตุได้ทั้งหมด

ผบก.ภ.จว.ชุมพร กล่าวว่า จากการสอบสวน นายไพศาล มีอาชีพเป็นช่างทำบ้านแบบน็อกดาวน์ เปิดอยู่ใกล้กับบ้านพ่อผู้ตาย ริมถนนสายเอเซีย 41 ข้างสถาบันพลศึกษา ทำให้รู้จักกับผู้ตายเป็นอย่างดี โดย นายไพศาล เป็นตัวต้นคิดที่จะอุ้มฆ่าในครั้งนี้ เพื่อต้องการจะล้างหนี้จำนวน 3 แสนบาท ที่ นายไพศาล ได้หลอกให้ผู้ตาย อ้างจะนำไปมัดจำการซื้อที่ดินแห่งหนึ่งในเขตเมืองชุมพร

โดยผู้ตายได้ให้เงินไปแต่การซื้อขายที่ดินดังกล่าวกลับเงียบหายไป ผู้ตายได้สอบถามและถูกผลัดเปลี่ยน ไปดูที่ดินหลายครั้ง จนที่สุดนายไพศาลและพวก ได้วางแผนมารับผู้ตาย ไปดูที่ดินที่จะซื้อ ก่อนจะพาเข้าสวนยางพารา และใช้เหล็กทุบศีรษะหลายครั้ง จนผู้ตายแน่นิ่ง แล้วจับยัดใส่ถังที่เตรียมมาแล้วใช้ปูนเทปิดทับแล้วปิดฝานำมาทิ้งดังกล่าว

เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน กระทำด้วยทารุณโหดร้าย ซ่อนเร้นศพ ให้ทั้งสามได้ทราบและทั้งสามให้การรับสารภาพ พร้อมนำมาชี้จุดดังกล่าว