แห่พิสูจน์ มนุษย์ไฟฟ้า-โชว์จับสายเปลือย
ฮือฮา-แห่พิสูจน์ มนุษย์ไฟฟ้า ใช้ร่างกายเป็นฟิวส์ให้กระแสไฟฟ้าผ่าน โชว์ท้าความตายท่ามกลางสายตาชาวบ้านกว่า 100 คน ด้วยการใช้ลวดทองแดงพันรอบตัวแล้วใช้มือต่อหลอดไฟขนาด 100 วัตต์ จนสว่างจ้าโดยไม่เป็นอันตราย ด้านช่างไฟที่เข้าไปสังเกตการณ์เผยเป็นคนพิเศษที่มีความต้านทานกระแสไฟฟ้าผ่านเข้าร่างกายมากกว่าคนธรรมดา 3 เท่า ด้านเจ้าตัวเผยเคยถูกไฟดูดจนสลบ จากนั้นก็ใช้มือเปล่าทดสอบไฟฟ้าทุกครั้ง รับอยากมีชื่อติดในกินเนสส์ บุ๊ก ด้านอาจารย์จุฬาฯ ไม่เชื่อร่างกายมนุษย์จะต้านกระแสไฟฟ้าได้ ระบุอาจเป็นการเล่นกลก็ได้
เมื่อวันที่ 1 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่หมู่บ้านวังสำโม ต.บ้านดารา อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ มีชาวบ้านจากทั่วสารทิศ จำนวนเกือบ 100 คน เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 76/3 หมู่ 2 ซึ่งเป็นบ้านของนายสุนทร (ดาวลอย) เกตุชิต วัย 61 ปี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)บ้านดารา เนื่องจากทราบว่าเป็นมนุษย์ประหลาดชอบท้าทายกับพญามัจจุราชด้วยการใช้ร่างกายเป็นตัวนำและสื่อกลางยอมให้กระแสไฟฟ้าขนาด 220 โวลต์ ผ่านไปถึงวัตถุซึ่งเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ด้วยการใช้มือเปล่าจับสายไฟขั้วบวกเปลือยที่เหลือแต่ทองแดง แล้วนำเอาสายไฟฟ้าขั้วลบไปแหย่ที่หลอดไฟ โดยมีกระแสไฟฟ้าจากขั้วบวกที่มาจากร่างกายต่อเชื่อมกับหลอดไฟ ขนาด 100 วัตต์ ในขั้วลบ เมื่อกระแสไฟฟ้าผ่านร่างกายจากขั้วบวกได้สัมผัสกับขั้วลบ ทำให้ระบบไฟฟ้าครบวงจร หลอดไฟเกิดแสงสว่างขึ้นมาในทันที
มนุษย์ประหลาดได้เตรียมไฮไลต์ชุดเด็ดที่สุดที่เจ้าตัวต้องการนำเสนอคือ การถอดเสื้อแล้วใช้สายไฟที่ถูกปอกเหลือแต่เส้นทองแดงนำมาพันตัว และต่อกับวงจรไว้แล้ว โดยใช้สองมือจับสายไฟขั้วบวกเพื่อให้สปาร์กไฟกับขั้วลบ แหย่ไปที่คัตเอาต์ไฟบ้าน เพื่อให้หลอดไฟขนาด 100 วัตต์ สว่างขึ้นมาทันทีเหมือนกับครั้งแรก แต่สิ่งที่ปรากฏต่อสายตาชาวบ้านคือนายสุนทรถอดรองเท้าทั้ง 2 ข้างออกก่อน โดยยอมให้เท้าทั้ง 2 ข้างแตะสัมผัสอยู่บนพื้นปูน แล้วกล่าวว่า นี่คือการทดสอบที่เสี่ยงที่สุด เนื่องจากพื้นปูนเป็นสื่อนำกระแสไฟฟ้าที่ดีเยี่ยมที่สุด ไม่มีมนุษย์คนใดกล้าทำอย่างนี้ จากการทดลองที่ได้ออกรายการเรื่องจริงผ่านจอ ไม่ได้ทำการถอดรองเท้าออก จนถูกช่างไฟฟ้าด้วยกันวิจารณ์ว่าไม่กล้าถอดรองเท้า วันนี้จึงแสดงให้ดูปรากฏว่าเจ้าตัวไม่เป็นอะไร หลอดไฟขนาด 500 วัตต์ ให้ความสว่างขึ้นมาทันที ใช้เวลากับการทดลองครั้งนี้นานกว่า 10 วินาที
จากนั้น นายสุนทรได้นำไส้กรอกหมู จำนวน 2 อัน มาทดลองเช่นเดียวกับการลองหลอดไฟ ผิดกันตรงที่นำกระแสไฟไปจี้ที่ไส้กรอกหมู ปรากฏเกิดมีกลิ่นเหม็นไหม้เหมือนการเผาเนื้อจนเกิดควันและไฟขึ้นมา ช่วงเวลาต่อมาเนื้อไส้กรอกสุกทันที สร้างความประหลาดใจและความตื่นเต้นให้กับผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก จนคนในหมู่บ้านตั้งฉายาให้ว่า "มนุษย์ไฟฟ้า"
นายมานะ เพ็งแสงทอง ช่างซ่อมทีวีและเครื่องใช้ไฟฟ้าในหมู่บ้าน กล่าวว่า ตัวนายสุนทรเปรียบเสมือนฟิวส์ที่ทำหน้าที่เหมือนฉนวนไฟฟ้า ซึ่งกระแสไฟ 220 โวลต์ สามารถวิ่งผ่านจนเชื่อมต่อทำให้หลอดไฟติดได้ ซึ่งคนปกติทั่วไป จะมีความต้านทาน กระแสไฟฟ้าอยู่ที่ประมาณ 120 กิโลโอห์ม และถ้ามากกว่านี้ก็จะโดนไฟดูดจนเสียชีวิตได้ แต่นายสุนทรมีค่าความต้านทานถึง 304 กิโลโอห์ม มากกว่าคนปกติถึง 3 เท่า
นายสุนทร กล่าวว่า เดิมตนเป็นคนจังหวัดบุรีรัมย์ พ่อแม่มีอาชีพทำนา ทำไร่ เมื่ออายุได้ประ มาณ 9 ขวบ เรียนจบ ป.4 เกิดความนึกชอบงานเกี่ยวกับเครื่องใช้ไฟฟ้าเกี่ยวกับช่างยนต์ตามอู่ต่างๆ และได้ศึกษาหาความรู้เพิ่มทักษะให้ตัวเองมาตลอด และเข้าศึกษากับศูนย์สถาบันทีทีเอส ให้การสอนเกี่ยวกับการซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด อยู่หลังโรงหนังเฉลิมกรุง กรุงเทพมหานคร ทำงานรับจ้างเป็นช่างคุมเครื่องไฟได้ค่าแรงคืนละ 300 บาท กระทั่งประกอบอาชีพรับจ้างเป็นช่างซ่อมเครื่องจักรและอิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด ที่ จ.นครสวรรค์ วันหนึ่งได้นำเครื่องสว่านเจาะใต้ท้องรถยนต์ แต่เกิดไฟฟ้ารั่วโดนชอร์ตจนสลบไป ระหว่างนั้นเจ้าของร้านเดินไปเตะสายไฟสว่านหลุดออกทำให้รอดชีวิตมา ช่วงที่โดนไฟฟ้าชอร์ตร่างกายเกิดอาการตึงและชาไปทั่วตัว สายตามองเห็นรอบข้างแต่ไม่สามารถกระดิกตัวหรือทำอะไรได้
นายสุนทร กล่าวต่อว่าเมื่อปี 2516 อายุประมาณ 20 ปี ประกอบอาชีพรับจ้างที่โรงภาพยนตร์แห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา และบังเอิญไปนอนทับสายไฟที่มีกระแสไฟฟ้าวิ่งอยู่ ร่างกายเกิดอาการชาเพียงเล็กน้อย จึงน่าแปลกใจ จึงนำเครื่องใช้ไฟฟ้ามาเสียบปลั๊กกับสายไฟที่ตนนอนทับปรากฏว่ามีกระแสไฟฟ้าเนื่องจากพัดลมติด คิดว่าจะต้องมีอะไรเกิดขึ้นกับร่างกายของตนเองอย่างแน่นอน จากนั้นจึงได้ทดลองจับสายไฟฟ้าด้วยมือเปล่าทุกวันจนแน่ใจว่าไม่เป็นไร กระทั่งมาอยู่ที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ได้ท้าพนันกินเหล้าและเบียร์เป็นโหล ว่าตนสามารถจับไฟฟ้าได้โดยที่ร่างกายไม่เป็นอะไร รวมถึงพนันเงินจากคนอื่นและได้เงินมาตลอด กระทั่งข่าวแพร่ออกไปไม่มีใครกล้ามาท้าพนันอีก อยู่อุตรดิตถ์ได้ยึดอาชีพเป็นช่างซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด อยู่ที่ตลาดท่าสัก อ.พิชัย ระหว่างทำงานก็จะมีการวัดไฟฟ้าแต่ละจุดว่ามีกระไฟฟ้าเข้าหรือไม่ โดยปกติต้องใช้เครื่องมือวัดกระแสไฟฟ้า สำหรับตนใช้นิ้วมือแทนเครื่องมือวัดกระแสไฟฟ้ามาตลอดในการทำงาน ในแต่ละปีจะต้องไปตรวจเช็กร่างกายเพื่อหาความผิดปกติของร่างกาย แต่ผลการตรวจไม่พบความผิดปกติด้านไฟฟ้าในร่างกาย
นายสุนทรกล่าวต่อว่าตนอยากมีชื่อติดในกินเนสส์ บุ๊ก สุดยอดที่สุดในโลก เพราะเชื่อว่าไม่มีใครกล้าสามารถจับกระแสไฟฟ้าด้วยมือเปล่า หรือยอมใช้ร่างกายเป็นสื่อนำกระแสไฟฟ้าไปยังวัตถุสิ่งของ อาทิ หลอดไฟฟ้า พัดลม และตู้เย็น อยากให้ทางกินเนสส์ บุ๊ก เข้ามาพิสูจน์ความจริงเกี่ยวกับเรื่องฉายาที่ตนได้รับว่าเป็น "มนุษย์ไฟฟ้า" และเชื่อว่าไม่มีมนุษย์คนใดในโลกนี้ทำได้เหมือนตน และก็ขอท้ากับกินเนสส์ บุ๊ก เข้ามาพิสูจน์ความจริงกัน
นางจิระภา เกตุชิต ภรรยา กล่าวว่าแต่งงานกับนายสุนทรเป็นเวลานานกว่า 20 ปี มีบุตรด้วยกัน 2 คน คนโตเป็นหญิงมีครอบครัวไปแล้ว ส่วนลูกชายกำลังศึกษาอยู่ ตลอดเวลาที่ผ่านมาได้เห็นสามีกระทำวิธีดังกล่าวมาบ่อยครั้ง รู้สึกเฉยๆ เพราะชินแล้ว และบางครั้งก็จับมือลูกชายไปสัมผัสกับกระแสไฟฟ้าภายในบ้านโดยมีตัวเขาเป็นสื่อปรากฏลูกชายไม่เป็นอะไร อย่างไรก็ตาม อยากฝากไปถึงผู้ชมและบุคคลทั่วไปให้ตระหนักถึงโทษและอันตรายที่จะเกิดขึ้น ไม่สมควรหรือลอกเลียนพฤติกรรมเอาเป็นแบบอย่าง เพราะอาจจะเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ เนื่องจากเป็นความสามารถพิเศษส่วนตัว
ด้านนายชุมพล อันตรเสน หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลง กรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ที่ผ่านมาไม่เคยปรากฏว่ามีมนุษย์คนใดที่ใช้ร่างกายเป็นตัวนำและสื่อกลางกระแสไฟฟ้าขนาด 220 โวลต์ได้ อีกทั้งในทางหลักวิชาการก็เป็นไปไม่ได้ เพราะกระแสไฟฟ้าวิ่งผ่านตัวกลางที่มีความชื้น และในร่างกายมนุษย์อวัยวะที่มีความชื้นก็เช่น หัวใจ ดังนั้น หากกระแสไฟฟ้าเข้าสู่ร่างกายวิ่งผ่านหัวใจไปก็อาจถึงชั้นเสียชีวิตได้ แต่หากกรณีที่ใส่เสื้อที่เปียกชื้นก็อาจทำให้ไฟฟ้าไหลผ่านไปตามเสื้อผ้าทำให้เกิดไฟชอร์ต หรือผิวหนังไหม้ไปบ้าง ไม่ถึงขั้นเสียชีวิต
"ผมไม่เห็นด้วยตาก็ไม่ทราบว่าขั้นตอนและวิธีการในการทดลองเป็นอย่างไร แต่ในทางวิทยา ศาสตร์ ไม่สามารถอธิบายการทดลองของนายสุนทรได้ โดยเฉพาะกระแสไฟฟ้าขนาด 220 โวลต์ แค่ไปโดนก็สะดุ้งแล้ว ดังนั้นที่บอกว่าใช้มือเปล่าจับสายไฟขั้วบวกแล้วเอาสายไฟฟ้าขั้วลบไปแหย่ที่หลอดไฟ ให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านตามร่างกายแล้วทำให้ระบบไฟฟ้าครบวงจรนั้น คงเป็นไปไม่ได้แน่นอน อาจจะมีการเตรียมตัวหรือมีเทคนิคในการหลบหลีกบ้าง เพราะการทดลองครั้งนี้ผู้ทดลองก็เป็นผู้เตรียมขั้นตอนต่างๆ เอง หากให้ผมเป็นผู้กำหนดเงื่อนไขในการทดลอง ก็เชื่อว่านายสุนทรคงไม่กล้าเสี่ยง ดังนั้นถือเป็นการเล่นกลลักษณะหนึ่ง เช่นเดียวกับกรณีที่มีการนำมีดไปแทงคนในกล่องแต่คนไม่เป็นไร ซึ่งถือเป็นความสามารถเฉพาะตัว" นายชุมพล กล่าว
เมื่อถามว่าจากประวัติของนายสุนทร ระบุว่าถูกไฟฟ้าชอร์ตหลายครั้งทำให้กระแสไฟฟ้าอาจสะสมอยู่ในร่างกายนั้น นายชุมพล กล่าวว่า ธรรมชาติของวงจรไฟฟ้าไม่สามารถสะสมอยู่ในร่างกายของมนุษย์ได้ ในทางวิชาการเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่จะบอกว่า ร่างกายค่อยๆ ปรับตัวรับกระแสไฟฟ้าในระดับที่สูงขึ้นได้ ตนคิดว่าคงเป็นการเล่นกลในรูปแบบหนึ่งเท่านั้น