พี่เลี้ยงรับแล้วฆ่าเด็ก 2 ขวบ จับหัวโขกผนัง เอาพริกยัดปาก

พี่เลี้ยงสาวยอมเปิดปากรับสารภาพทำร้าย "น้องการ์ฟิวส์" จริง อ้างเด็กงอแงเลยจับหัวโขกผนังประจำ ถ้ารำคาญมากจะเอาพริกสดๆ ยัดปากเด็กจนช็อกเสียชีวิต

จากกรณี "น้องการ์ฟิวส์" วัย 2 ขวบ บุตรชายของ น.ส.เมรี อายุ 36 ปี ชาวจ.ชลบุรี เสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ โดยเบื้องต้นแพทย์ รพ.ชลบุรี ระบุว่าเด็กมีอาการเลือดคั่ง สมองบวม ตามร่างกายมีรอยเขียวช้ำ และพบพริกสด 1 เม็ด ยาวประมาณ 7 ซม. อยู่ในกระเพาะอาหาร

จึงสงสัยว่า น.ส.อ้อม (นามสมมุติ) พี่เลี้ยงสาววัย 26 ปี ที่ว่าจ้างให้ช่วยดูแลลูกชายเป็นคนทำร้ายจนเสียชีวิต จึงร้องเรียนไปยังมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี ก่อนเดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.อัสวิน จันโท พนักงานสอบสวน สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมกับประกาศจะไม่เผาศพบุตรชายจนกว่าความจริงจะปรากฏ ตามที่สื่อมวลชนได้รายงานไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าของคดีนี้เมื่อเวลา 11.00 น. (22 ม.ค.) พ.ต.อ.ชนพัฒน์ นวลักษณ์ ผกก.สภ.บางละมุง เปิดเผยว่า หลังทราบเรื่องจึงได้สั่งการให้ชุดสืบสวนไปตามตัวพี่เลี้ยงสาว ทราบชื่อจริงคือ น.ส.วันวิสา อายุ 26 ปี หรือ อ้อม มาสอบปากคำอย่างเคร่งเครียดเกือบทั้งคืน

จนในที่สุดเจ้าตัวก็ยอมเปิดปากรับสารภาพว่าได้ลงมือทำร้ายร่างกายน้องการ์ฟิวส์จริง โดยเฉพาะเวลาที่เด็กดื้อหรืองอแง ก็มักจะจับศีรษะโขกกับผนังบ้าน ตอนเวลาที่เด็กอาบน้ำแล้วร้องไห้ก็จะจับศีรษะโขกกับอ่างอาบน้ำ หรือไม่ก็ตบตีตามร่างกายเพื่อให้หยุดร้องเป็นประจำ

กระทั่งวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ น.ส.วันวิสา กำลังนั่งกินอาหารอีสาน จู่ๆ น้องการ์ฟิวส์ได้ร้องไห้กระจองอแงขึ้นมา ด้วยความรำคาญจึงหยิบพริกสดที่กินแกล้มกับลาบ มายัดใส่ปากน้องการ์ฟิวส์แล้วบังคับให้กลืนลงท้อง ทำให้เด็กเกิดอาการช็อกจนต้องหามส่งโรงพยาบาล และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

เบื้องต้นได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำมารดาของเด็กเพิ่มเติม พร้อมกับรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออำนาจศาลจังหวัดพัทยาออกหมายจับ ซึ่งคาดว่าน่าจะออกได้ในวันนี้ และในวันพรุ่งนี้จะมีการแถลงข่าวจับกุมอย่างเป็นการทาง โดยมีนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี มาร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้ด้วย

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านของ น.ส.วันวิสา ที่เปิดเป็นร้านขายของชำใกล้เคียงกับวัดสันติคาม พบว่ามารดาของ น.ส.วันวิสา ยังคงเปิดร้านให้บริการลูกค้าตามปกติ แต่ไม่ยอมเปิดเผยรายละเอียดใดๆ ในส่วนของเพื่อนบ้านใกล้เคียงเมื่อผู้สื่อข่าวไปสอบถามข้อมูลปรากฏว่า ทั้งหมดได้พากันเดินหนีและไม่ยอมให้สัมภาษณ์