IS อ้าง อยู่เบื้องหลังโจมตีจาการ์ตา

กลุ่มไอเอส ออกมาอ้างความรับผิดชอบอยู่เบื้องหลังเหตุก่อการร้ายกรุงจาการ์ตา บอกเป้าหมายสังหารชาวต่างชาติ และ จนท.อินโดฯ ที่คอยคุ้มครองชาวต่างชาติ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สำนักข่าวอามัก ที่เป็นพันธมิตร และเคยเป็นสื่อกระบอกเสียงให้กับกลุ่มไอเอส ในซีเรีย และอิรัก ออกแถลงเป็นภาษาอารบิก ผ่านทางโทรเลขของสำนักข่าว เมื่อวันพฤหัสบดีว่า นักรบกลุ่มไอเอส เป็นผู้ลงมือโจมตีในกรุงจาการ์ตา เมื่อวันพฤหัสบดี โดยมีเป้าหมายที่ชาวต่างชาติ และเจ้าหน้าที่ความมั่นคงที่ทำหน้าที่คุ้มครองชาวต่างชาติในกรุงจาการ์ตา

ในถ้อยแถลงที่เผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์ทางพวกญิฮัดกลุ่มนี้บอกว่า ระเบิดจำนวนหนึ่งถูกจุดชนวนขึ้นในระหว่างการโจมตีของนักรบกาหลิบ 4 คน ด้วยอาวุธขนาดเล็กและเข็มขัดระเบิดถ้อยแถลงบอกต่อว่า มือโจมตีมีเป้าหมายคือจุดรวมตัวของพลเมืองจากพันธมิตรครูเสด

อ้างถึงพันธมิตรนานาชาติที่นำโดยสหรัฐฯ ซึ่งกำลังปฏิบัติการทางอากาศถล่มไอเอส ในอิรักและซีเรีย นอกจากนี้ ยังระบุด้วยว่า มีผู้เสียชีวิตในเหตุโจมตีดังกล่าว 15 ราย ซึ่งขัดแย้งกับข้อมูลของทางการอินโดนีเซีย ที่ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์นี้ 7 ราย

ก่อนหน้านี้ เมื่อ พ.ย.ที่ผ่านมา เว็บไซต์ของสิงคโปร์ รายงานว่า กลุ่มก่อการร้ายมาเลเซีย ที่แฝงตัวทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ กำลังวางแผนที่จะตั้งกลุ่มรัฐอิสลาม หรือ ไอเอส สาขาภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างเป็นทางการ โดยรวมกลุ่มก่อการร้ายอื่น ๆ ในภูมิภาค คือ กลุ่มเจมาห์ อิสลามิยาห์ และอาบูไซยาฟ ในมาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์

ด้าน โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติอินโดนีเซีย ออกมากล่าวว่า ผู้ก่อเหตุครั้งนี้มี 5 คน และเชื่อว่าถูกออกแบบมาเพื่อลอกเลียนเหตุโจมตีกรุงปารีส เมื่อวันที่ 13 พ.ย. โดยเหตุการณ์ครั้งนี้ มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 7 ราย 5 ราย เป็นคนร้าย และพลเมือง 2 คน ในนั้น รวมถึงชาวตะวันตก 1 ราย และบาดเจ็บทั้งหมด 19 ราย

ขณะที่ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กองกำลังฝ่ายความมั่นคงฟิลิปปินส์ แสดงความกังวลต่อภัยก่อการร้ายที่เกิดขึ้น หลังเกิดเหตุร้ายหลายจุดในกรุงจาการ์ตา ของอินโดนีเซีย โดย กองทัพ และตำรวจฟิลิปปินส์ แถลงร่วมกันว่า กองกำลังความมั่นคง ตระหนักดีถึงภัยก่อการร้ายที่กำลังปรากฏขึ้น และได้ดำเนินการมาโดยตลอด ในการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายไม่ว่าที่ใดในฟิลิปปินส์

โดย โฆษกกองทัพ กล่าวว่า ทางการยังไม่พบเบาะแสว่าจะเกิดภัยใดเป็นพิเศษในเร็วๆ นี้ แต่กองทัพและตำรวจยังคงเฝ้าติดตามภัยจากกลุ่มก่อการร้ายในประเทศอย่างสม่ำเสมอ เช่น กลุ่มอาบูไซยาฟ กลุ่มนักรบเสรีภาพอิสลามบังซาโมโร กองทัพระบุว่า ทั้งสองกลุ่มนี้ให้ที่พักพิงแก่คนร้ายต่างชาติ ที่หนีคดีระเบิดแหล่งท่องเที่ยวบนเกาะบาหลีของอินโดนีเซีย เมื่อปี 2545

ขอขอบคุณภาพจากทวิตเตอร์ @ReesEdward