ล่าเดนคุกยิงดับกลุ่มผู้ใหญ่บ้าน ซ้ำรอย 13 ปีก่อนยิงจ่าอัมพาต
ตำรวจโคราชตามล่า ลูกชาย อบต. กราดยิงใส่กลุ่มผู้ใหญ่บ้าน ดับ 1 ศพ อ้างแค้นโดนด่าแต่งรถเสียงดัง พบประวัติเดนคุก 13 ปีก่อน ยิงตำรวจเป็นอัมพาตถึงทุกวันนี้
เมื่อวานนี้ (14 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก ร.ต.ท.วินัย สุขภิรมย์ พงส.สภ.หินดาด เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่กำลังเร่งไล่ล่าจับตัวผู้ต้องหาก่อเหตุสะเทือนขวัญ สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 00.30 น. วันที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมา ได้รับทราบแจ้งจาก นายชาญ รักจันทึก ผู้ใหญ่บ้านบ้านน้อยพัฒนา ม.5 ต.ห้วยบง อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ว่าเกิดเหตุวัยรุ่นชายใช้อาวุธปืน .38 ยิงเข้าใส่กลุ่มของผู้ใหญ่บ้าน ระหว่างนั่งปรึกษาหารืองานอยู่ที่ร้านอาหาร
เหตุดังกล่าวทำให้ นายแสน อายุ 47 ปี ตำแหน่งผู้รักษาความสงบผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน (งานฝ่ายปกครอง) และยังเป็นอาสาตำรวจบ้าน จนถึงแก่ความตายโดยมีบาดแผลโดนยิงเข้าที่บริเวณด้านหลังเป็นรูกระสุนจำนวน 2 นัด ก่อนที่คนร้ายจะขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป
หลังได้รับแจ้งเหตุ ชุดปราบปรามและชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่หารายละเอียดพร้อมนำกำลังไล่ล่าจับกุมตัวผู้ต้องหา ขณะนี้ทราบตัวคนร้ายแล้ว คือ นายนพดล พันธ์แน่น อายุ 32 ปี เป็นลูกชายสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยบง
ทั้งนี้ จากการสืบค้นประวัติอาชญากรรม พบว่าเคยได้รับโทษจำคุกคดีจ่อยิงอดีตตำรวจ สภ.หินดาด เมื่อปี 2545 ปัจจุบันเป็นผู้พิการ นอนรักษาอยู่บนเตียงมากว่า 13 ปี กระทั่งพ้นโทษออกมา ก็ยังมาก่อเหตุคดีดังกล่าวขึ้นอีกครั้ง จึงจำเป็นต้องรีบไล่ล่านำตัวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว
ต่อมาช่วงเย็นวันเดียวกันนั้น เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.หินดาด ได้ติดตามไล่ล่าจับกุมตัว นายนพดล ได้ที่ ต.ลำสมพุง อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี หลังพยายามขับรถเบียดรถจักรยานยนต์ของผู้ต้องหาล้มคว่ำ ก่อนจะตะครุบตัวเอาไว้ได้ เบื้องต้นรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง และโยนอาวุธปืนทิ้งสระน้ำไปแล้ว
หลังจากการจับกุม เจ้าหน้าที่นำตัว นายนพดล มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพในจุดเกิดเหตุทันที ใช้เวลาเพียง 15 นาทีเป็นอันแล้วเสร็จ เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดเหตุรุมประชาทัณฑ์ขึ้น ส่วนสาเหตุที่ทำไป นายนพดล อ้างว่ารู้สึกโกรธที่พวกผู้ใหญ่บ้านตำหนิว่ารถจักรยานยนต์ของตนเสียงดัง
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวยังได้พยายามติดตามเรื่องราวอดีตตำรวจ ที่ถูก นายนพดล ยิงจนเป็นผู้พิการ จึงได้พบกับภรรยาของ จ่าสุรชาติ สุภารี อดีตตำรวจผู้เคราะห์ร้ายคนดังกล่าว ระบุว่าเมื่อปี 2545 จ่าสุรชาติ พยายามเข้าไปห้ามกลุ่มวัยรุ่นทะเลาะวิวาทในงานคอนเสิร์ต นายนพดล ได้ใช้อาวุธปืนลูกซองยิงใส่กลุ่มวัยรุ่น กระสุนไปถูก จ่าสุรชาติเข้าที่ท้ายทอย ต้องผ่าตัดสมองพักฟื้นที่โรงพยาบาลนาน 6 เดือน
ก่อนจะมานอนพิการบนเตียงจนถึงทุกวันนี้ เหตุการณ์ผ่านไปประมาณ 13 ปีแล้ว ที่ผ่านมาค่อนข้างลำบาก ที่ต้องดูแลสามีพิการและลูกทั้งสองคน ปัจจุบันตนก็ได้เปิดร้านอาหารชื่อ ร้านจ่าชาติ เนื้อย่างเกาหลี เพื่อหาเลี้ยงครอบครัวต่อไป ทุกวันนี้ จ่าสุรชาติ ก็ยังพูดคุยกับครอบครัวเป็นปกติ เพียงแต่จะความจำสั้นหลงลืมง่าย เมื่อถามถึงเรื่องอดีตที่ถูกยิงก็ยังจำหน้าคนยิงหัวได้ แต่จะบอกว่า..อโหสิกรรมให้ไปแล้ว