อ้างเป็นสาวในคลิปรุมโจ๋ดับหน้าผับ โอดถูกด่าเป็นนกต่อ

อ้างเป็นสาวในคลิปรุมโจ๋ดับหน้าผับ โอดถูกด่าเป็นนกต่อ

อ้างเป็นสาวในคลิปรุมโจ๋ดับหน้าผับ โอดถูกด่าเป็นนกต่อ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีในโลกออนไลน์มีการเผยแพร่คลิปวีดีโอภาพจากกล้องวงจรปิด เหตุการณ์กลุ่มวัยรุ่น 5-6 คน ทำร้ายร่างกาย นายกฤษฎา หรือ เอริธ์ อายุ 19 ปี จนเสียชีวิต หน้าผับ ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยผู้ต้องหา 2 ใน 6 คน ที่ถูกจับ อ้างว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดว่าเป็นคู่อริที่เคยมีเรื่องกัน และไม่เคยรู้จักกับผู้เสียชีวิตมาก่อน 

ขณะเดียวกัน ผู้ที่ได้ดูคลิปดังกล่าวต่างวิพากษ์วิจารณ์ว่า หญิงสาวที่อยู่กับผู้เสียชีวิตก่อนถูกรุมทำร้าย เหตุใดจึงไม่มีอาการตกใจ และให้ความช่วยเหลือ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าหญิงสาวคนดังกล่าวอาจเป็นนกต่อ ที่ลวงผู้ตายออกมา จนกระทั่งถูกทำร้ายจนเสียชีวิตก็เป็นได้

ล่าสุด (9 ธ.ค.) ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ข้อความจากเฟซบุ๊กของหญิงสาวรายหนึ่ง ซึ่งอ้างว่าเป็นหญิงที่อยู่ในคลิปดังกล่าว ได้โพสต์ข้อความระบายความในใจว่า 

"แม้ว่ามันยากที่จะเข้าใจ!!! ข้อเท็จจริงคืออะไรไม่มีใครรู้ดีเท่าตัวเราเอง ดูจากเนื้อเรื่องตามภาพทุกคนอาจจะว่าเราไม่ช่วยน้อง...หาว่าเป็นตัวล่อ?? ลองมาอยู่ในสถานการณ์แบบเรานะ เรารู้จักแค่น้อง!! ส่วนอีกกลุ่มเราไม่รู้จัก ไม่รู้ด้วยซ้ำ ก่อนหน้าเพื่อนของน้อง 2 คน โดนตีก่อนแล้ววิ่งข้ามทางไปอีกเลน 

จากภาพผู้ชายเสื้อขาวเข้ามาถามหาคนชื่อมอส แล้วถามว่าน้องเป็นเด็กที่ไหน แล้วก็ตามภาพที่เห็นเราได้แต่ใช้เสียงห้ามนะ ทำอะไรไม่ได้ เพราะอาวุธปืนครบมือ ทั้งไม้เบสบอล ปืนลูกซองสั้น เราก็ผู้หญิงที่อยู่ตรงนั้นคนเดียว ต่อให้มีเป็นสิบห้ามคนพวกนี้จะฟังมั้ย แต่อย่างน้อยเราก็ไม่ได้ทิ้งน้อง ไม่ได้วิ่งหนีเอาตัวรอดคนเดียว เราอยู่จนวินาทีสุดท้าย 

ทำไมไม่ถามกันบ้างหล่ะว่าเพื่อนๆ ของน้องไปไหนกันหมด ทำไมมีแค่เรา ทำไมไม่ให้ปากคำกับตำรวจ แล้วคุณรู้เหรอ รู้ได้ยังไงว่าเราไม่ได้ทำอะไรเลย ไม่ได้คิดหนีอย่างที่ทุกคนกล่าวหา เพราะเราไม่ได้ทำผิดอะไร อาจจะผิดตรงที่เราช่วยน้องไม่ได้ แล้วถ้าเป็นคุณกันบ้างหล่ะ ผู้หญิงตัวคนเดียวจะทำยังไง 

ไม่มีใครอยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นหรอกค่ะ เราไปห้ามความคิดใครไม่ได้หรอก ส่วนมากเชื่อตามภาพแต่ไม่ได้มาอยู่ในสถานการณ์จริงๆ ปากคนก็พูดกันไป การที่อยู่ตรงนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นแฟนกัน รู้จักแบบเพื่อนแบบพี่น้องมากกว่า 

ไม่ต้องการอะไร แค่ออกมาพูดในความเป็นจริง แล้วแต่จะคิด ไม่บังคับความคิดใครไม่ได้จริงๆ ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย ใครทำอะไรก็รู้อยู่แก่ใจ แค่นี้สภาพจิตใจเราก็แย่พอแล้ว" 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook