รายได้ ภาษี ประชารัฐ
ประกาศกร้าวชัดเจน เด็ดขาดแบบท่านผู้นำ..."ไม่ชดเชยราคาสินค้าเกษตร ยางพารา ข้าว เพราะมีเงินอยู่เท่านี้จะทำอย่างไร..? ถ้าทำต้องไปลดเรื่อง บัตรทอง..." ที่ผ่านมากำลังแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ เข้าไปช่วยปรับโครงสร้างการเพาะปลูกให้เหมาะสมยิ่งขึ้น......
ถูกปฏิเสธการร้องขอไปแบบไม่ใยดี สำหรับการขอช่วยหยุดยั้งวิกฤตราคายางพาราตกต่ำ ในรอบหลายปี เหตุผลหลักคือ ไม่มีเงินมากพอจะเข้ามาดำเนินการชดเชยตามที่ร้องขอ ... และด้วยท่าทีท่วงทำนองการพูดของท่านผู้นำ แบบที่เรียกว่า ช็อคบรรดาแฟนคลับหลายๆคนกันไปตามๆกัน
ที่น่าตกใจไปอีก ก็คือ การนำเรื่องวิกฤติที่โยงกับปากท้อง ของเกษตรกรจำนวนมาก ไปต่อรองกับ มาตรการที่เป็นสวัสดิการพื้นฐานที่ได้รับการยกย่อง เรื่องการดูแลรักษาพยาบาลตามสิทธิของ บัตรทอง.... ทำเอา กองเชียร์หลายคนงุนงงไปไม่น้อย...
จะไม่งุนงงได้อย่างไร...ในการดำเนินนโยบายหลังจากที่ท่านปรับทีมเศรษฐกิจเข้ามา....มาตรการที่ต้องใช้เงินจำนวนมาก หรือที่ทำให้รัฐเสียรายได้จากการจัดเก็บภาษีหรือค่าธรรมเนียม ถูกงัดออกมา ไม่ว่า เพิ่มเงินกองทุนหมู่บ้าน ก็หลายหมื่นล้าน ให้งบพัฒนาตำบลละ 5 ล้าน เข้าไปอีก แถมด้วย มาตรการลดค่าธรรมเนียมอสังหาริมทรัพย์ ที่จัดกันชุดใหญ่ไม่น้อย
โดยมาตรการเหล่านั้น มีคนวิพากษ์วิจารณ์ท้วงติงในทำนองว่า เป็นการใช้งบประมาณจำนวนมาก ไม่ต่างกับนโยบายประชานิยม ของรัฐบาลนักการเมือง เป็นการส่งเสริมให้คนใช้จ่ายด้วยการกู้ยืมเป็นการสร้างหนี้ จะเป็นอันตรายต่อวินัยการเงิน การคลังในภายหลังฯลฯ
ท่านก็ออกมาอธิบายว่า มาตรการที่ทำไม่ใช่ประชานิยม ...แต่เป็นประชารัฐ เป็นการช่วยเหลือในช่วงที่จำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจและดูแลคนมีรายได้น้อยให้มีโอกาส...เป็นการที่รัฐจำเป็นต้องเข้าไปช่วยเหลือดูแล
นี้มาช่วงปีใหม่หมาดๆ ท่านก็ใจดียอมให้ประชาชนนำรายจ่ายหลายประเภทที่ใช้ในช่วงปลายปี มาหักลดหย่อนภาษีได้อีก ทำเอาบรรดาห้างร้าน กิจการต่างๆชื่นชมเพราะ มีกระแสเงินจากมือประชาชนหมุนเวียนเพิ่มขึ้นอีกเป็นแสนล้าน
และล่าสุด ยังจะมีการเตรียมปรับเพดานการเสียภาษีให้กับรัฐ จากเดิมเงินเดือน ประมาณ 24,000 บาทไม่ต้องเสียภาษี มาเป็น 30,000 บาทไม่ต้องเสีย ภาษี และ ยังใจดีเตรียมลดอัตราจากอัตรา 35 % ซึ่งเป็นอัตราสูงสุด ลงมาเหลือเพียง 30 % เรียกว่า ระดับบริหารเงินเดือนเป็นแสน บรรดาเจ้าสัวเงินล้าน ยิ้มร่ารอวันเวลาด้วยใจจดจ่อกันทีเดียว เพราะจะว่าไป คนรายได้ขั้นต่ำที่ได้ยกเว้นภาษี 5 % กับ คนมีรายได้ระดับหลักล้าน ที่ได้ลดหย่อยลงมา 5 % เม็ดเงินมันต่างกันมากมายทีเดียว
นอกจากนี้ยังมีเรื่องปรับภาษีเงินได้นิติบุคคล ปรับลดภาษีสินค้านำเข้าฟุ่มเฟือยอีกหลายรายการ รวมทั้ง กรมบัญชีกลางก็เตรียมปรับโครงสร้างเงินเดือนข้าราชการกันอีกยก เพราะเทียบดูแล้วระดับบริหารของราชการกับเอกชนแล้วต่างกันลิบลับ...
ที่ยกมาก็เห็นเป็นข่าวนะครับ ยังไม่สรุปก็มีส่วนที่ทำไปแล้วก็มี แต่ที่น่าสงสัยกันไม่น้อยก็คือ ทำไมเมื่อ รายได้ หรือเงิน ที่จำเป็นต้องใช้ ตามที่ท่านบอกว่ามีอยู่แค่นี้ มีอยู่จำกัด ...แต่ทำไมหน่วยราชการเตรียมลด รายการ ที่เป็นรายได้เข้ารัฐกันยกใหญ่ และยังมีแผนใช้เงินซึ่งผูกพันระยะยาว อย่างปรับโครงสร้างเงินเดือนกันในปีนี้...?
ก็คงแต่ได้ร้องขอว่า ในเรื่องของราคาสินค้าเกษตร สำหรับบางครอบครัว ที่เขามีรายได้หลักจากพืชเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว ไม่ใช่ชาวสวนระดับร้อยๆไร่ เป็นอุตสาหกรรมการเกษตร มีอาชีพหลัก มีรายได้หลักจากทางอื่น เขาเหล่านั้น เดือดร้อนหนักจริงๆ
เป็นไปได้หรือไม่ลงไปดูแยกแยะให้ชัด เพื่อช่วยเหลือเฉพาะหน้าให้ถูกจุดที่สุด..เร็วที่สุด...สมกับที่รัฐที่มีหน้าที่ดูแลประชาชนผู้เดือดร้อนจริง อย่าปฏิเสธตัดขาดกับประชาชนเกษตรกรที่เดือดร้อนแบบไม่ใยดีเลย.... ให้สมกับที่อยากเดินหน้าประชารัฐด้วยเถิด
โดย : เปลวไฟน้อย