ทหารอากาศตรวจซากโลหะปากพนัง ฟันธงเป็นเครื่องบินใหญ่

ทหารอากาศตรวจซากโลหะปากพนัง ฟันธงเป็นเครื่องบินใหญ่

ทหารอากาศตรวจซากโลหะปากพนัง ฟันธงเป็นเครื่องบินใหญ่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายทหารยุทธการ ศูนย์สนับสนุนทางอากาศโดยตรงที่ 4 เข้าตรวจสอบซากชิ้นส่วนที่ซัดเข้าหดปากพนัง เบื้องต้นระบุเพียงว่าเป็นเครื่องบินใหญ่

(24 ม.ค.) ความคืบหน้าในการติดตามคลี่คลายการพบชิ้นส่วนซากเครื่องบินบริเวณชายหาดหลังบ้านเลขที่ 145 หมู่ที่ 9 ตำบลท่าพญา อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยช่วงเย็นที่ผ่านมา นาวาอากาศโทนภดล อินทรเหมือน นายทหารยุทธการศูนย์สนับสนุนทางอากาศโดยตรงที่ 4 พร้อมเจ้าหน้าที่ ได้เข้าตรวจสอบชิ้นส่วนและบันทึกภาพอย่างละเอียด

โดยเฉพาะจุดที่ปรากฎซีเรียลนัมเบอร์ตามจุดต่างๆบนชิ้นส่วนนี้เพื่อรายงานผู้บังคับบัญชาระดับสูง และระบุเพียงว่าเป็นซากเครื่องบินขนาดใหญ่ไม่ใช่เครื่องบินทางทหารหรือเครื่องบินส่วนตัว ส่วนรายละเอียดอื่นๆนั้นให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงเป็นผู้ที่ชี้แจง โดยหลังจากนั้นนาวาอากาศโทนภดล ได้ปลีกตัวไปโทรศัพท์ ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

ขณะที่ พลอากาศตรีสรกฤต มังสิงห์ ผู้อำนวยการศูนย์นิรภัยการบินกองทัพอากาศ ได้ประสานงานการเข้าตรวจสอบพื้นที่และชิ้นส่วนอากาศยานชิ้นนี้โดยนำเครื่องบิน ซี 130 ของกองทัพอากาศพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบอากาศยานอุบัติเหตุกองทัพอากาศเข้าพื้นที่ เช่นเดียวกับกรมการบินพลเรือนของมาเลเซีย ที่จะเข้ามายังพื้นที่นครศรีธรรมราช เพื่อตรวจสอบชิ้นนี้เช่นเดียวกัน

นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ระบุว่าได้เพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยของพื้นที่แล้วโดยเฉพาะชิ้นส่วนนี้เพื่อรักษาสภาพเดิมให้มากที่สุด ให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบและระบุได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะร่องรอยต่างๆที่เกี่ยวข้องกับวิธีการพิสูจน์ทราบ

หลังจากนั้นมีการชั่งน้ำหนักชิ้นส่วนชิ้นนี้พบว่ามีน้ำหนักทั้งสิ้น 102 กิโลกรัม ส่วนซีเรียลนัมเบอร์ที่ปรากฏบางส่วน และมีการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็นชิ้นส่วนของเครื่องบินแบบโบอิ้ง 777 ทำให้มีน้ำหนักน่าเชื่อว่าชิ้นส่วนนี้เป็นของเที่ยวบิน MH-370 ที่หายสาบสูญไปกว่า 1 ปี

ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทุกส่วนกำลังเร่งตรวจสอบและวิเคราะห์พื้นที่ ซึ่งหากมีการค้นพบในทะเลฝั่งอ่าวไทยจะเป็นการล้มทฤษฎีต่างๆที่ปรากฎในการค้นหาเที่ยวบินที่หายสาปสูญไปก่อนหน้านี้ และยังสร้างประเด็นใหม่ในการตรวจสอบสืบสวนในทฤษฎีของการก่อการร้าย สอดคล้องกับนายทหารที่เกี่ยวข้องรายหนึ่งระบุว่า

"เมื่อวิเคราะห์เส้นทาง ความสูงและลักษณะการบินของเที่ยวบินนี้ก่อนหายสาบสูญพบว่าบินวกมาฝั่งอ่าวไทยหลังจากนั้นไปยังอันดามันก่อนที่สัญญาณจะสูญหาย เป็นไปได้ว่าเที่ยวบินนี้ถูกบังคับบินและปิดระบบสัญญาณแสดงตัวตน ก่อนที่จะวกกลับมายังฝั่งอ่าวไทยและเกิดเหตุขึ้น จึงเป็นประเด็นที่ต้องสืบสวนการสูญหายและเหตุการณ์กับอากาศยานครั้งที่สำคัญครั้งหนึ่งของโลก" นายทหารรายนี้ระบุ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook