12 ข่าวแชร์สนั่น..วิจารณ์กระฉ่อนแห่งปี 2558

12 ข่าวแชร์สนั่น..วิจารณ์กระฉ่อนแห่งปี 2558

12 ข่าวแชร์สนั่น..วิจารณ์กระฉ่อนแห่งปี 2558
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ปี 2558 ที่กำลังจะผ่านพ้นไป กระแสและประเด็นต่างๆ จาก "โซเชียลเน็ตเวิร์ก" ยังเป็นแหล่งตีแผ่และเปิดโปงเรื่องราวต่อหน้าสังคมได้ แม้จะเต็มไปด้วยข่าวลือ ข่าวแอบอ้าง หรือข่าวที่ไม่เป็นความจริง แต่ต้องยอมรับว่า พฤติกรรมของคนยุคนี้ก็ได้คลุกคลีกับโซเชียลเน็ตเวิร์กอย่างเลี่ยงไม่ได้ และบางประเด็นกลายเป็นอิทธิพล กลายไปสู่การเปลี่ยนสังคมได้อย่างน่าเหลือเชื่อ

1. กะเพรารวมมิตร เมนูนี้ 150 บาท
กลายเป็นประเด็นร้อนแรงในทันที หลังจากที่โลกออนไลน์ได้แชร์ราคาของเมนู "ข้าวผัดกะเพรารวมมิตร" ที่สูงถึง 150 บาท และไม่มีการติดป้ายแจ้งราคาแต่อย่างใด ทำให้ถูกมองเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค กระทั่งมีเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ แม่ค้าร้านอาหารต้องออกมาขอโทษทั้งน้ำตา พร้อมอธิบายถึงสาเหตุที่ต้องขายราคาสูงกว่าปกติ

อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมามีผู้ไปพิสูจน์และลิ้มลองด้วยตัวเอง พร้อมยืนยันกับชาวเน็ตว่า กะเพรารวมมิตรของร้านเจ้าปัญหานั้น แม้จะมีราคาที่สูงกว่าทั่วไป แต่เมื่อเปรียบเทียบกับปริมาณและความสดใหม่ของวัตถุดิบ ก็รู้สึกว่าค่อนเหมาะสม แค่อาจจะรู้สึกว่าแพงไปสำหรับเมนูผัดกะเพราเท่านั้น

2. โดนละสิ แท็กซี่โดนด่า ไม่ยอมฝ่าไฟแดง
หนึ่งคลิปที่กลายเป็นประเด็นถกเถียงในโลกออนไลน์ เมื่อมีการแชร์ส่งต่อในโซเชียลฯ กล้องจากหน้ารถแท็กซี่มิเตอร์คันหนึ่ง รับผู้โดยสารหญิงคนหนึ่งขึ้นมา เมื่อขับมาถึงสี่แยกแห่งหนึ่ง สัญญาณไฟขึ้นเป็นไฟเหลือง แต่ผู้โดยสารสั่งว่า "ไปเลยๆ" แต่โชเฟอร์ตัดสินใจไม่ทำตาม ทำให้ผู้โดยสารต่อว่า "อยากได้ค่าแท็กซี่ก็บอก" ก่อนจะถกเถียงกัน

ทันทีที่คลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป แน่นอนว่าชาวเน็ตต่างชื่นชมและเทใจเชียร์ฝ่ายโชเฟอร์แท็กซี่ ที่ทำถูกต้องตามกฎจราจร อีกทั้งยังใส่ใจเรื่องความปลอดภัยของผู้โดยสารด้วย ขณะที่อีกฝ่ายกลับถูกตำหนิอย่างหนัก ที่สนับสนุนให้ทำผิดกฎ ถ้าหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา นับว่าเป็นสิ่งที่ไม่คุ้มค่าเสี่ยงเลย

3. ทำได้ยังไง ท่านรองฯ ตบหัวนักเรียนชาย 
คำวิจารณ์จากคลิปเดียว กลายเป็นประเด็นยิ่งใหญ่บานปลาย เมื่อมีการแชร์ภาพกลุ่มเด็กนักเรียนแห่งหนึ่ง รวมตัวกันประท้วงเพื่อเรียกร้องและตรวจสอบพฤติกรรมและความตรงไปตรงมาของผู้บริหาร ที่หมกเม็ดเก็บค่า SMS แจ้งข่าวสารข้อมูลของโรงเรียน แต่มีชายคนหนึ่งที่มีตำแหน่งเป็น รองผู้อำนวยการฯ เข้ามาใช้กำลังตบศีรษะเด็กนักเรียนที่เป็นแกนนำ

คลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ไปอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางความไม่พอใจของกลุ่มนักเรียนและครูของสถาบันที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำเกินกว่าเหตุครั้งนี้ของรองผู้อำนวยการฯ กระทั่งมีการออกมาอธิบายชี้แจงต่างๆ นานา แม้ว่าโลกออนไลน์จะเข้าข้างและให้กำลังใจฝ่ายเด็กนักเรียน แต่สุดท้ายก็ยอมความกันได้ ท่านรองฯ ก็มีคำสั่งย้ายไปประจำที่โรงเรียนอื่น

4. แชร์สนั่น! บ้านนี้..ลัทธิบูชาขี้หมา 
เริ่มต้นจากสมาชิกเว็บไซต์ พันทิปดอทคอม ได้แชร์เรื่องราวพฤติกรรมแปลกๆ ของเพื่อนบ้าน ย่านแจ้งวัฒนะ ที่มักจะนำทิ้งบางสิ่ง ที่ส่งกลิ่นเหม็นเน่า มาแขวนเอาไว้ที่หน้าบ้าน จนกลายเป็นบ้านทรุดโทรมและมีกลิ่น จนถูกขนานนามเรียกว่า บ้านบูชาลัทธิขี้หมา สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนรอบข้าง

ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบและพูดคุยกับเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งอธิบายว่า ถุงที่นำมาแขวนหน้าบ้านนั้น เป็นเพียงถุงปุ๋ยอีเอ็ม ที่เกิดจากการเก็บเศษพืชผักชีวภาพ ก่อนหน้านี้เคยมีกรณีฟ้องร้อง แต่ศาลยกฟ้อง เรื่องจึงจบลงด้วยการทำความสะอาดและขอความร่วมมือไม่ให้นำถึงปุ๋ยไปแขวนหน้าบ้านในลักษณะนี้อีก

5. เกณฑ์ทหารดราม่า หนุ่มแต่งหญิงไปคัดเลือก
สีสันการเกณฑ์ทหารประจำปีนี้ เต็มไปด้วยเรื่องราวที่เป็นประเด็น หนึ่งในนั้นคือกรณีที่ถูกแชร์ในโซเชียล เมื่อชายหนุ่มคนหนึ่งได้โพสต์ภาพลงในเฟซบุ๊ก มีลักษณะแต่งกายเป็นสาวข้ามเพศ คล้ายผู้หญิงสาวสวย เพื่อไปคัดเลือกเกณฑ์ทหารประจำปี พร้อมกับแคปชั่นว่า "แล้วก็ผ่านไปได้ด้วยดี" กลายเป็นที่วิจารณ์ในทันที

สุดท้าย เจ้าของภาพดังกล่าวต้องออกมาชี้แจงอย่างเร่งด่วน ยืนยันว่าตัวเองเป็นกลุ่มเพศทางเลือก ไม่ใช่ชายแท้แต่อย่างใด และมักจะแต่งกายเป็นผู้หญิงอยู่ประจำ การเกณฑ์ทหารที่ผ่านมาก็เข้ารับตรวจเลือกตามปกติ แต่ทางเจ้าหน้าที่ลงความเห็นว่าไม่เหมาะที่จะเป็นทหารได้ จึงไม่ผ่านการเกณฑ์ทหาร

6. มันมาแล้ว ภาพอุจจาระบนรถไฟใต้ดิน
ประเด็นสดๆ ร้อนๆ ที่เพิ่งเกิดขึ้นในสังคมเมืองอย่างกรุงเทพฯ เมื่อมีการแชร์ภาพกองอุจจาระอยู่ที่พื้นรถไฟฟ้าใต้ดิน ท่ามกลางผู้โดยสารเต็มขบวนรถ สร้างความแตกตื่นและต้องใช้มือปิดจมูกเอาไว้ กรณีนี้กลายเป็นสิ่งที่สังคมให้ความสนใจ เพราะเหตุเกิดขึ้นในระบบขนส่งสาธารณะ และไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นในเมืองไทย

กรณีที่เกิดขึ้นจริงบนรถไฟฟ้าใต้ดิน เจ้าของภาพและพยานหลายคนที่อยู่ร่วมในเหตุการณ์ ต่างไม่ทราบที่มาที่ไปที่แน่ชัดของกองอุจจาระดังกล่าว แต่ก็สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้โดยสารในชั่วโมงเร่งด่วน ประเด็นนี้ร้อนไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีการตั้งประเด็นว่า ถึงเวลาแล้วหรือยัง..? ที่ควรเปิดให้ใช้ห้องน้ำที่สถานีรถไฟฟ้าอย่างสาธารณะ

7. อื้อฉาว..!! อ้างมนุษย์ป้าถีบสาวท้อง 
เหตุการณ์ดราม่าเริ่มต้นจากการแชร์เผยแพร่ในสังคมออนไลน์ คลิปภาพที่อ้างว่า มนุษย์ป้าที่อ้างว่าเป็นภรรยาของนายทหารยศสูง กำลังทะเลาวิวาทกับสาวธนาคารคนหนึ่ง เนื่องจากไม่พอใจที่มีการเปิดประตูรถชนกัน และมีการอ้างว่าเกิดการทำร้ายร่างกายอีกฝ่าย ที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ด้วย จนได้รับคำวิจารณ์กระฉ่อน

ในเวลาต่อมา ก่อนเรื่องราวจะบานปลาย เจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ได้เรียกทั้งสองฝ่ายมาพูดคุย แม้ว่าเบื้องต้นจะไม่สามารถเจรจาตกลงกันได้ แต่มีความพยายามไกล่เกลี่ยอย่างเต็มที่ ทำให้ภาพของบทสรุปในเหตุการณ์นี้คือ ทั้งสองต่างขอโทษกันและกัน และเรื่องราวก็จบลงไปตามกาลเวลา...

8. "แท็กซี่ลัมโบร์กินี" ไฮโซตบหัวหนุ่มขับเฉี่ยว
รถเก๋งคันหรู ลัมโบร์กินีที่แต่งเป็นแท็กซี่มิเตอร์ เขียว-เหลือง เกิดเฉี่ยวชนกับจักรยานยนต์ ทำให้กระจกมองข้างหลุด ก่อนจะมีภาพเจ้าของรถเก๋ง จอดรถลงมาต่อว่าและมีการตบใบหน้าคู่กรณีอีกด้วย ทำให้โลกออนไลน์ต่างวิพากษ์วิจารณ์ ยกประเด็น "คนรวย..ทำอะไรก็ไม่ผิด"

ต่อมา "โจ แม่สาย" ไฮโซหนุ่มชื่อดังได้ออกมายอมรับว่า เป็นเจ้าของรถเก๋งหรูคันดังกล่าว พร้อมกับขอโทษที่กระทำการตบใบหน้าของคู่กรณีนี้ เนื่องจากโมโหที่ขับเฉี่ยวชนแล้วหนี กระทั่งไล่ติดตามสกัดจับเอาไว้ได้เอง แต่ก็ไม่ได้เรียกร้องค่าเสียหายหรือดำเนินคดีใดๆ เพียงแค่ว่ากล่าวตักเตือนและปล่อยตัวเท่านั้นเอง

9. คุณยายมหาภัย จับยัดดอกไม้..แกต้องซื้อ! 
วีรกรรมเด็ดดวงของคุณป้า ทำให้ได้รับการขนานนามว่า "ยายสายบู๊" คลิปภาพเหตุการณ์ที่เหยื่อผู้โชคร้าย บังเอิญรับช่อดอกไม้ของป้า เพราะความเคยชิน กลายเป็นจุดเริ่มต้นของฉากอื้อฉาว ป้าเล่นใหญ่รัชดาลัย แม้แต่แม่ค้าด้วยก้นยังทำอะไรไม่ได้ รวมทั้งพระสงฆ์ที่บิณฑบาต ก็ยังเคยเจอพิษสงของคุณป้าท่านนี้

พิกัดที่เกิดเหตุย่านอ้อมน้อย กลายเป็นที่โจษจัน ป้ายังประกาศว่ามีลูกชายเป็นตำรวจ ไม่เกรงกลัวอะไรทั้งสิ้น เมื่อผู้สื่อข่าวและเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบ ก็ได้รับการต้อนรับที่ดี พร้อมกับวลีเด็ดที่ว่า "ร้อยดอกไม้ชั่วโมงละ 3 พวง 4 ชั่วโมงได้ 12 พวง ถ้าไม่อย่างนี้จะรวยเหรอ..."

10. มันคืออะไร? พยาธิไชหน้า หลังกินตำปูปลาร้า
ภาพผู้หญิงคนหนึ่งมีเส้นนูนสีแดงคล้ายเส้นเลือดปรากฏอยู่บนใบหน้ายาวมาถึงใต้ขากรรไกรซ้าย อ้างว่าเป็นเส้นทางเดินของพยาธิที่มีสาเหตุมาจากการรับประทานส้มตำปูปลาร้า กลายเป็นประเด็นที่โลกออนไลน์หยิบยกมาวิจารณ์และสร้างความวิตกกังวลไปต่างๆ นานา

ประเด็นนี้ร้อนไปถึง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่ต้องออกมาชี้แจงว่า อาการนี้เป็นโรคพยาธิชอนไชผิวหนัง เกิดจากพยาธิตัวกลมระยะตัวอ่อน แต่มนุษย์ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่พยาธิจะเจริญเติบโตได้ ไม่นานพยาธิจะตายลงไปเอง สำหรับอาการแสดงทางผิวหนังนั้นจะเป็นอยู่นานจนกว่าพยาธิจะถูกทำลายโดยภูมิคุ้มกันหรือได้รับยาฆ่าพยาธิ

11. เหตุเกิดในฟิตเนสสยิว ดาวตลกงานเข้าสยอง
อื้อฉาวพัวพันไปหลายประเด็น สำหรับกรณีคลิปฟิตเนสสยิว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสถานออกกำลังกายแห่งหนึ่ง ย่านทาวน์อินทาวน์ ที่มีการแชร์คลิปส่งต่อและถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก เริ่มต้นจากความไม่เหมาะสม ตำรวจเชิญตัวหญิงสาวนุ่งน้อยห่มน้อย เต้นยั่วมาสอบสวน ก่อนจะมีคลิปอีกชุดพบว่า มีดาราตลกชื่อดังร่วมอยู่ในเหตุการณ์ด้วย

"เด่น ดอกประดู่" ตลกรุ่นใหญ่ที่ถูกวิจารณ์อย่างหนัก ตกเป็นจำเลยสังคม ต้องออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงกับตำรวจ ระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวถูกวานจ้างให้มาทำหน้าที่เป็นพิธีกรในงานเลี้ยงเท่านั้น ยอมรับว่าตกใจกับเหตุที่เกิดขึ้น เพราะไม่รู้มารายละเอียดของงานมาก่อนว่าจะมีอะไรแบบนี้

12. ปริศนาและคำเฉลย ปรากฏการณ์..ไฟลุกบ้าน
กลายเป็นประเด็นข่าวที่สังคมให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เมื่อเกิดเหตุการณ์ไฟลุกไหม้เองอย่างเป็นปริศนาที่บ้านหลังหนึ่ง สร้างความเดือดร้อนแก่ผู้อยู่อาศัย ที่ต้องคอยไล่ดับไฟที่ลุกไหม้ติดต่อกันหลายวัน ร้อนถึงเจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่ไปพิสูจน์เหตุการณ์ที่หาคำอธิบายไม่ได้ดังกล่าว

จนกระทั่งเหตุการณ์ดังกล่าวที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานา เริ่มจะคลี่คลายลง เมื่อรายการ ห้องข่าว ทางช่อง 8 ได้ตั้งกล้องแอบถ่ายเอาไว้ภายในบ้าน ก่อนจะพบภาพคล้ายว่า มีผู้หญิงเป็นคนแอบจุดไฟขึ้นเองที่กองผ้า ก่อนจะตามเด็กมาชี้จุดที่ไฟลุก คนทั้งบ้านจึงมาช่วยกันดับ ซึ่งหลังจากภาพดังกล่าวเผยแพร่ออกไป เหตุไฟลุกขึ้นเองก็แทบจะไม่ปรากฏขึ้นอีกเลย...

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook