นักข่าว ช่างภาพ เข้าให้การตร. กรณีถ่ายคลิป "ดีเจเก่ง" ยันไม่ได้ตัดต่อ
จากกรณีที่ นายภัทรศักดิ์ เทียมประเสริฐ หรือดีเจเก่ง ได้แสดงพฤติกรรมก้าวร้าวบนท้องถนน ด้วยการขับรถกระบะส่วนตัวถอยหลังชนรถเก๋งยาริส บริเวณถนนมิตรไมตรี ทางเข้าสนามกีฬาไทยญี่ปุ่นดินแดงอย่างรุนแรง จนมีผู้ถ่ายคลิปวีดีโอเหตุการณ์เอาไว้ได้
ซึ่งทางดีเจหนุ่มยังอ้างหลังจากเกิดเหตุด้วยว่า ถูกรถเก๋งคันคู่กรณีพุ่งชนท้าย และพยายามลงมาจะทำร้าย ทั้งที่ภาพเหตุการณ์ที่วันทึกไว้ได้ ขัดกับคำพูดของดีเจหนุ่มอย่างชัดเจน
เมื่อวันที่ 11 มกราคม น.ส.มณิชณัญญ์ อายุ 39 ปี ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ทีวี 24 พร้อมด้วยนายเอกศักดิ์ อายุ 33 ปี ช่างภาพ และนายกำพลอายุ 35 ปี ผู้ช่วยช่างภาพ ซึ่งเป็นผู้ถ่ายคลิปและโพสต์คลิปดังกล่าว
ได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.สุภกร แสงจันทร์ พงส.สน.ดินแดง เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคลิปวีดีโอ ที่มีการเผยแพร่ออกไปในโลกโซเชียล หลังประสานพนักงานสอบสวนสน.ดินแดงเพื่อให้ข้อมูล โดยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง
น.ส.มณิชณัญญ์ กล่าวว่า วันนี้ตนพร้อมช่างภาพและผู้ช่วยช่างภาพที่อยู่ในวันเกิดเหตุ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับการถ่ายคลิปและการนำไปเผยแพร่
โดยก่อนเกิดเหตุตนและทีมงานทั้ง 2 คน กำลังเดินทางกลับจากการทำข่าวที่สนามกีฬาไทยญี่ปุ่นดินแดง เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุก็พบว่ารถยนต์กระบะสีดำ ซึ่งมาทราบภายหลังที่คลิปมีการเผยแพร่ออกไปแล้วว่าเป็นของนายภัทรศักดิ์ หรือ ดีเจเก่ง กำลังถอยชนรถยนต์เก๋งยาริสสีแดงอยู่ ตนจึงถ่ายคลิปไว้เนื่องจากเป็นเหตุซึ่งหน้า และถ่ายในฐานะสื่อมวลชน
ก่อนที่นายเอกศักดิ์ จะนำไปลงในเฟซบุ๊ก ซึ่งตนไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้ใครเสื่อมเสียชื่อเสียง หรือทำให้เกิดความเสียหายใดๆ เพียงแค่อย่างให้เห็นความจริงที่เกิดขึ้นเท่านั้น ซึ่งตนขอยืนยันว่าคลิปดังกล่าวไม่ได้มีการตัดต่อ หรือบิดเบือนไปจากที่ปรากฏออกไปแต่อย่างใด
น.ส.มณิชณัญญ์ กล่าวต่อว่า เรื่องคลิปดังกล่าวตนได้มีการพูดคุยกับ นายกวินกาญจน์ แล้วว่าขอให้คลิปดังกล่าวเป็นอุทาหรณ์ ให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน ซึ่งทางนายภัทรศักดิ์ หรือดีเจเก่งก็เข้าใจ ส่วนหลังจากนี้จะมีใครแจ้งความดำเนินคดีกับตนในเรื่องของการเผยแพร่คลิปตนก็ยินดี และทำในฐานะสื่อมวลชน อีกทั้งไม่ได้นำข้อมูลอันเป็นเท็จหรือปลอมแปลงขึ้นมาไปเผยแพร่
ร.ต.ท.สุภกร กล่าวว่าในวันนี้ผู้ที่ถ่ายคลิปได้เดินทางเข้าให้ข้อมูลการบันทึกภาพในวันเกิดเหตุ เพื่อเป็นหลักฐาน ซึ่งหลังจากนี้จะเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน และสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุเพิ่มเติม ก่อนจะส่งฟ้องอีกครั้ง และคาดว่าจะเสร็จก่อนวันที่ 15 มกราคม ที่จะถึงนี้ ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ตนไม่สามารถเปิดเผยได้