แม่เลี้ยงลูกพิการ 3 คนนาน 30 ปี แถมหลานยังพิการ ต้องล่ามขาเลี้ยงตามยถากรรม

สุดรันทด! แม่เลี้ยงลูกสมองพิการ 3 คนมานาน 30 ปี สลดซ้ำลูกสาวพิการถูกข่มขืนคลอดลูกพิการอีก ต้องใช้เชือกล่ามขาเลี้ยงตามยถากรรม

ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ที่บ้านหลังหนึ่ง หมู่ 4 ต.หนองบัว อ.ศรีนคร จ.สุโขทัย มีสุดยอดคุณแม่ที่สู้เลี้ยงลูกสาวกับลูกชายและหลานชายพิการทางสมอง รวม 4 ชีวิต มานานถึง 30 ปี โดยไม่เคยท้อหรือร้องขอความช่วยเหลือจากใคร จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบบ้านดังกล่าวตั้งอยู่ริมถนนติดกับไร่ข้าวโพด

ทราบเจ้าของบ้านชื่อ นายประมวล และ นางพา อาศัยอยู่กับลูกๆ คือ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี นายบี (นามสมมติ) อายุ 28 ปี นายซี (นามสมมติ) อายุ 22 ปี และ ด.ช.ดี (นามสมมติ) ซึ่งเป็นหลานชาย อายุ 13 ปี ทั้งลูกและหลานป่วยสมองพิการมาตั้งแต่เกิด ยกเว้น นายบี ลูกคนที่สองที่ป่วยสมองพิการเพราะดมกาว และเคยเข้ารับการรักษาอาการที่โรงพยาบาล จ.เชียงใหม่ มาแล้ว 2 ครั้ง

นางพา สุดยอดคุณแม่ชาวสุโขทัย เผยชีวิตสุดรันทดให้ฟังว่า ตนเองและสามีเคยทำนาทำไร่ แต่หมดทุนเพราะปลูกอะไรก็ตาย ขายก็เจ๊ง สามีจึงหันมารับจ้างทั่วไป ทั้งขุดวงส้วม ปีนตัดต้นไม้ ใครจ้างอะไรก็ทำหมด เพื่อหาเงินมาเลี้ยงลูกกับหลานที่พิการมาตั้งแต่เกิด ส่วนตนเองตั้งแต่หลานชายเกิดมาก็ไม่ได้ทำงานอีก เพราะต้องคอยเลี้ยงหลานที่บ้าน รวมทั้งต้องคอยดูแลลูกๆ ที่ไม่สมประกอบด้วย

"สิบกว่าปีก่อนตอนที่ฉันออกไปทำงานนอกบ้าน ปล่อยให้ลูกๆ อยู่กันลำพัง ลูกสาวคนโตของฉันถูกคนร้ายบุกเข้ามาข่มขืน ฉันมารู้อีกทีก็ตอนที่ลูกสาวท้องได้ 5 เดือนแล้ว ฉันกับสามีก็ได้แต่ยอมรับชะตากรรม และไม่เคยท้อ เขาเกิดมาแล้ว เป็นลูกเป็นหลานของฉัน ไม่ว่าจะเป็นยังไง ก็ต้องดูแลจนกว่าจะตายจากกัน"

นางพา บอกอีกว่า เสื้อผ้าที่มีสวมใส่นั้นเพื่อนบ้านบริจาคมาให้ ส่วนบ้านที่อาศัยอยู่ปัจจุบันทาง อบต.หนองบัว ก็เป็นผู้สร้างให้ และทุกวันนี้มีรายได้หลักจากเงินช่วยเหลือคนพิการเดือนละ 800 บาท รวมลูกกับหลาน 4 คน เป็นเงิน 3,200 บาท ได้มาก็จะซื้อข้าวสารอาหารแห้งมากักตุน และหาเก็บผักสวนครัวที่ปลูกไว้ข้างบ้านมากิน

ทั้งนี้ นางพาบอกว่าเหตุที่ต้องใช้เชือกผ้ามัดขาหลานชายเอาไว้ เพราะว่าชอบเดินไปบนถนนหน้าบ้าน แล้ววิ่งไล่ตามรถยนต์ที่แล่นผ่าน รวมทั้งข้างบ้านมีสระน้ำด้วย กลัวจะเป็นอันตราย จึงต้องล่ามมัดกับโต๊ะเอาไว้ เวลาตนเดินไปไหนก็ต้องจูงเชือกตามกันไปแบบนี้ แต่กลางคืนก็จะแก้เชือกออกให้อยู่ในบ้าน