แพทย์แถลง ผลชันสูตรผู้ต้องสงสัยตายในค่ายทหารที่ปัตตานี ไม่สามารถระบุสาเหตุได้

แพทย์แถลง ผลชันสูตรผู้ต้องสงสัยตายในค่ายทหารที่ปัตตานี ไม่สามารถระบุสาเหตุได้

แพทย์แถลง ผลชันสูตรผู้ต้องสงสัยตายในค่ายทหารที่ปัตตานี ไม่สามารถระบุสาเหตุได้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (มอ.) คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการเสียชีวิตของ นายอับดุลลายิบ ดอเลาะ ผู้ต้องสงสัยคดีความมั่นคง ภายในหน่วยซักถามภายในค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมา นำโดย พล.ท.มณี จันทร์ทิพย์ รอง ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ผศ.นพ.ธนะรัตน์ บุญเรือง ผอ.รพ.มอ. นพ.กิตติศักดิ์ ศรีพงษ์ นิติแพทย์ หน่วยนิติเวชศาสตร์และพิษวิทยา ภาควิชาพยาธิวิทยา คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง นายเถกิงศักดิ์ ยกศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ตัวแทนมูลนิธิทนายความปัตตานี ตัวแทนคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ญาติผู้เสียชีวิต ประธานชมรมอิหม่ามคอเต็บ บิหลั่น จ.ปัตตานี และแพทย์นิติเวช มอ. ร่วมกันแถลงข้อเท็จจริงจากการชันสูตรศพของผู้เสียชีวิต

นพ.กิตติศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ได้เป็นการผ่าชันสูตร เนื่องจากญาติไม่อนุญาต ผลการตรวจภาพถ่ายรังสีไม่พบการบาดเจ็บของศีรษะ ช่องท้อง เชิงกราน ต้นแขนและปลายแขนทั้งสองข้าง สรุปคือไม่พบร่องรอยการบาดเจ็บใดๆ ไม่พบแอลกอฮอล์ในเลือด ไม่พบสารกลุ่มแอมเฟตามีนหรือยาบ้า ไม่พบสารเกี่ยวกับยานอนหลับ ไม่พบสารกลุ่มโคเคน ฝิ่น มอร์ฟีนใดๆ ทั้งในเลือด ปัสสาวะ และน้ำในลูกตา ไม่พบยาฆ่าแมลงในเลือดใดๆ

ดังนั้นโดยสรุปผลตรวจภายนอกไม่เจอบาดแผลประทุษกรรมใดๆ ที่ชัดเจน ไม่เจอบาดแผลฉกรรจ์ใดๆ ผลการตรวจภาพรังสีไม่สามารถระบุการบาดเจ็บใดๆ ได้ ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการไม่พบสารพิษสารเสพติดใดๆ ดังนั้นจึงลงสาเหตุการตายว่าไม่ทราบสาเหตุการตาย

นพ.กิตติศักดิ์ ยังกล่าวอีกว่า หลังจากนี้จะมีผลตรวจดีเอ็นเอออกมาเพิ่มเติม ซึ่งเป็นดีเอ็นเอตามร่างกายและดีเอ็นเอในซอกเล็บของผู้ตาย โดยในส่วนของคราบที่พบนั้นมองด้วยสายตาแพทย์คาดว่าเป็นคราบเลือด หากพบว่าคราบที่สงสัยนั้นเป็นคราบเลือดก็จะต้องมีบาดแผล เมื่อผลตรวจไม่พบว่าผู้ตายมีบาดแผล ก็จะต้องตรวจต่อไปว่าคราบเลือดนั้นเป็นของผู้ใด

เช่นเดียวกับดีเอ็นเอที่ซอกเล็บ ภายใต้สมมุติฐานหากมีการทำร้ายร่างกายก็จะต้องมีการขีดข่วน ผลการตรวจจะบ่งชี้ว่ามีดีเอ็นเอของผู้อื่นในซอกเล็บของผู้ตายหรือไม่ หากไม่มีดีเอ็นเอของบุคคลอื่นก็จบ เพราะจะเข้ากับสภาพร่างกายภายนอกที่ไม่พบบาดแผลใดๆ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook