อึ้ง วัดไผ่ล้อมไม่เผาตุ๊กตาเทพ หลวงพี่น้ำฝนรับเลี้ยงไว้ใน'เนิร์สเซอรี่กุมารสมบัติ'

อึ้ง วัดไผ่ล้อมไม่เผาตุ๊กตาเทพ หลวงพี่น้ำฝนรับเลี้ยงไว้ใน'เนิร์สเซอรี่กุมารสมบัติ'

อึ้ง วัดไผ่ล้อมไม่เผาตุ๊กตาเทพ หลวงพี่น้ำฝนรับเลี้ยงไว้ใน'เนิร์สเซอรี่กุมารสมบัติ'
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีนายบุญส่ง บุตรชุน เจ้าหน้าที่ประจำฌาปนสถาน หรือเมรุวัดไผ่ล้อม อ.เมืองนครปฐม รับตุ๊กตาเทพจากเจ้าของเดิมที่เป็นแม่ค้าผลไม้ส่งในตลาดผลไม้แห่งหนึ่งในนครปฐม เพื่อให้ทำพิธีเผาและส่งวิญญาณที่สิงสถิตในตุ๊กตาเทพ เนื่องจากไม่อยากได้ ไม่ต้องการที่จะเลี้ยงไว้อีกต่อไป เนื่องจากทนแรงกดดันญาติพี่น้อง และกระแสต่อต้านของสังคมไม่ไหว อีกทั้งเวลาอุ้มพาไปนอกบ้านถูกมองด้วยสายตาเหยียดหยาม ตลกขบขันของคนในตลาดนั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม อ.เมือง จ.นครปฐม ได้รับตุ๊กตาแต่งกายคล้ายเครื่องทรงลิเก สีน้ำเงินติดดิ้นสีทอง ที่เชื่อว่าเป็นลูกเทพ มารวมไว้ในเนิร์สเซอรี่กุมารสมบัติ แทนการประกอบพิธีฌาปนกิจ(เผา) ตามที่คุณสุรีพร ร้องขอมาทางนายบุญส่ง เจ้าหน้าที่ประจำฌาปนสถาน หรือเมรุ และฝากเงินสดไว้ 10,000 บาท เพื่อซื้ออุปกรณ์ เครื่องพิธีกรรมและน้ำมันดีเซล ที่ใช้ในการเผานั้น

ด้าน พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือ หลวงพี่น้ำฝน กล่าวว่า อาตมารับทราบเรื่องดังกล่าว และทราบเจตนารมณ์ของเจ้าของตุ๊กตาเทพ และเข้าใจในความรู้สึกของโยม แต่การกระทำพิธีฌาปนกิจ หรือเผาศพ หรือซากชิ้นส่วนมนุษย์ ต้องกระทำตามกฎ ระเบียบราชการ แต่ตุ๊กตาเทพที่นำมาให้เผานั้น อาตมาไม่อนุญาตเด็ดขาด

เพราะ 1.ไม่ใช่ศพมนุษย์ ไม่ใช่ซากชิ้นส่วนมนุษย์ ที่ต้องทำการเผาตามประเพณีและตามกฎหมาย 2.อาตมากระทำการอันเป็นการทำร้ายจิตใจญาติโยม ที่ศรัทธาในสิ่งที่ญาติโยมศรัทธาไม่ได้ และ 3.อาตมาต้องให้ความเคารพความเชื่อ ความศรัทธา และวัตถุประสงค์ของผู้จุติตุ๊กตาเทพ และผู้รับตุ๊กตาเทพมาครอบครอง

"อาตมาฝากบอกถึงญาติโยมทั้งหลาย ว่าเมื่อท่านศรัทธาในสิ่งใดแล้วแต่ต้องยึดมั่นในความดี ยึดมั่นในความกตัญญู รู้บุญคุณ และขยันหมั่นเพียรด้วย จึงสำเร็จ สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องมือช่วยในด้านจิตใจ เป็นขวัญกำลังใจในการประกอบอาชีพ ทุกสิ่งต้องคิด วิเคราะห์ และแยกแยะ ในทุกเรื่อง

และหากญาติโยมท่านใดไม่อยากได้ตุ๊กตาเทพ หรือไม่อยากเลี้ยงตุ๊กตาเทพ หรือกุมารทองจากสำนักไหนก็ตาม นำมาฝากอาตมาเลี้ยงดูไว้ที่เนิร์สเซอรี่กุมารสมบัติได้ทุกเวลา และเมื่ออยากจะนำกลับเมื่อไรก็มานำกลับไป บนแท่นกุมารสมบัติที่เป็นเนิร์สเซอรี่ มีกุมารต่างๆ ที่ญาติโยมไม่ต้องการ แตกหัก ดื้อซน มาทิ้งไว้มากมายกว่า 1,000 องค์"

ขณะเดียวกัน นายสมพงษ์ ไกรธีรางกูร หรือ โอเลี้ยง เชิญยิ้ม ได้เดินทางมาขอตุ๊กตาเทพที่มีคนนำมาให้เผาทิ้ง เพราะดูจากข่าวแล้วเกิดสงสารว่า ตุ๊กตาเขาไปทำอะไรผิด สีสวยงดงาม เมื่อไม่ต้องการก็จะเอามาโยนทิ้งขว้าง เอามาเผาบ้าง ถึงแม้ว่าบางคนจะมองว่าเป็นเพียงตุ๊กตาพลาสติกธรรมดา แต่ผมเป็นนักแสดง เป็นตลก น่าจะได้ประโยชน์จากการนำตุ๊กตาเทพไปใช้ อย่างที่เห็นชัดเจนคือมาขอฟรี ไม่ต้องไปซื้อหาราคาเป็นหมื่นๆ บาท

นายโอเลี้ยงกล่าว และว่า พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน ท่านเมตตามอบกุมารสมบัติให้แทนตุ๊กตาเทพ ให้ไปช่วยปลดหนี้ และหางานแสดง งานตลก ในส่วนตัวเชื่อมั่นว่ากุมารทองนั้นมีจริงตามตำนาน และเมื่อหลวงพี่น้ำฝนให้กุมารสมบัติถือสังข์มาแทนน่าจะเป็นมงคลชีวิตมากกว่านำตุ๊กตาเทพไป

ด้าน นายวิโรจน์ อุ่นทรัพย์ ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า การที่วัดไผ่ล้อมไม่รับฌาปนกิจ หรือเผา ตุ๊กตาเทพ ตามที่มีคนมาขอให้ทำการเผานั้น ถูกต้องแล้ว เพราะเรื่องของสังคมจะนำมารวมกับเรื่องศาสนา การฌาปนกิจ หรือเผา เป็นส่วนหนึ่งในกิจของสงฆ์ตามครรลอง และขอฝากถึงเจ้าของตุ๊กตาเทพทั้งหลาย อย่าทำแบบนี้อีกเลย

เมื่อยามที่ท่านรักและเห่อเหิมอยากได้ ท่านก็จะหลงงมงายตามกระแสสังคมจริงบ้างเก๊บ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเก๊ หาเช่าซื้อมาอุ้มชูกัน แต่ยามที่ท่านเบื่อหรือมีกระแสต่อต้านท่านอับอายก็จะโยนทิ้งขว้างเป็นขยะข้างทาง ขยะตามโคนโพธิ์ โคนต้นไม้ใหญ่ และตามวัดวาอาราม จึงขอให้คิด วิเคราะห์ แยกแยะในเรื่องนี้อย่างมีวิจารณญาณ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook